วานนี้ (18 กุมภาพันธ์) ที่ทำการพรรคกล้าธรรม บุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ รองหัวหน้าพรรคกล้าธรรม และ อัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส. ชัยภูมิ พรรคกล้าธรรม ร่วมกันแถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารและ สส. พรรค
อัครแสนคีรีกล่าวว่า ที่ประชุมได้แจ้งรายละเอียดสำหรับวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 19-20 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งจะลงมติร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน และร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งได้กำชับ สส. ของพรรค ว่าต้องอยู่โหวตอย่างพร้อมเพรียงและอยู่เป็นองค์ประชุม ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เลขาธิการพรรคกล้าธรรมกำชับให้เป็นองค์ประชุม และติดตามการปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุมหรือมีการประท้วง
ขณะที่บุญสิงห์กล่าวว่า พรรคกล้าธรรมดูแลและรับผิดชอบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา รัฐมนตรีของพรรคทำงานอย่างหนัก มั่นใจว่าหากมีการยื่นอภิปรายรัฐมนตรีของพรรคจะสามารถชี้แจงตอบข้อซักถามได้ จึงไม่ห่วงในประเด็นนี้ โดยส่วนตัวมั่นใจเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว และเสียงในฝั่งของพรรคกล้าธรรมวันนี้เรามี 34 เสียง ตามที่ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า สส. พะเยา และประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เคยกล่าวเอาไว้
ส่วนกระแสว่าอาจมีความขัดแย้งระหว่างพรรคกล้าธรรมกับพรรคภูมิใจไทยนั้น บุญสิงห์ยืนยันว่าไม่ได้มีประเด็นปัญหาหรือความขัดแย้งอะไร ซึ่งการทำงานของแต่ละกระทรวงอาจมีการขัดแย้ง แต่การบริหารงานอยู่ที่คณะรัฐมนตรี ซึ่งยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งระหว่างพรรคการเมือง โดยข้อเท็จจริงที่ดินเขาใหญ่เป็นปัญหาสะสมมานานแล้ว ตั้งแต่กรณีพื้นที่ ส.ป.ก. เป็นพื้นที่นิคม กับการออกเอกสารสิทธิ์ของกรมที่ดิน สามารถตรวจสอบกระบวนการขั้นตอนได้
ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีของพรรคกล้าธรรม เป็นหน้าที่ของแต่ละพรรคเมื่อไปอยู่ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดูที่ ส.ป.ก. ไม่ใช่เฉพาะที่ดินผืนดังกล่าวด้วย จังหวัดนครราชสีมามีที่หลายแปลง หรือจังหวัดอื่นถ้ามีพื้นที่ใด ส.ป.ก. มีหน้าที่ดูแลต้องเข้าไปตรวจติดตาม แต่พื้นที่ทับซ้อนมีหลายที่ต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหา
“การทำงานในพรรคร่วมรัฐบาลวันนี้มีหลายระดับ เช่น ทำงานผ่านวิปรัฐบาล แต่ทำงานระดับหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค หรือประธานที่ปรึกษา จะมีการประชุมหารือนานๆ ครั้ง แล้วเชื่อมั่นว่าปัญหาเรื่องการตรวจสอบสิทธิ์ที่ดินจะไม่นำไปสู่ความแตกแยกในพรรคร่วมรัฐบาล เชื่อว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรผลตรวจสอบก็จะออกมาเป็นอย่างนั้น หากไม่ผิดก็คือไม่ผิด แต่หากผิดก็คือผิด ชี้ผู้ใหญ่ไม่ค่อยบอกปัญหาของตัวเอง แต่ห่วงปัญหาบ้านเมืองมากกว่า”
อัครแสนคีรีกล่าวเสริมว่า เรื่องดังกล่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน และไม่ได้พุ่งเป้าเจาะจงตรวจสอบที่ดินแปลงใดแปลงหนึ่ง และกระทรวงได้ลงพื้นที่หลายจังหวัด ไม่ได้ลงพื้นที่เฉพาะจังหวัดนครราชสีมา