สำรวจความฮอตของที่ดินใน Metaverse กับ ‘5 อสังหาริมทรัพย์’ ที่มีราคานับสิบล้านบาท

ช่วงปลายปีนี้ Metavese ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง เพราะนี่จะเป็นเทรนด์ที่มาปฏิวัติไลฟ์สไตล์และการสื่อสารของมนุษย์เรา แม้นักวิชาการหลายสำนักจะเห็นตรงกันว่าการเปลี่ยนแปลงคงไม่ได้เกิดขึ้นในระยะเวลาอันสั้น แต่ก็คาดว่ามันจะเกิดขึ้นแน่นอน ซึ่งถ้าเกิดขึ้นจริง มูลค่าทางเศรษฐกิจใน Metavese จะสูงขึ้นจาก 4.47 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2020 เป็น 6 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2027 ทำให้ช่วงสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคมเกิดปรากฏการณ์การซื้อขายที่ดินใน Metavese บูมอย่างมาก คิดเป็น 25% จากการซื้อขาย NFTs บน NonFungible.com เลยทีเดียว

เพราะ Metaverse ยังไม่ค่อยเป็นรูปเป็นร่าง การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานจึงเนื้อหอมอย่างมาก โดยเฉพาะในแพลตฟอร์มใหญ่ๆ อย่าง The Sandbox และ Decentraland ที่ใช้ระบบ Blockchain ให้ผู้เล่นถือกรรมสิทธิ์เหนือที่ดินในเกม เพื่อสร้างธุรกิจหรือปล่อยให้เช่าในอนาคต

Decentraland เป็นเกมเสมือนจริงที่สร้างขึ้นบน Ethereum Blockchain แต่มีความสมจริงมากกว่า เพราะผู้เล่นสามารถเป็นเจ้าของทรัพย์สินตั้งแต่ตึกระฟ้าไปจนถึงโรงภาพยนตร์ โรงแรม ว่าง่ายๆ ก็คือทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่บนโลกจริงนั่นเอง โดย Decentraland มีที่ดินอยู่ราวๆ 90,601 แปลง ซึ่งเคยทำสถิติการซื้อขายที่ดินครั้งใหญ่ที่สุดในโลกเสมือนจริงจำนวน 16 เอเคอร์ ด้วยราคาสูงถึง 30 ล้านบาท รวมทั้งที่ดินในย่านแฟชั่นของ Decentraland ยังเป็นเจ้าของสถิติราคาที่ดินที่สูงที่สุดในโลกเสมือนที่ราคา 81.2 ล้านบาท

โดยผู้ซื้อวางแผนจะพัฒนาให้กลายเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมแฟชั่นของโลกเสมือนในอนาคต และเดือนมกราคมนี้เราจะได้พบกับสถานทูตของบาเบโดสแห่งแรกของโลกเสมือนในแพลตฟอร์มนี้ด้วยเช่นกัน

ในขณะที่ The Sandbox ก็เป็นเกมที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Blockchain เหมือนกัน และเปิดโอกาสให้ผู้เล่นสร้างไอเท็มเฉพาะซึ่งไม่ซ้ำใคร ซื้อขายแลกเป็นเหรียญคริปโตแล้วนำไปแลกเป็นเงินจริงได้ กลายเป็นแพลตฟอร์มสุดฮอตที่หลายธุรกิจเริ่มสนใจเข้าไปเปิดกิจการ เช่น Atari, Adidas รวมทั้ง SCB ของไทย ก็มีแผนจะเปิดสำนักงานใน The Sandbox ด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์และซีรีส์เรื่องดังอย่าง The Smurfs และ The Walking Dead รวมทั้งแรปเปอร์ชื่อดัง Snoop Dogg ที่ดูจะอาจริงเอาจังกับโลกเสมือน โดยเมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา เขาได้จัด ‘Snoopverse Land Sale’ ให้ผู้ซื้อสามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ของเขาใน The Sandbox ได้ด้วย เมื่อกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา The Sandbox ทำสถิติยอดขายสูงสุดในช่วง 7 วัน ด้วยยอดขายมูลค่า 2.34 พันล้านบาท ราคาที่ดินเฉลี่ยต่อแปลงอยู่ที่ 2-2.3 ล้านบาท

ที่ดินใน Snoopverse บน The Sandbox ราคาประมาณ 15 ล้านบาท

Snoop Dogg เป็นแรปเปอร์คนแรกๆ ที่เข้าไปลงทุนใน Metaverse โดยเขากำลังพัฒนาที่ดินในชื่อ Snoopverse ที่จะมีทั้งคฤหาสน์ อีเวนต์ปาร์ตี้ และคอนเสิร์ตส่วนตัวสำหรับสมาชิกเท่านั้นถึงจะเข้าร่วมได้ เรียกได้ว่าจะเป็นศูนย์กลางของคนรักดนตรีฮิปฮอปบนโลกเสมือนจริงก็ว่าได้ Snoop Dogg เปิดขายที่ดินบน Snoopverse ไปเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทำรายได้รวมไปราวๆ 133.6 ล้านบาท ส่วนผู้ที่เสนอราคาที่ดินสูงที่สุดคือแปลงละ 15 ล้านบาท

เรือยอชต์ Metaflower ราคาประมาณ 21.7 ล้านบาท

Republic Realm บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในโลกเสมือน เป็นผู้ซื้อซูเปอร์ยอชต์ลำนี้มาจาก Atari SA ซึ่ง Metaflower มีทั้งหมด 4 ชั้น มาพร้อมกับลานจอดเฮลิคอปเตอร์ 2 แห่ง เลานจ์ ฟลอร์เต้นรำ และอ่างจากุซซี Metaflower เป็นส่วนหนึ่งในโครงการ Fantasy ของ Republic Realm นอกจากนี้ยังเปิดตัวทรัพย์สินระดับพรีเมียมอีกมากมาย เช่น เกาะส่วนตัวจำนวน 100 เกาะที่ขายได้หมดเกลี้ยงภายในเวลา 24 ชั่วโมง

ที่ดินสำหรับสร้างห้างสรรพสินค้าใน Decentraland ราคาประมาณ 23.5 ล้านบาท

Boson Protocol ผู้พัฒนาระบบการค้าอีคอมเมิร์ซใน Metaverse ตัดสินใจซื้อที่ดินใน Decentraland ที่มีมูลค่าสูงถึง 23.5 ล้านบาท เพื่อพัฒนาให้เป็นศูนย์การค้าในโลก Metaverse ตั้งเป้าให้เป็นพื้นที่ซื้อขายดิจิทัลที่เชื่อมต่อกับโลกจริงได้ด้วย ซึ่งแบรนด์ ศิลปิน ครีเอเตอร์ และผู้ขาย สามารถขายผลิตภัณฑ์ในโลกแห่งความเป็นจริงที่ได้รับการแปลงเป็น NFTs ของ Boson และสามารถแลกเป็นผลิตภัณฑ์ในโลกจริงได้

ที่ดิน 16 เอเคอร์ใน Decentraland ราคาประมาณ 30.5 ล้านบาท

นับเป็นดีลการขายที่ดินครั้งใหญ่ที่สุดของโลกเสมือนจริง เพราะเป็นการรวมเอาที่ดิน 259 แปลง ซึ่งคิดเป็นที่ดินดิจิทัลประมาณ 16 เอเคอร์ ซึ่งผู้ที่ซื้อไปก็คือ Republic Realm บริษัทลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใน Metaverse เป็นผู้ซื้อไป

ที่ดินในย่านแฟชั่นของ Decentraland ราคาประมาณ 81.2 ล้านบาท

ที่ดินย่านแฟชั่นใน Decentraland ครองแชมป์ที่ดินที่แพงที่สุดในโลกเสมือน ด้วยราคา 81.2 ล้านบาท เป็นที่ดินจำนวน 116 แปลง ขนาดต่อแปลงอยู่ที่ประมาณ 4.8 ตารางเมตร โดย Metaverse Group บริษัทในเครือของ Tokens.com เป็นผู้ซื้อไปเพื่อพัฒนาให้กลายเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมแฟชั่นแห่งโลกดิจิทัลในอนาคต

อ้างอิง: