วานนี้ (18 กันยายน) ประชาชนชาวลิเบียหลายร้อยคนได้ออกมารวมตัวประท้วงในเมืองเดอร์นา เพื่อแสดงความโกรธแค้นต่อเจ้าหน้าที่ และเรียกร้องให้ทางการแสดงความรับผิดชอบมากขึ้น หลังเหตุน้ำท่วมรุนแรงที่คร่าชีวิตผู้คนหลายพันคนและทำลายพื้นที่ชุมชนจนพังพินาศได้ผ่านมาแล้วกว่า 1 สัปดาห์
การประท้วงที่เกิดขึ้นนี้ได้มุ่งเป้าไปยังเจ้าหน้าที่หลายคน รวมถึง อากีลา ซาเลห์ (Aguila Saleh) หัวหน้ารัฐสภาลิเบียในภูมิภาคตะวันออก โดยประชาชนได้มารวมตัวกันนอกมัสยิดซาฮาบา (Sahaba) ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญของเมืองเดอร์นา ขณะที่มีผู้ประท้วงบางส่วนจุดเผาไฟบ้าน อับเดลมีนัม อัล-ไกธี (Abdulmenam al-Ghaithi) อดีตนายกเทศมนตรีเมืองเดอร์นาที่ดำรงตำแหน่งในช่วงน้ำท่วม ก่อนที่เขาจะถูกพักงานในเวลาต่อมา
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนับเป็นการประท้วงใหญ่ครั้งแรกตั้งแต่เกิดเหตุน้ำท่วมเมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา โดยในวันดังกล่าว อิทธิพลจากพายุแดเนียลได้ทำให้เกิดฝนตกหนัก ประกอบกับว่ามีเขื่อนหลัก 2 แห่งในเมืองพังถล่มลงมา จนทำให้มวลน้ำก้อนใหญ่ไหลซัดเมืองเดอร์นาพังพินาศ อีกทั้งยังมีประชาชนเสียชีวิตหลายพันคนด้วยกัน
“อากีลา เราไม่ต้องการคุณ! ชาวลิเบียทุกคนเป็นพี่น้องกัน” หนึ่งในข้อความที่ชาวลิเบียตะโกนโห่ร้องในการประท้วง โดยขอให้ประชาชนผนึกกำลังกันในประเทศที่เกิดรอยร้าวขึ้นจากปมความขัดแย้งทางการเมืองที่ดำเนินมากว่าทศวรรษ ขณะที่บางส่วนก็ได้เรียกร้องให้มีการสอบสวนเหตุเขื่อนถล่ม ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
สำหรับความคืบหน้าในฝั่งไทยนั้น วานนี้ ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เป็นประธานในพิธีมอบเงินช่วยเหลือในนามรัฐบาลไทยจำนวน 1.5 ล้านบาทแก่รัฐบาลลิเบีย โดยมี อาชูร ซาลิม อาชูร อุมรอน อุปทูตลิเบียประจำประเทศไทยเป็นผู้รับมอบ เพื่อนำเงินจำนวนดังกล่าวไปใช้สนับสนุนปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อไป
ภาพ: Hussam AHMED / AFP
อ้างอิง: