×

‘ที่นี่ไม่มีที่ให้เรายืน’ เสียงจาก LGBTQIA+ ในซาอุ ประเทศที่ลงโทษคนหลากหลายทางเพศถึงขั้นประหารชีวิต

20.04.2023
  • LOADING...
LGBTQIA+ ซาอุ

เมื่อปีที่ผ่านมา เตอร์กี (Turki) วัยรุ่นชาวซาอุดีอาระเบีย ตัดสินใจรวบรวมความกล้าที่มีทั้งหมดประกาศออกไปให้คนรอบข้างได้รู้ว่า ‘เขาเป็นเกย์’ โดยหวังที่จะได้รับความรักความเข้าใจจากเพื่อนฝูง ครอบครัว คนรอบตัว และสามารถใช้ชีวิตให้เป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่

 

แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับมานั้นไม่เป็นดั่งฝัน ครอบครัวของเตอร์กีรับไม่ได้อย่างรุนแรงกับเพศวิถีของลูกชายที่ไม่เป็นไปตามบรรทัดฐานของสังคม ทำให้เตอร์กีต้องหอบสภาพจิตใจที่บอบช้ำหนีออกมาจากประเทศอนุรักษนิยม เพื่อแสวงหาเสรีภาพและความปลอดภัยให้กับชีวิตของตัวเองในโลกตะวันตก

 

เตอร์กียอมเปิดใจให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว AFP โดยเล่าย้อนไปถึงคืนวันอันเจ็บปวดที่ถูกครอบครัวปฏิเสธตัวตนที่แท้จริง เตอร์กีถูกพ่อ แม่ และพี่ชายของเขาขังไว้ในห้อง พร้อมห้ามไม่ให้เขาออกไปเรียนที่มหาวิทยาลัย เนื่องจากอับอายที่เตอร์กีมีรสนิยมทางเพศแบบชายรักชาย

 

“เมื่อแม่รู้ว่าผมมีรสนิยมทางเพศแบบไหน แม่ก็บอกกับผมว่า ‘แกไม่ใช่ลูกชายของฉัน’”

 

“พ่อและพี่ชายทุบตีผมอย่างหนัก เขาไม่ให้ผมออกจากบ้าน ไม่ให้ผมไปหาเพื่อนอยู่นานหลายสัปดาห์”

 

สิ่งที่เตอร์กีเจอไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ในซาอุดีอาระเบีย เพราะภายใต้การตีความกฎหมายอิสลามของประเทศ การทำตัวตรงข้ามกับเพศกำเนิดถือเป็นสิ่งที่ผิด เนื่องจากขัดต่อความเชื่อและศีลธรรมอันดีของศาสนา ขณะที่การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างคนเพศเดียวกัน แม้จะเกิดขึ้นโดยสมัครใจก็ถือเป็นสิ่งต้องห้าม ซึ่งอาจนำไปสู่การลงโทษรุนแรง เช่น การเฆี่ยนตีหรือประหารชีวิตได้ ขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของคดี

 

ด้วยเหตุดังกล่าว ชาว LGBTQIA+ หลายคนในซาอุดีอาระเบียจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องจำใจเดินทางออกจากประเทศบ้านเกิด เตอร์กีเองก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยหลังประสบเหตุการณ์ดังกล่าว เขาก็ตั้งหน้าตั้งตาเก็บเงินซื้อตั๋วเครื่องบินเที่ยวเดียว และหนีออกจากบ้านมาหลังจากนั้นเพียงไม่กี่เดือน

 

“ผมหนีออกจากบ้านมาตอนกลางคืน และบินมาที่ลอนดอนเพื่อชีวิตที่ดีกว่า” 

 

บ้านหลังใหม่ของเขาอยู่ที่ประเทศอังกฤษ เป็นแฟลตห้องเล็กๆ ที่แชร์ร่วมกับคนอื่น พร้อมบอกว่าตอนนี้เขามีความสุขกับชีวิตที่เรียบง่าย…แต่เต็มไปด้วยอิสระ

 

ชีวิตที่ไม่ถูกยอมรับ

 

อย่างไรก็ตาม แม้การรักเพศเดียวกันจะถือเป็นความผิดร้ายแรงที่อาจมีโทษถึงขั้นประหารชีวิต หากตีความตามตัวบทกฎหมายของซาอุดีอาระเบีย แต่ถึงเช่นนั้น ข้อมูลจากรายงานด้านสิทธิมนุษยชนในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งจัดทำโดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ในปี 2021 ‘ไม่มีการดำเนินคดีภายใต้กฎหมายเหล่านี้ เว้นแต่ว่าเกิดกรณีที่มีคนโพสต์รูปของผู้ที่แต่งกายข้ามเพศลงบนโซเชียลมีเดีย’ ชี้ให้เห็นว่าโทษของการแสดงออกตรงข้ามกับเพศสภาพที่มีการบังคับใช้จริง อาจไม่ได้รุนแรงถึงขั้นที่ระบุไว้ในกฎหมาย

 

แต่ถึงเช่นนั้น การเป็นเกย์ก็ไม่ใช่เรื่องที่คนทั่วไปในซาอุดีอาระเบียยอมรับอยู่ดี เห็นได้ชัดจากหลายข่าวที่ออกมา โดยเมื่อปี 2022 ทางการซาอุดีอาระเบียได้เดินหน้ายึดเสื้อผ้าเด็ก ของเล่นสีรุ้ง รวมถึงสินค้าประเภทอื่นๆ ที่มีลักษณะหลากสีสันในร้านค้า โดยให้เหตุผลว่าสินค้าสีรุ้งเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มคนรักเพศเดียวกัน อีกทั้งยังสนับสนุนพฤติกรรมเบี่ยงเบนซึ่งขัดต่อศีลธรรมอันดี นอกจากนี้ โรงภาพยนตร์ก็ประกาศแบนการฉายหนังที่มีฉากเกี่ยวโยงกับความหลากหลายทางเพศ เช่น Doctor Strange in the Multiverse of Madness และ Lightyear

 

ยาสมิน ฟาโรก (Yasmine Farouk) จากองค์กร ​​Carnegie Endowment for International Peace กล่าวว่า “แม้ในตอนนี้จะมีการปฏิรูปสังคมครั้งใหญ่ แต่เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบีย ควรที่จะต้องทำให้บรรทัดฐานเรื่องเพศในสังคมของซาอุนั้นนุ่มนวลลงกว่าเดิม” โดยเฉพาะในด้านสิทธิของชาว LGBTQIA+ ซึ่งมีความอ่อนไหวอย่างมาก 

 

ความหวังที่ริบหรี่

 

สถานการณ์ที่เตอร์กีเจอนั้น เป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็กๆ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความทุกข์ที่อัดแน่นอยู่ในใจของชาว LGBTQIA+ ในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งพวกเขายอมรับว่า ‘แทบไม่มีหวัง’ ที่ประเทศนี้จะเปลี่ยนแปลงได้

 

“ไม่ว่าจะมีการปฏิรูปใดๆ เกิดขึ้น ผมก็ยังนึกไม่ออกว่าสังคมจะยอมรับพวกเราได้อย่างไร” เตอร์กีกล่าว

 

“ที่นี่ไม่มีที่ให้เรายืน”

 

นอกจากนี้ ชาว LGBTQIA+ หลายคนได้เล่าให้สำนักข่าว AFP ฟังถึงเรื่องราวของ เอเดน ไนต์ (Eden Knight) หญิงข้ามเพศชาวซาอุดีอาระเบียที่คาดว่าเธอได้ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง หลังจากที่เดินทางจากสหรัฐอเมริกากลับสู่บ้านเกิดอีกครั้ง

 

ก่อนที่จะเสียชีวิต ไนต์ได้ทวีตเรื่องราวของเธอผ่านทางทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 12 มีนาคม เธอกล่าวว่ามีคนพยายามตามหาตัวเธอทุกวัน ขณะที่ครอบครัวของเธอก็ด่าทอว่าเธอเป็นตัวประหลาด

 

“ก่อนหน้านี้ฉันเคยพยายามฆ่าตัวตายมาแล้ว แต่ก็รอดมาได้”

 

“แต่สำหรับครั้งนี้ ฉันทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว”

 

หลังจากนั้นก็ไม่มีใครได้รู้เรื่องราวของไนต์อีกเลย

 

ภาพ: BongkarnGraphic Via Shutterstock

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X