หลังเตรียมความพร้อมมานานนับปี ล่าสุดกองบังคับการตำรวจจราจรเตรียมนำกล้อง ‘เลนเชนจ์’ ตามโครงการติดตั้งระบบตรวจจับรถฝ่าฝืนเปลี่ยนช่องทางเดินรถในเขตห้ามมาใช้แล้ว เริ่มใช้จริงวันแรก 9 พ.ค. นี้
พลตำรวจเอก กิตติ อริยานนท์ รองผู้บังคับการตำรวจจราจร เปิดเผยว่า หลังการทดสอบใช้กล้องตรวจจับผู้ฝ่าฝืนกฎจราจรในจุดเกิดปัญหารถปาดเบียดทางขึ้นสะพานและอุโมงค์ลอดแยก 15 จุด พบว่าเพียงเดือนเดียวมีผู้กระทำผิดมากถึง 200,000 ราย หรือเฉลี่ยวันละ 7,000 ราย ซึ่งหลังจากนี้จะเริ่มบังคับใช้กฎหมาย และออกใบสั่งสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนปาดเบียดแซงในเส้นทึบ โดยเริ่มตั้งแต่ 9 พ.ค. นี้เป็นต้นไป
สำหรับการทำงานของกล้องเลนเชนจ์ พลตำรวจเอก กิตติ เปิดเผยกับสำนักข่าวโพสต์ทูเดย์ว่า ระบบดังกล่าวจะสามารถตรวจจับรถที่กระทำความผิดได้ทุกคันตลอด 24 ชั่วโมง โดยในแต่ละจุดจะมีกล้อง 3 ตัว กล้องตัวกลางมีเซนเซอร์คอยตรวจจับรถที่วิ่งเส้นทึบไปพร้อมกับบันทึกวิดีโอภาพเคลื่อนไหว จากนั้นเมื่อเซนเซอร์ตรวจพบการกระทำผิดจะสั่งให้กล้องอีก 2 ตัวถ่ายภาพก่อนและหลังการกระทำความผิด
จากนั้นระบบจะบันทึกและส่งภาพมายังศูนย์ บก.จร. ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบรถคันดังกล่าวว่ามีรายละเอียดตรงกับข้อมูลที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกหรือไม่ และจะดำเนินการออกใบสั่งไปยังที่อยู่ของเจ้าของรถภายในไม่เกิน 7 วัน โดยข้อหาเบียดช่องจราจร หรือเปลี่ยนช่องทางเส้นทึบมีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท
สำหรับการติดตั้งกล้องเลนเชนจ์ 15 จุดทั่วกรุงเทพฯ ได้แก่ 1. สะพานข้ามแยกบางเขน ถนนงามวงศ์วาน ขาออก 2. สะพานข้ามแยกศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก 3. ทางลอดแยกห้วยขวาง ถนนรัชดาภิเษก ขาเข้า 4. สะพานข้ามแยกบรมราชชนนี ถนนบรมราชชนนี ขาออก 5. สะพานข้ามแยกวงเวียนบางเขน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาเข้า 6. สะพานข้ามแยกราชเทวี ถนนเพชรบุรี ขาออก 7. แยกสามเหลี่ยมดินแดง ถนนดินแดง ขาเข้า 8. สะพานข้ามแยกประชานุกูล ถนนรัชดาภิเษก ขาออก 9. สะพานศิริราชด้านถนนอรุณอมรินทร์ ถนนอรุณอมรินทร์ ขาออก 10. แยกรัชดา-ลาดพร้าว ถนนลาดพร้าว ขาออก 11. แยกรัชดา-ลาดพร้าว ถนนลาดพร้าว ขาเข้า 12. สะพานข้ามแยกวงศ์สว่าง ถนนรัชดาภิเษก ขาออก 13. สะพานข้ามแยกพระราม 4 ถนนรัชดาภิเษก ขาออก 14. สะพานพระพุทธยอดฟ้า ถนนประชาธิปก ขาเข้า และ 15. สะพานข้ามแยกกำนันแม้น ถนนกัลปพฤกษ์ ขาออก
อ้างอิง: