วันนี้ (15 มิถุนายน) สปป.ลาว ทำลายและเคลื่อนย้ายระเบิดตกค้างที่ยังไม่ระเบิด (UXO) กว่า 5,000 ลูกออกจากพื้นที่พัฒนาเกษตรกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน ในแขวงหัวพันทางตอนเหนือของลาว ซึ่งอยู่ห่างจากนครหลวงเวียงจันทน์ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 310 กิโลเมตร
โดยหนังสือพิมพ์ Vientiane Times ของ สปป.ลาว รายงานในวันนี้ว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม 2018 – พฤษภาคม 2021 มีระเบิดตกค้าง 5,377 ลูกในแขวงหัวพันที่ถูกจุดหรือปลดชนวนแล้ว โดยมีการสำรวจพื้นที่แล้วกว่า 2.8 ล้านตารางเมตร กำจัดระเบิดออกจากพื้นที่แล้ว 1.04 ล้านตารางเมตร ตลอดจนควบคุมเขตต้องสงสัยว่ามีทุ่นระเบิดอีก 48 แห่ง เปิดทางแก่การนำพื้นที่ที่ปลอดระเบิดตกค้างแล้วเหล่านี้ไปใช้งานเพื่อการเกษตรหรือก่อสร้างอาคารต่างๆ เช่น โรงเรียนและโรงพยาบาล
ขณะเดียวกันมีรายงานจำนวนผู้พิการและผู้รอดชีวิตจากระเบิดตกค้างแล้ว 976 ราย โดยมี 108 รายในนี้ที่ถูกนำตัวส่งสถานพยาบาลและเข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพในเวียงจันทน์ รวมถึงในแขวงหัวพัน และเชียงขวาง
รายงานระบุว่า ทางการจัดแคมเปญการศึกษาความเสี่ยงของทุ่นระเบิดในหมู่บ้านเป้าหมาย 44 แห่ง ครอบคลุมผู้ใหญ่และเด็ก 29,469 คน เพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับความเสี่ยงของระเบิดตกค้างแก่ผู้คนท้องถิ่น โดยความคิดริเริ่มดังกล่าวถือเป็นตัวอย่างอันดีในการบูรณาการกิจกรรมเกี่ยวกับระเบิดตกค้างเข้ากับชีวิตความเป็นอยู่ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ สปป.ลาว เป็นประเทศที่ถูกทิ้งระเบิดหนักหน่วงที่สุดในโลกเมื่อพิจารณาจากอัตราต่อหัว โดยถูกทิ้งระเบิดขนาดรวมกว่า 2 ล้านตันระหว่างปี 1964-1973 ซึ่งร้อยละ 30 เป็นระเบิดที่ไม่ทำงาน
รายงานระบุเพิ่มเติมว่า เครื่องบินสหรัฐอเมริกาเคยทิ้งระเบิดลูกปรายใน สปป.ลาว มากกว่า 270 ล้านลูก ทำให้มีระเบิดจริงที่ใช้งานได้ประมาณ 80 ล้านลูกกระจัดกระจายและฝังอยู่ทั่วประเทศ
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง:
- สำนักข่าวซินหัว