ลอว์เรนซ์ หว่อง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลังของสิงคโปร์ วัย 51 ปี เตรียมเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ของสิงคโปร์ ในเวลา 20.00 น. วันนี้ (15 พฤษภาคม) ตามเวลาท้องถิ่น ณ ทำเนียบประธานาธิบดี โดยเป็นการรับตำแหน่งต่อจาก ลีเซียนลุง วัย 71 ปี ที่จะสิ้นสุดวาระบริหารประเทศหลังดำรงตำแหน่งมานานกว่า 20 ปี
หว่องซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ และจบการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาเศรษฐศาสตร์ประยุกต์จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และสาขารัฐประศาสนศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
เขาเป็นอดีตข้าราชการที่ผันตัวมาเป็นนักการเมืองและเติบโตในเส้นทางการเมืองอย่างรวดเร็ว โดยเคยทำงานในหลายกระทรวง ทั้งกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง และกระทรวงสาธารณสุข
ขณะที่ชื่อของเขาเริ่มเป็นที่รู้จักจากความสำเร็จในการรับหน้าที่ประธานร่วมคณะกรรมการเฉพาะกิจรับมือการระบาดของโรคโควิด
หว่องได้รับเลือกจากสมาชิกพรรครัฐบาล PAP (People’s Action Party) ให้รับตำแหน่งต่อจากลีตั้งแต่ปี 2022 หลังจากที่ เฮงสวีคีต อดีตประธานธนาคารกลางและรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเดิมทีได้รับการวางตัวเป็นทายาททางการเมืองของลี ตัดสินใจถอนตัวจากการเสนอชื่อ
หลังจากนี้หว่องจะเผชิญบททดสอบใหญ่ในการนำพรรค PAP สู้ศึกเลือกตั้งทั่วไปที่อาจจะจัดขึ้นอย่างเร็วในปลายปีนี้ หรือไม่เกินปลายเดือนพฤศจิกายนปีหน้า
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้หว่องได้โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียยืนยันว่า เขามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง ใจดี และเด็ดเดี่ยว รวมถึงจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างสิงคโปร์ให้เป็นประเทศที่ทุกคนสามารถตระหนักถึงศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่
สิ้นสุดราชวงศ์การเมืองตระกูลลี
การลาออกของลีถือเป็นจุดสิ้นสุดของราชวงศ์การเมืองตระกูลลีที่นำโดย ลีกวนยู นายกรัฐมนตรีคนแรก ผู้สร้างสิงคโปร์ให้เจริญรุ่งเรืองและกลายเป็นด่านหน้าของการค้า ทั้งยังเป็นประเทศที่เป็นมิตรในการทำธุรกิจสำหรับทั่วโลก
โดยหว่องจะกลายเป็นผู้นำสิงคโปร์คนที่ 2 ที่ไม่ใช่สมาชิกตระกูลลี ซึ่งอีกคนหนึ่งก็คือ โก๊ะจ๊กตง นายกรัฐมนตรีคนที่ 2
สิงคโปร์ภายใต้การปกครองของลีเจริญรุ่งเรืองจนกลายเป็นประเทศที่ร่ำรวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่ในขณะเดียวกันก็กลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดเช่นกัน
นักวิเคราะห์มองว่า การรับตำแหน่งของคนนอกตระกูลลีอย่างหว่อง เป็นสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและการครอบงำประเทศโดยพรรคการเมืองเดียวที่น่าจะอ่อนแอลง แม้ว่าลีจะยังคงอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีอาวุโสต่อไปตามแบบอดีตนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ทุกคนที่ผ่านมา
ที่ผ่านมารัฐบาลของลีถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากจากฝ่ายค้าน โดยเฉพาะความเข้มงวดในการบริหารบ้านเมือง โดยเฉพาะนโยบายเซ็นเซอร์สื่อ การจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และการใช้กฎหมายกดขี่ผู้เห็นต่าง
โดยหว่องจะเข้ามารับไม้ต่อในการรับมือกับกระแสวิจารณ์ ตลอดจนปัญหาและความท้าทายต่างๆ รวมถึงความไม่เท่าเทียมกันของรายได้ที่กว้างขึ้น ปัญหาที่อยู่อาศัยที่แพงเกินกว่าที่ประชาชนจะซื้อได้ และความแออัดจากการย้ายถิ่นฐาน
ภาพ: SPH Media / The Straits Times / Lim Yaohui via REUTERS
อ้างอิง:
- https://apnews.com/article/singapore-new-prime-minister-lawrence-wong-5e84846bafbc41cd44f5a75c9e351657
- https://www.bbc.com/articles/cpwg0g8ejyxo
- https://sg.news.yahoo.com/singapore-swear-lawrence-wong-prime-212009750.html?guccounter=1&guce_referrer=aHR0cHM6Ly93d3cuZ29vZ2xlLmNvbS8&guce_referrer_sig=AQAAAGBNxGLz1jZApohq_jpjXfcq89MC30fywUqHxtLzzSeToLhLvhvj-FsYHtQQo-vhyMa4l4WDysTo-LhBBHC0KV2vJ9X3O0_n2sn1Mc7SeupK-xvIJuV_qunHXtRvhSOG-RC_kXXAe_i00v1kLbI6uiStNDcAL5cr3hmLsUK3d9GK