การปะทะกันระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธในฉนวนกาซาที่รุนแรงที่สุดตั้งแต่ปี 2014 ดำเนินมากว่า 10 วันแล้ว แต่ล่าสุดยังเกิดอีกเหตุในอีกพื้นที่หนึ่งของอิสราเอลเมื่อคืนวานนี้ตามเวลาไทย เมื่อมีรายงานว่ามีจรวดถูกยิงจากฝั่งเลบานอนเข้ามายังพื้นที่ทางตอนเหนืออิสราเอลอีกครั้ง โดยกองทัพอิสราเอลระบุว่ามีจรวดจำนวน 4 ลูก ซึ่ง 1 ใน 4 ถูกสกัดกั้นไว้ได้ ส่วน 2 ใน 4 ตกในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และอีกหนึ่งลูกที่เหลือตกในพื้นที่โล่ง ทั้งนี้ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ และยังไม่มีรายงานเช่นกันว่าผู้ใดเป็นผู้ยิงจรวดในครั้งนี้
สำนักข่าว The Times of Israel รายงานว่า มีเสียงไซเรนดังขึ้นในเมือง Haifa ทางตอนเหนือของอิสราเอล ตลอดจนพื้นที่โดยรอบทั้งเมือง Shfaram, เมือง Acre และภูมิภาค Krayot ส่วนสำนักข่าว Reuters รายงานว่า ชาว Krayot ได้ยินเสียงระเบิดใหญ่ 3 ครั้ง ซึ่งแหล่งข่าวด้านความมั่นคงหลายรายระบุว่าจรวด 4 ลูกถูกยิงมาจากเมือง Seddiqine ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งทางตอนใต้ของเลบานอน และในเวลาต่อมาทหารอิสราเอลได้ใช้ปืนใหญ่โจมตีเป้าหมายจำนวนหนึ่งในดินแดนเลบานอนเพื่อตอบโต้ กองทัพของอิสราเอลยังทวีตข้อความด้วยว่าพวกเขาพร้อมสำหรับสถานการณ์ใดๆ ก็ตามที่เกิดขึ้นในทุกด้าน
ตลอด 10 วันที่ผ่านมามีจรวดถูกยิงจากทางตอนใต้ของเลบานอนเข้ามาทางตอนเหนือของอิสราเอลหลายครั้ง จรวดทั้งหมดไม่ก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ โดยกองทัพอิสราเอลชี้ว่าจรวดส่วนใหญ่ถูกสกัดกั้นไว้ได้ หรือไม่ก็ตกในพื้นที่ที่ไม่มีผู้อาศัย ทั้งนี้ในเลบานอนมีกลุ่มติดอาวุธหลายกลุ่มปฏิบัติการอยู่ ซึ่งรวมถึงกลุ่มฮิซบุลลอห์ กลุ่มติดอาวุธหนักที่มีการปฏิบัติการหลักอยู่ทางตอนใต้ของเลบานอนและเคยทำสงครามที่ยาวนานนับเดือนกับอิสราเอลในปี 2006 สงครามครั้งนั้นลงเอยด้วยการหยุดยิงที่มีองค์การสหประชาชาติเป็นตัวกลาง ขณะที่ชาวเลบานอน 1,190 คน และชาวอิสราเอลอีก 163 คนต้องเสียชีวิตไป
ส่วนการปะทะกันในพื้นที่อิสราเอลและฉนวนกาซา สำนักข่าว BBC รายงานโดยอ้างข้อมูลจากกองทัพอิสราเอลเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ว่า กลุ่มติดอาวุธได้ยิงจรวดราว 50 ลูกจากฉนวนกาซาตลอดวันพุธที่ผ่านมา และในจำนวนนี้ 40 ลูกถูกยิงมาสู่อิสราเอล ส่วนในช่วงค่ำอิสราเอลก็ยิงระเบิดโจมตีโครงข่ายอุโมงค์ใต้ดินที่ดำเนินการโดยกลุ่มติดอาวุธฮามาสซึ่งมีกว่า 40 อุโมงค์ และมีการกำหนดเป้าหมายไปที่สถานที่ผลิตอาวุธที่ใช้โดยกลุ่มญิฮาดอีกด้วย
และเมื่อสถานการณ์ดำเนินมาถึงวานนี้ ข้อมูลจาก BBC และหนังสือพิมพ์ The Haaretz รายงานว่ามีการปะทะกันและมีเสียงไซเรนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง แบ่งเป็นการโจมตีของอิสราเอลต่อโครงสร้างพื้นฐานทางการทหารในอพาร์ตเมนต์ของผู้บัญชาการกลุ่มฮามาส ซึ่งทำให้กลุ่มติดอาวุธอย่างน้อยสองรายเสียชีวิต รวมถึงการโจมตีฐานปล่อยจรวดใต้ดิน และกลุ่มอาคารสำนักงานด้านเทคโนโลยีของกลุ่มฮามาส ส่วนกลุ่มฮามาสเองก็ระบุเช่นกันว่าได้กำหนดเป้าหมายการโจมตีไปที่ฐานทัพอากาศของอิสราเอล นอกจากนี้ยังมีรายงานการยิงจรวดจากกาซาอีกหลายครั้ง หนึ่งในนั้นคือครั้งที่จรวด 7 ลูกถูกยิงมาจากกลุ่มติดอาวุธในกาซาและไปตกในพื้นที่ชุมชนหนึ่งของชาวอิสราเอลใกล้พรมแดนที่ติดกับฉนวนกาซา เป็นต้น และมีการตั้งเป้าสังหารบุคคลระดับผู้นำของกลุ่มฮามาสด้วย
กระทรวงสาธารณสุขของกาซาที่ดำเนินการโดยกลุ่มฮามาสระบุว่ามีผู้เสียชีวิตในกาซาแล้ว 227 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 64 ราย, ผู้หญิง 38 ราย และผู้สูงอายุ 17 ราย นอกจากนี้ยังมีประชาชนอีกกว่า 1,620 คนได้รับบาดเจ็บ ส่วนอิสราเอลรายงานว่าได้สังหารสมาชิกกลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์เสียชีวิตที่ในบริเวณกาซาแล้วมากกว่า 100 ราย และมีผู้เสียชีวิตในอิสราเอลอย่างน้อย 12 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นเด็ก 2 ราย รวมถึงมีรายงานจากสำนักข่าว Wafa ของปาเลสไตน์ว่ามีนักข่าวชาวปาเลสไตน์รายหนึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์การโจมตีทางอากาศในเมืองกาซาด้วย
ส่วนความพยายามในการยุติวิกฤตครั้งนี้ ปรากฏว่าวานนี้ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คุยโทรศัพท์สายตรงกับเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีของอิสราเอลเป็นครั้งที่ 4 ในห้วงความขัดแย้งนี้ โดยระบุว่าคาดหวังให้มีการลดระดับความรุนแรงลงบนเส้นทางสู่การหยุดยิง ทว่าหลังจากนั้นไม่นาน เนทันยาฮูกลับระบุผ่านทวิตเตอร์ว่าเขารู้สึกซาบซึ้งกับการสนับสนุนของไบเดนต่อสิทธิในการป้องกันตนเองของอิสราเอล และยืนยันว่าจะเดินหน้าปฏิบัติการของรัฐบาลเพื่อต่อต้านกลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์ต่อไป
“ผมมุ่งมั่นที่จะดำเนินการปฏิบัติการนี้ต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย – เพื่อนำสันติภาพและความปลอดภัยกลับคืนมาสู่คุณ พลเมืองอิสราเอล” เนทันยาฮูระบุ
และภายหลังการต่อสายตรงจากไบเดน โฆษกกลุ่มฮามาสในกาซายังระบุกับผู้สื่อข่าวว่า ยังไม่มีกำหนดการที่ชัดเจนกับการออกคำสั่งหยุดยิง เพราะความพยายามทั้งมวลของนานาชาติรวมถึงอียิปต์กลับต้องประสบกับจุดยืนของอิสราเอลปฏิเสธที่จะมีส่วนร่วมกับความพยายามทางการทูตเพื่อยุติความรุนแรง โฆษกกลุ่มฮามาสยังยืนยันว่าหากอิสราเอลยุติการทิ้งระเบิดในกาซา ก็มีพื้นที่สำหรับการพูดคุยเกี่ยวกับการเตรียมการเพื่อฟื้นคืนความสงบอีกครั้ง ด้าน มาห์มูด อับบาส ประธานาธิบดีของปาเลสไตน์ ออกแถลงการณ์กล่าวหาว่าอิสราเอล ‘กระทำการก่อการร้ายโดยรัฐอย่างเป็นระบบและก่ออาชญากรรมสงคราม’ ในฉนวนกาซา
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว AFP ก็รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวทางการทหารในอิสราเอลรายหนึ่งซึ่งไม่ระบุชื่อ ที่กล่าวว่าอิสราเอลกำลังประเมินถึงความเหมาะสมของเงื่อนไขในการหยุดยิง แต่ก็กำลังเตรียมการที่จะโจมตีอีกหลายวันหากจำเป็น โดยกำลังพิจารณาว่าเมื่อใดเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมและได้บรรลุเป้าหมายในการลดทอนขีดความสามารถในการต่อสู้ของกลุ่มฮามาส
และแม้ในด้านหนึ่ง ผู้นำสหรัฐฯ จะต่อสายตรงเพื่อแสดงความคาดหวังถึงการลดระดับความรุนแรง ทว่าอีกด้านหนึ่ง สำนักข่าว AFP รายงานว่าสหรัฐฯ ก็ปฏิเสธที่จะสนับสนุนร่างมติที่เรียกร้องให้มีการหยุดยิงซึ่งเสนอโดยฝรั่งเศส โดยเน้นย้ำว่าร่างมติดังกล่าวอาจทำลายความพยายามในการลดระดับความรุนแรงของวิกฤตในครั้งนี้ได้ พร้อมยืนยันว่าสหรัฐฯ โฟกัสกับความพยายามทางการทูตอย่างเข้มข้นเพื่อยุติความรุนแรง และจะไม่สนับสนุนการกระทำใดๆ ที่สหรัฐฯ เชื่อว่าจะบั่นทอนความพยายามในการลดระดับความรุนแรงลง ส่วนในสภาคองเกรส สมาชิกสภาผู้แทนสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครตหลายคนพยายามผลักดันให้ระงับการขายอาวุธมูลค่ากว่า 735 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่อิสราเอล แต่คาดว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่ผ่านการลงมติเนื่องจากผู้นำฝั่งพรรคโมแครตในสภาได้แสดงออกถึงการสนับสนุนการขายอาวุธนี้แล้ว
นอกจากนี้นักการทูตต่างชาติจำนวนมากยังพยายามเป็นตัวกลางในการทำข้อตกลงสันติภาพ และยังมีปฏิกิริยาจากชาติอื่นๆ เช่น รัสเซีย ที่ร่วมกับนานาชาติและองค์กรระหว่างประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และสหประชาชาติ ในการเรียกร้องให้มีการหยุดยิง โดยกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุว่าเจ้าหน้าที่อาวุโสของทางการรัสเซียได้กล่าวกับทูตอิสราเอลว่าการกระทำใดๆ ที่นำไปสู่การบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของพลเรือนในกาซาเพิ่มเติมนั้นถือเป็นสิ่งที่ ‘ยอมรับไม่ได้’
ภาพ: Ahmad GHARABLI / AFP
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
