อีแจมยอง ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน liberal Democratic Party ของเกาหลีใต้ และอดีตทนายความสิทธิมนุษยชนวัย 61 ปี คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดี ด้วยคะแนนเสียง 49.42 เปอร์เซ็นต์จากผู้ลงคะแนนเกือบ 35 ล้านคน ส่วน คิมมุนซู คู่แข่งจากฝ่ายอนุรักษนิยมได้รับคะแนนเสียง 41.15 เปอร์เซ็นต์
ชัยชนะของอี ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ของเกาหลีใต้ หลังผ่านช่วงเวลาแห่งความวุ่นวายตลอดระยะเวลากว่า 6 เดือน จากการประกาศกฎอัยการศึกของอดีตประธานาธิบดียุนซอกยอล
โดยอีเรียกการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นว่าเป็น ‘วันพิพากษา’ ต่อกฎอัยการศึกของยุน และกล่าวสุนทรพจน์ในการประกาศชัยชนะนอกรัฐสภาว่า
“ภารกิจแรกคือการเอาชนะการก่อกบฏอย่างเด็ดขาด และให้แน่ใจว่าจะไม่มีการก่อรัฐประหารอีกครั้งด้วยปืนและดาบที่หันมาทำร้ายประชาชน”
“เราสามารถเอาชนะความยากลำบากชั่วคราวนี้ได้ด้วยพลังร่วมของประชาชนของเรา ซึ่งมีความสามารถมากมาย”
อีได้รับการยืนยันให้ชนะการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติ โดยรับตำแหน่งประธานาธิบดีและผู้บัญชาการสูงสุดทันที ขณะที่ได้เข้าทำพิธีสาบานตนที่รัฐสภาในเวลา 11.00 น. ของวันนี้ (4 มิถุนายน) ตามเวลาท้องถิ่น
ทั้งนี้ อียังให้คำมั่นที่จะฟื้นฟูภาวะเศรษฐกิจและแสวงหาสันติภาพกับเกาหลีเหนือผ่านการเจรจาและจุดยืนที่แข็งแกร่งของเกาหลีใต้
ขณะที่เขายังมีภารกิจท้าทาย โดยเฉพาะการเจรจาข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ เพื่อเลี่ยงการเผชิญภาษีตอบโต้ของรัฐบาลทรัมป์ในอัตรา 25% ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากภาษีตอบโต้ในอัตราดังกล่าวมีผลบังคับใช้ อาจจุดชนวนให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจภายในเกาหลีใต้
ภาพ: ANTHONY WALLACE / Pool via REUTERS
อ้างอิง: