Law School ขึ้นแท่นเป็นซีรีส์ตีแผ่ความจริงในสังคมอีกเรื่อง โดยเฉพาะในประเด็นช่องโหว่กฎหมายและการใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบโดยผู้ที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมเสียเอง
แต่โชคดีที่ซีรีส์เกาหลี Law School มีอาจารย์ยังจงฮุน หรือ ยังเครติส ผู้ยึดความถูกต้องของกฎหมายแบบยอมหักไม่ยอมงอ จึงทำให้เรื่องราวของซีรีส์เดินทางมาถึงการเปิดโปงขบวนการชั่วร้ายครั้งใหญ่ใน EP.15 และกฎหมายยังคงทำหน้าที่ให้ความจริงและความยุติธรรมเกิดขึ้น
(สำหรับใครที่ยังดูไม่ถึง EP.15 บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของซีรีส์)
Law School เริ่มต้นด้วยคดีฆาตกรรมอาจารย์ซอบยองจู ซึ่งเกิดเหตุในห้องพักอาจารย์โรงเรียนกฎหมาย และครึ่งแรกของซีรีส์ก็เป็นการสืบหาตัวผู้กระทำผิด ขณะเดียวกันก็เป็นการเปิดเผยปูมหลังของตัวละครที่เกี่ยวข้องทีละคน ทั้งตัวอาจารย์ยังจงฮุน อาจารย์คิมอึนซุก ฮันจุนฮวี คังซลเอ และเหล่าเพื่อนกลุ่มติวพิเศษ รวมถึงฝั่งอัยการจินฮยองอู โคฮยองซู สมาชิกรัฐสภาที่เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับซอบยองจู และ อีมันโฮ ผู้ร้ายที่ได้รับความช่วยเหลือจนถูกดำเนินคดีเบากว่าที่ควรเป็น
นักการเมือง หรือ นักเล่นการเมือง
โคฮยองซู สมาชิกรัฐสภาที่กำลังลงเลือกตั้งประธานาธิบดี ด้วยภาพลักษณ์ในเรื่องแล้ว มองเห็นชัดเจนว่ามีความเทาดำมากกว่าคนอื่น ทั้งการเข้ามาเกี่ยวข้องกับข้อบทกฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับฐานเสียงของตัวเอง รวมถึงความนิยมที่ประชาชนจะมีต่อเขา หลายฉากเห็นได้ชัดว่าเขาเป็นนักการเมืองที่ ‘เล่น’ การเมืองเก่ง และเป็นนักวางแผนในการให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการโดยที่กฎหมายเอาผิดเขาไม่ได้
เครือข่ายและสายสัมพันธ์ที่เขามีนั้นหนาแน่น ทั้งกับนักการเมือง นักกฎหมาย (ด้วยการเป็นเพื่อนกับซอบยองจู สนิทสนมกับอัยการจินฮยองอู และเป็นผู้สนับสนุนอธิการบดีโรงเรียนกฎหมาย) ฝั่งที่คอยช่วยเป็นมือเป็นเท้าก็มีทั้งอีมันโฮและอดีตนักโทษหลายคน ที่สำคัญคือสื่อมวลชนที่โดนเขาซื้อตัวให้นำเสนอข่าวที่บิดเบือน ยังไม่นับรวมผู้คนมากมายที่คอยทำตามคำสั่งของเขา จะด้วยเพื่อผลประโยชน์ เงินทอง หรือความหวาดกลัวก็ตาม
คำถามก็คือ นักเล่นการเมือง ไม่ได้มีแค่โคฮยองซู ในชีวิตจริงยังมีนักการเมืองอีกไม่น้อยที่กำลังเดินทางตามรอยเขา ซีรีส์เรื่องนี้จึงเป็นเหมือนคำเตือนส่งตรงไปถึงว่า สักวันหนึ่งกฎหมายจะทำหน้าที่ทวงคืนความยุติธรรมให้กลับมา
สื่อและข่าวสาร กับการสร้างและบิดเบือน
Law School EP.15 เปิดเผยปมเหตุสำคัญที่มีการใช้ ‘ปฏิบัติการข่าวสาร’ หรือ IO เป็นเครื่องมือไปในทางที่ผิด จนทำให้เกิดเหตุเลวร้าย คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์มากมายในหลายคดีความ ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่าข้อมูลข่าวสารนั้น หากใช้ในทางที่ดีย่อมช่วยกระจายข่าวและความรู้ ความเชื่อที่ถูกต้องไปในสังคมได้ ขณะเดียวกันหากมีการบิดเบือน ยุยง ปลุกปั่น ก็ย่อมทำให้ข่าวสารนั้นกลายเป็นไฟที่ลุกลามไปเผาไหม้ทำลายสิ่งต่างๆ
Information Operation ที่เกิดขึ้นในซีรีส์ Law School เลือกใช้ข่าวสารเล่นกับความรู้สึกของประชาชน ให้เกิดการกลับข้างมาเอาใจช่วยผู้กระทำผิด ซึ่งมีการจัดตั้ง จัดทำเป็นกระบวนการโดยรับฟังคำสั่งคนที่มีอำนาจสูงสุด ในการทำให้เรื่องราวที่ปรากฏในสื่อและโซเชียลมีเดียเป็นไปตามที่ผู้มีอำนาจต้องการ
การขุดคุ้ยประวัติที่จะกลายเป็นจุดอ่อนแล้วแชร์ลงไปในโซเชียลมีเดียเพื่อดิสเครดิตฝ่ายตรงข้าม เป็นวิธีการที่ผู้มีอำนาจมืดในซีรีส์ Law School เลือกใช้ และปล่อยให้เกิดการ ‘ทัวร์ลง’ จนต้องยอมพ่ายแพ้ หลายรายตัดสินใจจบชีวิต เพราะรู้สึกว่าหมดหนทางจะต่อสู้ ทั้งกรณีเจ้าของบริษัททอยกู้ดทอยที่ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองเพราะไม่อาจทนให้สังคมประณาม หรือการที่ ชอนเยซึล ก็เกือบตัดสินใจทิ้งชีวิตตัวเองเพราะไม่อาจสู้สายตาผู้คนที่ ‘ชุดข้อมูลบิดเบือน’ นั้นได้ตัดสินตัวตนเธอไปแล้ว
เรามองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้กับข่าว ‘ลุงพล’ ที่กลายเป็นประเด็นข่าวสำคัญ ช่องข่าวหลักให้เวลากับข่าวนี้เป็นชั่วโมง ทั้งที่ข้อมูลไม่ได้มีอะไรซับซ้อนหรือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสังคมในตอนนี้ ขณะเดียวกันข่าวที่ ‘ควรเป็นข่าว’ แทบไม่ได้รับพื้นที่ในการรายงานข่าวเลย ไม่ว่าจะเป็นประเด็นงบสถาบัน การหายตัวไปครบ 1 ปีของวันเฉลิม วัคซีนที่มีความลับลวงพราง เป็นต้น
ไม่รู้สึกผิด แต่เลือกข้างที่จะชนะ
“เชือกที่คุณจับไว้ ไม่ควรเป็นเชือกที่เปื่อยเน่า” อาจารย์ยังพูดเตือนสติอัยการจินเอาไว้ เมื่อเห็นว่าเขาเริ่มสั่นคลอนความเชื่อต่อผู้มีอำนาจนั้น ผู้มีอำนาจที่คอยสั่งการเขาเพื่อผลประโยชน์ร่วมในการเพิ่มพูนอำนาจของตน สำหรับอัยการจิน การเลือกข้างของเขาคือเลือกความมั่นคงและก้าวหน้าในอาชีพอัยการ ซึ่งสำหรับซีรีส์เกาหลีจะมักเห็นว่าจำเป็นต้องใช้เส้นสายในการเติบโต
โครงสร้างระบบอุปถัมภ์ที่ฝังแน่นอยู่ในสังคมเกาหลีเองเป็นสิ่งที่ทำให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำๆ และการเอาตัวรอดที่ดีที่สุดอาจเป็นการไหลไปตามน้ำ หลับตาลงข้างหนึ่ง หรือเลือกข้างที่จะยังคงชนะ คงอำนาจนั้นได้อยู่ เช่นเดียวกับอัยการจินที่ในตอนนี้คนดูยังเดาไม่ถูกว่าเขารู้สึกผิดกับการกระทำที่ทำลงไปหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ในตอนนี้เขาต้องเลือกหนทางที่ทำให้ตัวเองรอด
“ตำรวจ สื่อ ทนายอยู่ข้างผมหมด” คือคำตอบที่อัยการจินได้รับมา คงต้องมาลุ้นกันว่าในอีพีสุดท้าย ทางเลือกและเชือกที่เขาจับไว้จะเป็นเส้นไหน
จะยอมเป็นทนายความให้คนชั่ว?
มีประเด็นหนึ่งที่ซีรีส์ Law School ตั้งคำถามเอาไว้ คือการที่อาจารย์ยังถามคังซลเอว่า เธอจะยอมเป็นทนายความให้คนชั่วได้หรือไม่ ซึ่งใน EP.14-15 นี่เองที่เปิดให้เห็นคำตอบดังกล่าว
พัคกึนแท ทนายความอาสาที่รับว่าความให้อาจารย์ยัง อดีตนักศึกษาโรงเรียนกฎหมาย มหาวิทยาลัยฮันกุก เขาเป็นทนายความที่รัฐจัดหามาให้ ดูเหมือนว่าเขาพร้อมจะทำทุกสิ่งอย่างเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง กระทั่งยอมรับเป็นทนายความให้ อีมันโฮ รวมถึงคนร้ายอีกหลายรายในเรื่อง สำหรับคังซลเอที่เป็นนักเรียนโรงเรียนกฎหมายแล้ว อาจมองว่าสิ่งที่พัคกึนแททำนั้นไม่ได้น่ายกย่องเท่ากับที่อาจารย์ยัง อาจารย์คิม เป็น
แต่ในความจริงแล้วนั้น อาจารย์ยังได้พูดให้เธอได้คิดในอีกมุมหนึ่ง ถ้าหากคนร้ายไม่มีทนายความเก่งๆ มาว่าความให้ ก็อาจเป็นได้ว่าทำให้คนบริสุทธิ์ที่กลายเป็นแพะรับบาปจำนวนมากมายต้องได้รับโทษ หรือกระทั่งตัวคังซลเอเอง ในตอนที่ถูกกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายจนต้องเข้าสถานพินิจนั้น ถ้าหากไม่ได้อาจารย์ยังช่วยเหลือให้ได้รับการตัดสินที่เป็นธรรม เธอเองก็อาจมีโชคชะตาที่ต่างจากที่เป็นอยู่ก็เป็นได้
มุมกลับที่ซีรีส์นำเสนอ ทำให้คนดูได้มองเห็นความสำคัญของกฎหมายที่มอบความยุติธรรมให้กับทั้งฝ่ายที่เป็นผู้เสียหายและฝ่ายที่ถูกกล่าวหา โดยไม่ตัดสินไปก่อนว่าใครคือคนผิด
สำหรับซีรีส์ Law School กับเรื่องราวที่เดินทางมาถึง EP.15 บทสรุปที่ชัดเจนคงไม่ต่างไปจากที่ คิมมยองมิน ผู้รับบทอาจารย์ยังเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “Law School เป็นซีรีส์ที่สะท้อนความเป็นจริง ทั้งยังถามคำถามว่า กฎหมายและความยุติธรรมคืออะไร”
ซีรีส์ Law School มีทั้งหมด 16 อีพี เป็นผลงานการเขียนบทโดยซออิน กำกับโดยคิมซอกยุน ออกอากาศทาง JTBC ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี โดยจะออกอากาศอีพีสุดท้ายวันพุธที่ 9 มิถุนายน 2564 ซึ่งเราต้องมาลุ้นกันว่าในอีกหนึ่งชั่วโมงที่เหลือ ซีรีส์จะเลือกทางลงอย่างไร และคนดูจะได้อะไรกลับไปจากการดูซีรีส์ยากๆ เรื่องนี้
อ่านต่อ
- เรื่องย่อและความน่าสนใจของซีรีส์ Law School
- ทำความรู้จัก 19 ตัวละครสำคัญในซีรีส์ Law School
- ความรู้เบื้องต้นและเกร็ดน่าสนใจเรื่องกฎหมายในซีรีส์ Law School
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า