วานนี้ (7 กรกฎาคม) หฤษฎ์ชัย ฤทธิช่วย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง จังหวัดพังงา รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 05.30 น. เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในตำบลท้ายเหมืองว่า พบร่องรอยการขึ้นมาวางไข่ของเต่าทะเลบริเวณทิศใต้ของหาดเขาหน้ายักษ์ จึงเข้าตรวจสอบ พบมีร่องรอยการขึ้นมาวางไข่ของเต่าทะเล ซึ่งอยู่ห่างจากเขาหน้ายักษ์มาทางทิศใต้ประมาณ 2 กิโลเมตร และห่างจากหลุมไข่เดิมที่แม่เต่าขึ้นมาวางไข่เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ประมาณ 1.5 กิโลเมตร
โดยจากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่คาดว่ารอยดังกล่าวเป็นร่องรอยของเต่ามะเฟือง เมื่อวัดขนาดความกว้างได้ 170 เซนติเมตร ความกว้างช่วงอก 80 เซนติเมตร จึงได้ขุดหาไข่เต่าจนเจอ วัดความลึกของหลุมไข่ได้ 70 เซนติเมตร พบไข่ทั้งหมด 100 ฟอง เป็นไข่ดี 91 ฟอง ไข่ลม 9 ฟอง
ทั้งนี้ เนื่องจากหลุมไข่ที่แม่เต่าวางไข่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลขึ้นสูงสุด และปัจจุบันอยู่ในช่วงฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งอาจเกิดความเสียหายต่อไข่เต่าได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ย้ายไข่ทั้งหมดมาเพาะฟักในลังโฟม โดยได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน ทั้งนี้ จะติดตั้งไฟกกไข่ เครื่องวัดอุณหภูมิ (Data Logger) เพื่อควบคุมอุณหภูมิและความชื้นให้เหมาะสมต่อการเพาะฟักของเต่ามะเฟือง ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญต่อไป
สำหรับเต่ามะเฟือง เป็นเต่าทะเลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ขนาดโตเต็มที่ยาว 210 เซนติเมตร หนัก 900 กิโลกรัม กระดองเป็นหนังหนาสีดำมีจุดประสีขาว มีร่องสันนูนตามยาว 7 สัน อาศัยอยู่ในทะเลเปิด กินแมงกะพรุนเป็นอาหารหลัก ในประเทศไทยพบวางไข่เฉพาะบริเวณชายหาดฝั่งตะวันตกของจังหวัดพังงาและภูเก็ต จัดเป็นสัตว์ทะเลหายากและใกล้สูญพันธุ์ เนื่องจากการอพยพย้ายถิ่นระยะไกล จึงมีแหล่งอาศัยในพื้นที่ทางทะเลระหว่างประเทศ และเป็นสัตว์ป่าสงวนลำดับที่ 18 ตาม พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล