หลังจากที่ พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ได้มีหนังสือด่วนมาก แจ้งไปยังสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ถึงกำหนดการประชุมสภาในวันนี้ โดยมีวาระการพิจารณาเรื่องด่วนที่น่าสนใจคือ การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการศาลยุติธรรม (ฉบับที่…) พ.ศ. … ซึ่งคณะกรรมการวิสามัญได้พิจารณาเสร็จแล้ว
ล่าสุด ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ ฉบับดังกล่าวแล้ว เพื่อกำหนดบทบัญญัติให้คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมสามารถออกระเบียบเพื่อกำหนดเบี้ยประชุมของข้าราชการตุลาการที่เข้าร่วมการประชุมใหญ่ในศาลชั้นอุทธรณ์และศาลฎีกาได้ ด้วยเสียงเอกฉันท์ 145 เสียง โดยที่ กมธ. ไม่มีการสงวนความเห็น สมาชิก สนช. ไม่มีการเสนอคำแปรญัตติ ไม่มีการแก้ไข และลุกขึ้นอภิปรายเลยแม้แต่รายเดียว
สำหรับสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าวคือ ให้คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมมีอำนาจออกระเบียบกำหนดเบี้ยประชุมของข้าราชการตุลาการ ซึ่งเข้าร่วมในการประชุมใหญ่ของศาลฎีกาและศาลอุทธรณ์ พร้อมกำหนดบทเฉพาะกาลเพื่อรับรองระเบียบคณะบริหารราชการศาลยุติธรรม ว่าด้วยเบี้ยประชุมในการประชุมใหญ่ และการประชุมแผนกคดีอาญาในศาลฎีกาและศาลชั้นอุทธรณ์ พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติมให้มีผลบังคับใช้จนกว่าจะออกระเบียบตามร่างกฎหมายฉบับนี้ โดยประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับคือ เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาพิพากษาให้มีความรอบคอบยิ่งขึ้น จึงเป็นหลักประกันแก่ประชาชนว่า ข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมจะมีการพิพากษาเพื่ออำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนอย่างละเอียด รอบคอบและเที่ยงธรรม
พร้อมทั้งเปิดเผยประมาณการรายจ่ายเบี้ยประชุมดังนี้ ประธานได้รับเบี้ยประชุม 10,000 บาท องค์ประชุมคนละ 8,000 บาท เลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการคนละ 6,000 บาท ผู้เข้าร่วมประชุมคนละ 6,000 บาท ใน 12 หน่วยงานศาลคือ ศาลฎีกา ศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ และศาลอุทธรณ์ภาค 1-9 ที่จะประชุมเดือนละ 2 ครั้ง รวมปีละ 24 ครั้ง ประมาณการรายจ่ายราย 12 ปีอยู่ที่ 207,360,000 บาท คาดว่า 5 ปีแรกต้องใช้งบประมาณแตะ 1,100 ล้านบาท
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์