ยิ่งแพลตฟอร์ม ‘อีคอมเมิร์ซ’ ถูกปรับให้ใช้งานง่าย มีอินเทอร์เฟซและฟีเจอร์ครอบคลุมรอบด้านแค่ไหน พร้อมไม้ตายแจกคูปองส่วนลดที่ล่อตาล่อใจ คนก็ยิ่งช้อปออนไลน์กันมากขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจดิจิทัลไทยขยายตัวเติบโตอย่างรวดเร็วจนน่าจะไปแตะที่ระดับ 16,000 ล้านบาทได้สบายๆ ในปีนี้
มีการประเมินอย่างไม่เป็นทางการโดย Google, Temasek และ Bain & Company ไว้ว่าปี 2562 นี้ มูลค่าของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในไทยน่าจะอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 31% ของเศรษฐกิจดิจิทัลไทยทั้งหมด เป็นรองเพียงภาคการท่องเที่ยวออนไลน์เท่านั้น โดยคาดว่าภายในปี 2568 อีคอมเมิร์ซในไทยน่าจะมีมูลค่ามากถึง 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
แต่ลำพังการพึ่งพาโปรโมชัน แคมเปญเฟสติวัลแจกคูปองส่วนลดเพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างเดียวคงไม่พอ Lazada จึงต้องเดินหน้ารุกกลยุทธ์แบบ ‘Shoptertainment’ นำฟีเจอร์ความบันเทิงต่างๆ เข้ามาช่วยดึงดูดให้คนใช้เวลาในแพลตฟอร์มของพวกเขานานขึ้น เพราะยิ่งคนใช้เวลากับแอปฯ บ่อยแค่ไหน โอกาสที่พวกเขาจะใช้จ่ายบนแพลตฟอร์มนั้นๆ ก็มีสูงขึ้นตามไปด้วย
ช่วงที่ผ่านมาเราจึงได้เห็น Lazada เพิ่มฟีเจอร์ไลฟ์สดแจกส่วนลดที่ทำร่วมกับ KOL หรือแบรนด์ดังต่างๆ ออกมาถี่มาก รวมถึงรายการจำพวกเกมโชว์แจกของรางวัลในรูปแบบคูปองส่วนลดหรือ Voucher ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์เดียวกันกับที่ Lazada ใช้ทำตลาดกับอีก 5 ประเทศในอาเซียนเพื่อดึงเอ็นเกจเมนต์จากผู้ซื้อ
ซึ่งเทคโนโลยีทั้งหมดที่ถูกนำมาใช้งานก็มาจากบริษัทแม่ของพวกเขาอย่าง ‘Alibaba’
และในเทศกาลช้อปปิ้งอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดแห่งปี ‘วันคนโสด 11.11’ (Single Day) Lazada ก็เตรียมยกเอาฟีเจอร์เหล่านั้นมาใช้งานกระตุ้นยอดขาย รวมถึงทำแคมเปญ Marketing Music กับเพลง ช้อปติดไซเรน และออกอากาศเกมโชว์แบบสดๆ บนจอโทรทัศน์ (ช่อง 33HD) เพื่อเคานต์ดาวน์เข้าสู่วันที่ 11 พฤศจิกายน โดยในระหว่างนั้นก็จะมีการแจกคูปองส่วนลด Voucher Rain ด้วย (ช่วงเวลาที่ขายดีที่สุดคือชั่วโมงแรกของ 11.11 หรือ 00.00-01.00 น.)
ภารดี สินธวณรงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด Lazada ประเทศไทย ให้ข้อมูลว่าช่วง 11.11 ปีที่แล้ว แพลตฟอร์มของเธอสามารถสร้างสถิติยอดขายได้ถึง 240,000 ออร์เดอร์ในช่วงโมงแรกของเทศกาล โดยมีจำนวนออร์เดอร์รวมตลอดทั้งวันเพิ่มขึ้นถึง 287% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สินค้าที่ขายดีที่สุดเรียงตามลำดับคือ สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต, เครื่องสำอาง, สินค้าในกลุ่มสุขภาพความงามอาหารเสริม และสินค้าแม่และเด็ก
สำหรับปีนี้ Lazada ตั้งเป้าเอาไว้ว่าจำนวนยอดการสั่งซื้อในเทศกาล 11.11 จะต้องเติบโตจากปีก่อนหน้าด้วยเลข 3 หลักให้ได้เช่นเคย และเชื่อว่าการที่เศรษฐกิจไทยชะลอตัวอาจจะไม่มีผลมากนัก เนื่องจากผู้บริโภคยังคงมองหาดีลที่ดีที่สุดในการซื้อสินค้าอยู่ดี ซึ่งอีคอมเมิร์ซจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวได้
แต่เมื่อมองจากช่วงที่ผ่านมาก็จะพบว่าไม่ใช่แค่ Lazada เท่านั้นที่ให้ความสำคัญกับเทศกาลแคมเปญกระตุ้นยอดขายในลักษณะนี้ เพราะแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเจ้าอื่นๆ ก็เริ่มใช้กลยุทธ์ส่งเสริมยอดขายแบบนี้ออกมาเป็นประจำเหมือนกัน (9.9 หรือ 12.12) ในแง่หนึ่งจึงน่าสนใจไม่น้อยว่ามันจะส่งผลให้ผู้ใช้งานรู้สึกถึง ‘ความถี่’ เกินไปหรือไม่
เรื่องนี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด Lazada ให้ความเห็นว่า ยิ่งมีเทศกาลส่งเสริมการช้อปบนอีคอมเมิร์ซบ่อยแค่ไหนก็ยิ่งเป็นประโยชน์กับตัวผู้บริโภคมากเท่านั้น (ได้รับส่วนลดต่างๆ) ที่สำคัญในมุมหนึ่งยังสะท้อนถึงการแข่งขันในอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซที่ดุเดือดในประเทศไทยได้อีกด้วย แต่ที่สุดแล้วเมื่อนึกถึง 11.11 คนก็จะนึกถึง Lazada เป็นแบรนด์แรกอยู่ดี เพราะเริ่มทำแคมเปญเป็นเจ้าแรกในไทยตั้งแต่ปี 2555
ปัจจุบัน Lazada มียอดผู้ใช้งานหรือผู้ซื้อสินค้ารวมทุกประเทศที่ทำตลาดในอาเซียนที่ 50 ล้านรายต่อปี ซึ่งในเชิงยอดขายทั้งหมด พวกเขาเพิ่งจะมีส่วนแบ่งแค่ 3% ของมูลค่าอีคอมเมิร์ซของโลกใบนี้เท่านั้น ภารดีจึงเชื่อว่าโอกาสการเติบโตของ Lazada ในสังเวียนนี้ยังมีอีกมาก
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
