เมื่อเกือบ 21 ปีก่อน มีเด็กหนุ่มเพิ่งอยู่แค่ระดับมัธยม ชื่อ เลอบรอน เจมส์ ได้สร้างปรากฏการณ์ขึ้นปกนิตยสารชื่อดังอย่าง Sports Illustrated พร้อมคำว่า ‘The Chosen One’
มันคือการประกาศศักดากล้าท้าทายอย่างไม่เกรงใจใครในวงการบาสเกตบอล
เจมส์ยังจารึกรอยสัก ‘Chosen 1’ ลงบนแผ่นหลังตั้งแต่ยังอยู่มัธยมด้วย
คริส เดนนิส คนทำเว็บไซต์ให้เจมส์สมัยเขายังอยู่มัธยมและเข้า NBA ช่วงแรกๆ เล่าว่า ตอนที่เห็นรอยสักดังกล่าวในล็อกเกอร์รูม
“ก็รู้สึกประมาณ เฮ้ย จริงดิ? โอเค เอาไงเอากัน ผมถอยฉากมาครุ่นคิด
“ให้ตายสิ เขาคิดแบบนั้นจริงใช่ไหม?
“แต่เขารู้ศักยภาพตัวเองแหละ”
ตัดภาพมาปัจจุบัน เจมส์กวาดมาทั้ง MVP 4 สมัย แชมป์ NBA 4 สมัย สร้างผลงานได้สมราคาความมั่นใจดังกล่าว
จากเด็กหนุ่มผู้โดนคาดหวังอย่างมหาศาล ตั้งแต่ถูกดราฟต์คนแรกปี 2003 ว่าจะต้องเป็นผู้ถือคบเพลิงนำลีกคนใหม่ ก่อนจะทันลงแข่งอาชีพเกมแรก
คารีม อับดุล-จาบ์บาร์ อดีตขุนพลมิลวอคกี้ บัคส์ และเลเกอร์ส แซงหน้า วิลท์ แชมเบอร์เลน ขึ้นเป็นผู้ครองสถิติทำแต้มสูงสุดของ NBA เอาไว้เมื่อวันที่ 6 เมษายน 1984 หรือ 8 เดือนก่อนเจมส์จะลืมตามาดูโลก
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2023 ด้วยวัย 38 ปี เสาหลักของแอลเอ เลเกอร์ส ทะยานขึ้นมายืนหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์การทำสกอร์ตลอดกาล NBA เรียบร้อย
เขาขึ้นชู้ต เฟดอเวย์ ระยะ 14 ฟุต ก่อนจบควอเตอร์สาม 10.9 วินาที ลงห่วง ลบสถิติ 38,387 คะแนนของอับดุล-จาบ์บาร์ ระหว่างแข่งขันกับโอคลาโฮม่า ซิตี้ ธันเดอร์
เจมส์กางสองแขนออกและเงยหน้าขึ้น
ช่างภาพรีบกรูกันลงไปหาเขาบนคอร์ต ท่ามกลางเสียงตะโกนจากคนดูใน Crypto.com Arena “MVP, MVP”
วิดีโอบอร์ดกลางสนามก็นำเอาไฮไลต์เส้นทางอาชีพของเจมส์ออกจอทันที
เกมหยุดชะงักไปร่วมสิบนาที ให้เจมส์มีโอกาสสวมกอดครอบครัว ทั้งภรรยา แม่ และลูกๆ สามคน
อดัม ซิลเวอร์ คอมมิชชันเนอร์ NBA ลงมาพร้อมอับดุล-จาบ์บาร์ซึ่งนั่งดูเกมอยู่ตรงเบสไลน์ใกล้ฝั่งเลเกอร์ส
“สถิติยืนหยัดมาเกือบ 40 ปี” ซิลเวอร์กล่าว “ผู้คนจำนวนมากไม่นึกว่าจะมีใครทำลายลงไปได้ เลอบรอน คุณคือผู้ที่ทำสกอร์มากสุดตลอดกาลของ NBA แล้ว ขอแสดงความยินดี”
อับดุล-จาบ์บาร์ถือบอลชูขึ้นมาแล้วส่งมอบให้เจมส์ คล้ายกับการส่งต่อคบเพลิง
พวกเขาถ่ายรูปกับซิลเวอร์แล้วก็ถ่ายร่วมกัน
เจมส์ปลาบปลื้มจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ “ผมอยากขอบคุณผู้ที่มีศรัทธากับเลเกอร์ส การที่มีตำนานผู้ยิ่งใหญ่แบบคารีมมาเป็นคนส่งมอบ ผมรู้สึกเขินอายอย่างมาก ได้โปรดลุกขึ้นปรบมือให้กัปตันด้วยครับ”
จากนั้นเขาได้กล่าวขอบคุณครอบครัวและคนซึ่งคอยเป็นกำลังใจ รวมทั้งซิลเวอร์และ เดวิด สเทิร์น อดีตคอมมิชชันเนอร์ผู้ล่วงลับ
“ผมขอบคุณพวกคุณอย่างมากกับการอนุญาตให้ผมได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ผมใฝ่ฝันมาตลอด”
ก่อนแข่ง เจมส์มีสกอร์มา 38,352 ต้องการอีก 36 เพื่อแซงอับดุล-จาบ์บาร์
ทั้งเกมเขาจัดการ 38 แต้ม ยิงลง 13 จาก 20 ครั้ง (ระยะสาม ลง 4 จาก 6 หน) พร้อมกับ 7 รีบาวด์ น่าเสียดายเลเกอร์สกลับไม่รอด พ่ายธันเดอร์คารัง 130-133
“การได้เห็นครอบครัว เพื่อนฝูง คนที่อยู่กับผมตั้งแต่ตอนเริ่มเส้นทางเข้า NBA สร้างความสะเทือนอารมณ์มาก ผมเป็นแค่เด็กคนหนึ่งจากเมืองเล็กๆ ในโอไฮโอ กลับได้มีโมเมนต์แบบนี้ แต่ความรู้สึกมันก็ยังไม่ตกผลึกซะทีเดียว”
สื่อมวลชนเกิน 200 รายขอทำบัตรนักข่าวเพื่อเข้าร่วมรายงานในเกมนี้ จำนวนอย่างกับเกมเพลย์ออฟรอบลึกๆ
ครอบครัวเจมส์ เพื่อนฝูงจากแอครอน โอไฮโอ รวมทั้งอดีตเพื่อนร่วมทีมมัธยมบางคนก็อยู่ในสนามแข่งด้วย
เจมส์ไม่ทำให้ผิดหวัง เมื่อสกอร์ 20 ตั้งแต่ครึ่งแรก โชว์ทักษะเกมบุกว่ายังน่ายำเกรง แม้จะอยู่ใน NBA นานถึงสองทศวรรษ
จากนั้นเจมส์ก็กดรัวอีก 16 คะแนน ควอเตอร์สาม ปิดด้วยลูกชู้ตประวัติศาสตร์
“หลายคนอยากให้ผมใช้ท่าสกายฮุกทำลายสถิติ หรือเป็นท่าดังก์เด็ดๆ แต่ลูกเฟดอเวย์ก็เป็นท่าเด็ดของผมเหมือนกัน” เจมส์กล่าวพร้อมรอยยิ้ม
อับดุล-จาบ์บาร์ให้สัมภาษณ์หลังจบเกม “เส้นทางอาชีพของเลอบรอนสะท้อนให้เห็นถึงคนที่ตั้งใจจะครองลีกนี้เต็มที่ และก็เกิดขึ้นมาถึง 20 ปีแล้วด้วย คุณต้องให้เครดิตกับวิธีการแข่งขันของเขา และแนวทางที่เหนือกว่าใครอย่างยาวนาน เขามีคุณสมบัติที่เป็นแก่นแท้ของคำว่าผู้นำ”
แมจิก จอห์นสัน เพื่อนร่วมทีมอับดุล-จาบ์บาร์ในยุคเลเกอร์สรุ่งเรืองสำทับว่า “ไม่เคยนึกจะมีใครมาทำลายสถิติของคารีมได้เลย มันยิ่งมีความหมายสำหรับผม เมื่อคุณสวมชุดม่วงทอง และทำลายมันในฐานะเลเกอร์ส”
วี่แววความยิ่งใหญ่เกิดตั้งแต่เจมส์เปิดตัวกับคลีฟแลนด์ แคฟเวเลียร์ส ด้วยวัยเพียง 18 ปี
คะแนนแรกในอาชีพของเขามาจากระยะ 16 ฟุต ระหว่างเกมเดินทางไปปราชัยซาคราเมนโต้ คิงส์ 106-92 เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2003
ทั้งเกมเจมส์สกอร์ 25 ไม่เคยมีเด็กมัธยมคนไหนเปิดตัวแล้วได้คะแนนเยอะขนาดนี้มาก่อน
“ผมก็แค่พยายามทำอย่างเต็มความสามารถ” เจมส์ให้สัมภาษณ์หลังเกมดังกล่าว
เดนนิสบอกว่า “ผมรู้ทันที เขาต้องกลายเป็นผู้เล่นยิ่งใหญ่หลังจากเกมแรกในซาคราเมนโต้”
เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมทีม เจมส์ตอนเขายังเป็นแค่รุกกี้และยังไม่ทันชู้ตลงหนแรกด้วยซ้ำ
เจอเลนี่ แม็คคอย อดีตเซ็นเตอร์ เคยอยู่กับแคฟเวเลียร์สซีซัน 2003/04 บอกว่า สิ่งที่โดดเด่นเตะตาก็คือการซ้อมก่อนเข้าเทรนนิ่งแคมป์
“มันเป็นเกมซ้อมกันเล่นๆ เขากดทีเดียวเป็นสิบแต้มใส่ผู้ใหญ่กว่าแบบง่ายดาย ก่อนจะออกจากยิมด้วยลูกชู้ตระยะสาม ยังกับ สเตฟเฟ่น เคอร์รี่ เขาไม่หันมามองตอนออกจากคอร์ต ปล่อยพวกที่เก๋าๆ ดูบอลมันลงผ่านตาข่ายขณะเขาเดินออกไป
“ต่อให้เขาต้องเป็นคนดูก็จะคอยเชียร์คนที่ลงไปซ้อม ผมไม่เคยเห็นเด็กหนุ่มอายุแค่นั้น ยังเป็นรุกกี้ แต่กลับรับมือกับชื่อเสียงตัวเองได้สบายๆ ไม่แปลกแยกจากคนรอบข้าง”
ดิซากาน่า จ็อป อดีตเซ็นเตอร์เช่นกัน เคยเล่นให้แคฟเวเลียร์สระหว่างปี 2001-2005 เป็นอีกคนที่ซูฮกเจมส์ตั้งแต่เห็นเขาซ้อมครั้งแรก
“ผมทึ่งเมื่อเห็นเขาวอร์มร่างกายและยืดเหยียดทั้งก่อนและหลังซ้อมไปจนถึงเวลาแข่งขัน เขาดูแลตัวเองตั้งแต่อายุแค่นั้น”
อับดุล-จาบ์บาร์แข่งเกมสุดท้ายในฤดูกาลปกติ เป็นซีซันที่ 20 เมื่อวันที่ 24 เมษายน 1989 ทำไป 10 แต้ม ช่วยเลเกอร์สสยบซีแอตเทิ่ล ซูเปอร์โซนิกส์
ผู้เล่นออลสตาร์ 19 สมัย อายุ 42 ปี ทำสกอร์รวมทิ้งทวน 38,387 ขณะนั้นเจมส์เพิ่งอายุสี่ขวบ อยู่ในเมืองแอครอน โอไฮโอ
“นั่นคือหนึ่งในสถิติอันยิ่งใหญ่สุดของวงการกีฬา” เจมส์เคยพูดเอาไว้ “อยู่ระดับเดียวกับสถิติโฮมรันของเบสบอล เป็นหนึ่งในสถิติที่คุณไม่เคยคิดเคยเห็นว่าจะต้องโดนทำลาย”
เจมส์ทำท่าจะแข่งได้ถึงอายุ 40 กว่ายังได้
สมัยอับดุล-จาบ์บาร์ อายุ 38 ปี เขาสกอร์เฉลี่ย 23.4 เมื่อซีซัน 1987/88 นั่นคือหนสุดท้ายที่เขาทำเฉลี่ยถึงหลัก 20
เมื่อถึงซีซันสุดท้ายในอีกสี่ปีให้หลัง เขาเฉลี่ยเกมละ 10.1 เท่านั้น
เจมส์อายุ 38 ปี กลับยังสกอร์เฉลี่ยระดับหัวแถวลีก ไม่ต่างจากสมัยแบกแคฟเวเลียร์สเข้าชิง NBA ปี 2008 ตอนอายุเพิ่ง 23 ปี
สิ่งที่แตกต่างอีกอย่างก็คือ อับดุล-จาบ์บาร์ชู้ตสามลงแค่หนเดียวตลอดอาชีพ แต่เจมส์สามารถสกอร์จากระยะดังกล่าวได้อีกมาก
เคนดริก เพอร์กิ้นส์ อดีตเซ็นเตอร์ดังซึ่งตอนนี้ทำงานกับ ESPN ยังจำภาพสมัยแข่งบาสมัธยมรุ่นเดียวกับเจมส์ให้ทีมโอ๊คแลนด์ โซลด์เยอร์ส
เขาเห็นเจมส์กินแต่อาหารสุขภาพและยืดเหยียดตัวเองทั้งก่อนกับหลังแข่ง พร้อมยังเข้าเรียนเรื่องการให้สัมภาษณ์สื่อ
แมฟเวอริก คาร์เตอร์ หุ้นส่วนธุรกิจของเจมส์บอกว่า ปีหนึ่งเจมส์ยอมจ่ายราว 1.5 ล้านดอลลาร์ (54 ล้านบาท) เพื่อร่างกายตัวเอง ทั้งฝึกซ้อม ฟื้นตัว การกินอาหารอย่างถูกหลัก
เจสัน คิดด์ โค้ชดัลลัส แมฟเวอริกส์ เคยโค้ชเจมส์ที่เลเกอร์ส และแข่งทีมชาติสหรัฐฯ ด้วยกัน ทึ่งกับความทรหดอย่างยาวนานของเจมส์ “บอกได้เลยว่าไม่มีใครในพวกเราจะเห็นเรื่องแบบนี้อีกแล้ว
“เวลาคุณพูดถึงสิ่งที่เขาทำให้ตัวเองแข่งขันมายาวนาน เขาฉลาดมากตั้งแต่ยังเด็ก เลือกแต่ให้คนที่ดีมาอยู่รอบข้าง
“เขายังสดชื่นตลอด สนุกกับการทำงาน เวลาพูดเรื่องร่างกาย เขายังชอบการยืดเหยียด ใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เพื่อความสำเร็จ แม้แต่เรื่องการยืดเหยียดเวลาห้าทุ่มก่อนเข้านอน
“เขาเข้าใจดีว่านั่นคือเรื่องต้องทำเพื่อให้แข่งขันยาวนาน เขายังเหมือนเด็กหนุ่มตลอดเวลา มีความสนุก ผลักดันตัวเองเพื่อเป็นผู้ชนะและได้แชมป์ เราต่างชอบเก็บสถิติ แต่เขาพร้อมแข่งขันต่อให้ไม่มีเรื่องสถิติ”
เจมส์กวาดประวัติศาสตร์เป็นผู้เล่นอายุน้อยสุดที่สกอร์ถึงหลัก 5,000 10,000 15,000 20,000 25,000 และ 30,000 คะแนน
เขาเป็นตัวสกอร์อันดับหนึ่งของแคฟเวเลียร์สเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2008 ตั้งแต่อายุเพิ่ง 23 ปี
เชื่อว่าเมื่อถึงวันที่เจมส์เลิกไปจะด้วยอายุเท่าไรก็ตาม คนที่จะมาทำลายสถิติทำสกอร์ของเขาคงยังไม่เกิด หรือสถิติดังกล่าวคงอยู่ไปชั่วฟ้าดินสลาย