หลังจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดเหตุเครนก่อสร้างหักโค่นล้มภายในซอยเจริญกรุง 36 ถนนเจริญกรุง แขวงบางรัก เขตบางรัก ทำให้หลังคาภายในโรงเรียนอัสสัมชัญ คอนแวนต์เสียหาย และเป็นเหตุให้นักเรียนบาดเจ็บร่วม 10 ราย
ล่าสุดวันนี้ (24 มิ.ย.) ศักดิ์ชัย บุญมา ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กทม. กล่าวถึงการตรวจสอบพื้นที่ เพื่อหาสาเหตุกรณีเกิดเหตุการณ์เครนก่อสร้างอาคารหักโค่น ทำให้อุปกรณ์ก่อสร้างตกใส่บ้านเรือนประชาชนและหลังคาอาคารอเนกประสงค์ของโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ว่า สำนักการโยธาได้ตรวจสอบพื้นที่ พบเครนที่ติดตั้งอยู่ในโครงการ River Garden ซอยเจริญกรุง 42
โดยสาเหตุกรณีเกิดเครนล้ม เนื่องจากการยกวัสดุที่มีน้ำหนักมากและยกตั้งชันเครนมากเกินไป ประกอบกับมีแรงลมพัดพาวัสดุแกว่ง ทำให้แขนเครนพลิกกลับมาด้านหลัง ซึ่งสำนักงานเขตบางรักได้ออกคำสั่งให้ดำเนินการแก้ไขอาคาร ตาม พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มาตรา 40 (2) มีคำสั่งห้ามมิให้บุคคลใดใช้หรือเข้าไปในส่วนใดๆ ของอาคาร หรือบริเวณที่มีการกระทำดังกล่าว และจัดให้มีเครื่องหมายแสดงการห้ามนั้นไว้ในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่าย ณ อาคารหรือบริเวณดังกล่าว
ส่วนมาตรา 41 ถ้าการกระทําตามมาตรา 40 เป็นกรณีที่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้องได้ ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจสั่งให้เจ้าของอาคารยื่นคำขออนุญาตหรือดำเนินการแจ้งตามมาตรา 39 ทวิ หรือดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 30 วัน ในกรณีที่มีเหตุอันสมควร เจ้าพนักงานท้องถิ่นจะขยายเวลาดังกล่าวออกไปอีกก็ได้ และให้นำมาตรา 27 มาใช้บังคับโดยอนุโลม
นอกจากนี้ สำนักการโยธายังเพิ่มความเข้มงวดในการติดตามตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยระหว่างการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน โดยวางมาตรการตรวจสอบเครนและปั้นจั่นในระหว่างปฏิบัติงาน ซึ่งมีหน่วยงานร่วมตรวจสอบ ประกอบด้วย สำนักการโยธา กรมโยธาธิการและผังเมือง สภาวิศวกร วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สถาบันส่งเสริมความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน และสำนักงานเขตพื้นที่ตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ
ขณะเดียวกัน ภัคภร สงวนศักดิ์ ผู้อำนวยการเขตบางรัก กทม. เผยว่า สำหรับการติดตามดูแลให้ความช่วยเหลือและความรับผิดชอบของบริษัทผู้รับเหมาต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางในการเยียวยา โดยได้ข้อสรุป ดังนี้
1. ระยะสั้น โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ขอความร่วมมือผู้ประกอบการดำเนินการแก้ไขซ่อมแซมอาคารให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 24 มิถุนายน 2562 ส่วนระยะยาว ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการระงับการก่อสร้างไปจนกว่าจะได้รับการอนุญาตที่ถูกต้องจากสำนักการโยธา โดยมีเงื่อนไขระยะเวลาภายหลังจากเดือนเมษายน 2563 เป็นต้นไป
2. ผู้ประกอบการต้องเยียวยาและรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลแก่นักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บทุกราย
3. ผู้ประกอบการต้องเยียวยาสภาพจิตใจของนักเรียนระดับชั้น ม.3/4 จำนวน 46 คน
4. ผู้ประกอบการต้องเยียวยานักเรียนทุกคนของโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์
5. ผู้ประกอบการต้องเยียวยาคณะบุคลากรของโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์
ทั้งนี้ โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ได้ขอความร่วมมือจากสถานีตำรวจนครบาลบางรัก จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าเวรยามตลอด 24 ชั่วโมง ในช่วงระยะเวลาที่มีการดำเนินการซ่อมแซมอาคารด้วย
ขณะเดียวกันยังได้ติดตามการเคลื่อนย้ายเครนที่ชำรุดเสียหายออกจากอาคารสูงและการจัดเก็บเศษวัสดุที่ร่วงหล่นลงมาสร้างความเสียหาย ซึ่งบริษัทผู้รับเหมาได้เคลื่อนย้ายเครนและเศษวัสดุออกจากพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายเรียบร้อยแล้ว ภายใต้การควบคุมดูแลของสำนักการโยธาและสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมถึงได้จัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธาเฝ้าตรวจสอบบริเวณอาคารก่อสร้าง ป้องกันมิให้ผู้รับเหมาโครงการลักลอบฝ่าฝืนเข้าไปดำเนินการดัดแปลงต่อเติมอาคาร จนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น และได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลบางรัก เพื่อดำเนินคดีอาญาแก่เจ้าของอาคารและผู้เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: