×

‘แลนด์บริดจ์’ จะพาไทยพัฒนา จนเด็กไทยไม่อยากย้ายประเทศ?

โดย THE STANDARD TEAM
13.11.2023
  • LOADING...
แลนด์บริดจ์

วานนี้ (12 พฤศจิกายน) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จะใช้โอกาสในการเดินทางเข้าร่วมประชุม APEC ในครั้งนี้เชิญชวนนักลงทุนมาลงทุนในโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งเมื่อโครงการนี้เกิดขึ้นจะเกิดอุตสาหกรรมใหม่ และจะขยายเป็นฐานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในพื้นที่ ไม่ใช่เฉพาะภาคการเกษตร แต่จะมีอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องเกิดขึ้นด้วย ซึ่งจะยกระดับรายได้ประชาชนและเกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น

 

สำหรับโอกาสที่จะเกิดขึ้นในการพบกับนักลงทุนในสหรัฐฯ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ทุกครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศ นอกจากความคืบหน้าและการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนแล้ว ยังเป็นโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้ตัดสินใจวางอนาคต แม้โครงการยังไม่เกิดขึ้นทันที ต้องใช้เวลานาน แต่ก็เชื่อว่าคนรุ่นใหม่จะเล็งเห็นโอกาสจากโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ และอาจจะตัดสินใจไม่ย้ายประเทศ เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องสร้างแรงบันดาลใจ เพราะประเทศเราต้องดีขึ้น 

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หากเรามีเขตอุตสาหกรรมที่ทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีได้ และคนไทยมีน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่จะร่วมกันพัฒนา ก็จะเป็นจุดศูนย์กลางที่จะหล่อหลอมให้สังคมดีขึ้นได้ 

 

ข้อเสนอจูงใจนักลงทุน

 

สำหรับข้อเสนอที่จะจูงใจนักลงทุนให้เลือกมาลงทุนในโครงการแลนด์บริดจ์ของไทยนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มีทั้งมาตรการทางภาษี พลังงานสะอาดที่รัฐบาลให้ความสำคัญ การบริหารจัดการน้ำในภาคอุตสาหกรรม การเป็นศูนย์กลางการบิน มีรถไฟความเร็วสูง และท่าเรือแหลมฉบังสำหรับโลจิสติกส์ และแลนด์บริดจ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจะเป็นปัจจัยสำคัญให้นักลงทุนตัดสินใจ 

 

ส่วนในมิติสังคม ประเทศไทยไม่แตกแยกเท่าบางประเทศ แม้มีความเห็นที่ไม่ตรงกันบ้าง แต่อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบ นักลงทุนต่างชาติจะดูตรงนี้เป็นหลัก อีกทั้งไทยยังมีโรงเรียนและสถานพยาบาลมาตรฐานระดับโลก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจของนักลงทุนเช่นกัน

 

โรดโชว์ครั้งแรก 

 

ด้าน นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) กล่าวว่า สำหรับโครงการแลนด์บริดจ์ก็เป็นโปรเจกต์สำคัญ โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมและ BOI ทำงานร่วมกัน เพื่อเชิญชวนนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งโครงการแลนด์บริดจ์เป็นโครงการที่ใหญ่มาก มีทั้งท่าเรือ การคมนาคมขนส่ง รวมถึงพื้นฐานอุตสาหกรรมบริเวณโดยรอบที่จะมารองรับกลุ่มงานอุตสาหกรรมที่มาลงในพื้นที่ตรงนี้ BOI จะมีส่วนเชิญชวนให้นักลงทุนทั้งมาลงทุนในการก่อสร้าง และโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ท่าเรือ ถนน ระบบโลจิสติกส์ ซึ่งการออกโรดโชว์โครงการแลนด์บริดจ์ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก

 

ร่นระยะเวลาขนส่งสินค้าได้ 5-10 วัน คาด 2 ปีโครงการชัด

 

ขณะที่ ชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ระบุถึงการเตรียมโรดโชว์โครงการแลนด์บริดจ์ในครั้งนี้ว่า ไม่ใช่โครงการที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่เกิดขึ้นนานพอสมควรและมีการพูดคุยตลอด 20-30 ปีที่ผ่านมา โดยรัฐบาลที่แล้วให้ศึกษาเรื่องแลนด์บริดจ์ ซึ่งประเทศไทยมีพื้นที่หรือโลเคชันที่ได้เปรียบ เนื่องจากพื้นที่ตั้งอยู่ระหว่าง 2 ฝั่งทะเล ได้แก่ ฝั่งทะเลจีนใต้ และฝั่งอันดามัน

 

ชยธรรม์กล่าวว่า การขนส่งน้ำมันจากตะวันออกกลางไปยังโรงงานผลิตในจีน ญี่ปุ่น เกาหลี และไต้หวัน เมื่อผลิตสินค้าเสร็จส่วนหนึ่งจะข้ามไปทางมหาสมุทรแปซิฟิก อีกส่วนจะวกกลับผ่านช่องแคบมะละกาไปทางยุโรป เอเชียกลาง และเอเชียใต้ ซึ่งประเทศไทยอยู่ตรงกลางจึงมีโลเคชันที่ได้เปรียบ อีกทั้งสินค้าที่ต้องผ่านช่องแคบมะละกาซึ่งมีจำนวนมากขึ้น จากการศึกษาพบว่าอาจจะมีปัญหาการส่งสินค้าในอนาคตได้ จึงเป็นจังหวะที่ประเทศไทยได้เปรียบ หากสามารถดึงสิ่งที่อยู่ในเส้นทางเดินเรือโลกมาผ่านประเทศไทยได้ 

 

ปลัดกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า โครงการแลนด์บริดจ์จะทำให้เส้นทางการขนส่งสินค้าสั้นลงประมาณ 5-​10 วัน และหากได้ทำโรดโชว์ให้คนเห็นและมาลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในประเทศไทย โครงการนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ ที่นายกรัฐมนตรีพูดในหลายๆ เวทีก็มีหลายๆ ประเทศให้ความสนใจ รวมทั้งสหรัฐอเมริกา 

 

โรดโชว์ฟังความเห็น ดึงลงทุนลดต้นทุนสินค้า

 

ปลัดกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า การโรดโชว์เพื่อมารับฟังความเห็นของนักลงทุนว่าถ้าต้องการมาลงทุนในประเทศไทยมีปัจจัยอะไรที่ต้องการให้เตรียมให้ โดยมุมหนึ่งในการพัฒนาแลนด์บริดจ์คือเรื่องกฎหมาย จะต้องมีกฎหมายพิเศษที่เป็นลักษณะเดียวกับ EEC จากนั้นจะนำความเห็นจากการโรดโชว์ไปประมวลว่าสิ่งใดสามารถทำได้ภายใต้กฎหมายปัจจุบัน หรือมีอะไรจะต้องเพิ่มเติม

 

ปลัดกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า โครงการแลนด์บริดจ์นั้นนอกจากจะนำเรือเดินสินค้ามายังประเทศไทยแล้ว ส่วนที่นายกรัฐมนตรีมองคือ ให้เขามาลงทุนในแลนด์บริดจ์แล้วส่งออก ซึ่งจะทำให้ต้นทุนต่างๆ ถูกลง อีกทั้งลดระยะเวลาการเดินทาง และสิ่งนี้จะทำให้โครงการแลนด์บริดจ์น่าสนใจมากขึ้น

 

เมื่อถามถึงเป้าหมายของนักลงทุน จะเป็นต่างชาติ 100% หรือไม่ ปลัดกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า นั่นคือสิ่งที่เรามอง โดยเรามองว่าเมื่อสร้างเสร็จต้องมีคนมาใช้ ดังนั้น คนที่จะมาลงทุนต้องเป็นคนที่อยู่ในธุรกิจนี้อยู่แล้ว

 

ตั้งเป้า 2 ปี แลนด์บริดจ์ชัดเจน

 

เมื่อถามว่าโครงการนี้จะเกิดได้เมื่อไร ปลัดกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า หลังโรดโชว์เสร็จสิ้นก็ต้องกลับไปประมวลว่าจะต้องทำกฎหมายพิเศษอย่างไร เมื่อทำเสร็จแล้วจะเชิญชวนนักลงทุนเข้ามาลงทุน ซึ่งภายในระยะเวลา 2 ปีจะมีความชัดเจน โดยในกรอบของกฎหมายจะมีการตั้งหน่วยงานและคณะกรรมการในลักษณะเดียวกับ EEC ที่จะมารับผิดชอบในเรื่องนี้ ซึ่งโครงการนี้มีความเกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง โดยจะมีการรายงานนายกรัฐมนตรีโดยตรง 

 

ทั้งนี้ มีเป้าหมายประเทศที่อยากให้มาลงทุนในโครงการดังกล่าว เช่น ตะวันออกกลาง จีน ยุโรป และสหรัฐอเมริกา 

 

แลนด์บริดจ์ คือโครงการสะพานเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน (ชุมพร-ระนอง)

 

โดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) อยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบเบื้องต้น ประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และวิเคราะห์รูปแบบโมเดลการพัฒนาการลงทุน (Business Development Model) หากสามารถลงทุนพัฒนาได้ตามเป้าหมายจะเป็นอภิมหาเมกะโปรเจกต์ของประเทศไทย

 

ด้วยเม็ดเงินลงทุนสูงถึง 1 ล้านล้านบาท เนื่องจากจะมีการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกสองฝั่งทะเล และมีโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระหว่างกันด้วยระบบราง (รถไฟทางคู่) และทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ภายใต้แนวคิด ‘One Port Two Side’ และการพัฒนาพื้นที่หลังท่าเรือด้วยอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องและกิจกรรมเชิงพาณิชย์ 

 

สำหรับแนวเส้นทางเชื่อมโยงระหว่างท่าเรือฝั่งอ่าวไทยกับฝั่งอันดามัน ออกแบบเป็นมอเตอร์เวย์ขนาด 6 ช่องจราจร และรถไฟทางคู่ทั้งรางขนาด 1 เมตร และขนาด 1.435 เมตร ซึ่งเป็นเส้นทาง MR8 ชุมพร-ระนอง ในแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองควบคู่กับระบบราง (MR-MAP) มีระยะทาง 89.35 กิโลเมตร แนวเส้นทางผ่านพื้นที่ 2 จังหวัด 3 อำเภอ (อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง และอำเภอหลังสวน อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร)

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X