ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นในช่วงเปิดสัปดาห์ หลังจากซาอุดีอาระเบียประกาศว่า จะลดกำลังการผลิตน้ำมันเพิ่มอีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนกรกฎาคม ทำให้การผลิตแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายปี หลังราคาน้ำมันตกต่ำ
โดยในช่วงเช้าวันนี้ (5 มิถุนายน) ราคาซื้อขายน้ำมัน WTI ล่วงหน้า พุ่งขึ้นเกือบ 5% แตะระดับ 75.06 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังจากเจ้าชายอับดุลอาซิซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานซาอุดีอาระเบียกล่าวว่า จะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดนี้ หลังจบการประชุมองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) ที่ตึงเครียดในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
Brian Martin และ Daniel Hynes นักวิเคราะห์ ANZ Group Holdings Ltd. เขียนไว้ในบันทึกว่า ตลาดน้ำมันตอนนี้ดูเหมือนว่าจะตึงเครียดยิ่งขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนที่แล้ว ราคาน้ำมัน WTI ร่วงลงราว 11% เนื่องจากความกังวลด้านความต้องการน้ำมันที่ส่งผลต่อแนวโน้มราคา โดยเฉพาะอุปสงค์ในจีน
การให้คำมั่นของซาอุดีอาระเบียครั้งนี้หมายความว่า ซาอุดีอาระเบียต้องเสียสละส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเติม เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด ขณะที่ประเทศอื่นๆ ในกลุ่ม OPEC+ ให้คำมั่นว่าจะคงการลดกำลังการผลิตที่มีอยู่ไปจนถึงสิ้นปี 2024 ขณะที่รัสเซียไม่ได้ให้คำมั่นว่าจะควบคุมการผลิตต่อไป ส่วนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ขอโควตาการผลิตที่สูงขึ้นสำหรับปีหน้า
ข้อตกลง OPEC+ ครั้งนี้เกิดขึ้น หลังจากการโต้เถียงกันเป็นเวลานานกับสมาชิกในแอฟริกาเกี่ยวกับวิธีการวัดการลดขนาดการผลิต ซึ่งทำให้การประชุมเริ่มล่าช้าไปหลายชั่วโมง
ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีพลังงานของซาอุดีอาระเบีย ยังทำให้ตลาดอยู่ในภาวะลุ้นระทึกเกี่ยวกับมติกำลังการผลิตในเดือนหน้า โดยกล่าวเตือนให้นักเก็งกำไร ‘ระวัง’
อ้างอิง: