วันนี้ (18 เมษายน) ที่สถานีตำรวจนครบาล (สน.) ลุมพินี ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม นำผู้เสียหายที่อ้างว่าถูกนักการเมืองคนหนึ่งลวงไปข่มขืนและกระทำอนาจารมาแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติม
ษิทรากล่าวว่า วันนี้นัดผู้เสียหายมาแจ้งความ 6-7 ราย แต่บางรายแจ้งว่าไม่สะดวกมาแล้ว ซึ่งผู้ที่พามาแจ้งความล่าสุดเป็นผู้อัดคลิปเสียงหลักฐานการพูดคุยกับผู้ก่อเหตุ
ผู้เสียหายรายนี้อ้างว่าเคยถูกข่มขืนเมื่อปี 2563 แต่ตัดสินใจไม่ไปแจ้งความตั้งแต่เกิดเรื่อง กลัวจะดำเนินคดีไม่ได้ อีกทั้งผู้ก่อเหตุยังเสนอเงินมาให้เรื่องจบไป 2-3 ครั้ง ยอมรับว่าได้รับไว้ เนื่องจากโดนข่มขู่ว่าพ่อผู้ก่อเหตุใหญ่มาก แต่ตอนนี้ไม่ได้รับเงินแล้ว
ษิทรากล่าวว่า ตนไม่กลัวการฟ้องร้องกลับ เพราะเหยื่อทุกคนมั่นใจให้ตนมาดำเนินคดี ถ้าตนกลัวคนอื่นก็เสียขวัญ ยอมรับว่าสับสนเพราะเหยื่อเยอะ แต่พฤติการณ์ส่วนใหญ่คือพาเหยื่อไปคุยที่ร้านอาหารและพาไปขืนใจที่ห้อง และมีเหยื่อที่ถูกวางยาจะมาแจ้งความด้วย ส่วนอีกรายถูกกระทำที่ประเทศอังกฤษ จะเข้ามาเป็นพยาน
ษิทรายังกล่าวถึงนายตำรวจยศพันตำรวจเอกจะให้เงินปิดปากเหยื่อนั้น ยังไม่มีข้อมูลมา แต่ได้ให้ผู้ใหญ่ตรวจสอบแล้ว สำหรับเรื่องคลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นขบวนการของพรรคก้าวไกลที่จะดิสเครดิตนั้น ยืนยันไม่รู้จักกับคนในพรรคก้าวไกล ตนไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ถ้าจะกลั่นแกล้งทางการเมือง ตนไปทำคนที่มีโอกาสได้มากกว่า หากผู้ก่อเหตุพยายามบีบบังคับข่มขู่เหยื่อ ตนจะทำเรื่องถอนการประกันตัว ยืนยันตอนนี้ยังไม่มีใครถอนแจ้งความ แต่บางคนไม่ให้ความร่วมมือต่อ วานนี้เขาควรจะไปที่ศาลเพื่อทำเรื่องค้านการประกันตัวผู้ต้องหาแต่เขาไม่ไป ขอไม่ระบุว่าเป็นใคร แต่ให้ดูว่าใครยังสู้ ใครเงียบไป
“เชื่อว่าผู้ก่อเหตุไม่มีประวัติการรักษาอาการทางจิต แต่ไม่น่านำมาเป็นข้ออ้างในการต่อสู้คดี เพราะเขายังไปเป็นวิทยากรเวทีต่างๆ ได้ มีสติปกติดี เขาจะซื้อบริการก็ยังได้ แต่ดูว่ามีรสนิยมชอบคนที่ขัดขืน ทั้งนี้ ขอชื่นชมตำรวจ สน.ลุมพินี ที่ประสานกับผมตลอด ทั้งการเตรียมพนักงานสอบสวน และจะให้ผู้เสียหายที่มาแจ้งความทั้งหมดรวมเป็นสำนวนคดีเดียว” ษิทรากล่าว