วันนี้ (6 มกราคม) เป็นวันแรกของการรับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร (ส.ส. กทม.) เขตเลือกตั้งที่ 9 แทนตำแหน่งที่ว่าง ณ สำนักงานเขตหลักสี่
สืบเนื่องจากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2564 ให้สมาชิกสภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร (ส.ส. กทม.) แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 9 สิ้นสุดลง ส่งผลให้ต้องจัดการเลือกตั้ง ส.ส. แทนตำแหน่งที่ว่างภายใน 45 วัน นับแต่วันที่ตำแหน่งดังกล่าวว่างลง
ทั้งนี้ พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขตเลือกตั้งที่ 9 แทนตำแหน่งที่ว่าง พ.ศ. 2564 และคณะกรรมการการเลือกตั้งได้กำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม 2565 เป็นวันเลือกตั้ง พร้อมทั้งกำหนดวันรับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. กทม. เขตเลือกตั้งที่ 9 แทนตำแหน่งที่ว่าง ระหว่างวันที่ 6-10 มกราคม 2565 เวลา 08.30-16.30 น. โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ ณ ห้องประชุมเปรมประชากร ชั้น 3 สำนักงานเขตหลักสี่
สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 9 กรุงเทพมหานคร ประกอบด้วยเขตหลักสี่ ได้แก่ แขวงทุ่งสองห้อง และแขวงตลาดบางเขน และเขตจตุจักร จำนวน 3 แขวง ได้แก่ แขวงลาดยาว แขวงเสนานิคม และแขวงจันทรเกษม รวมมีหน่วยเลือกตั้งทั้งสิ้น 280 หน่วย แยกเป็นเขตหลักสี่ 122 หน่วย ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 86,544 คน และเขตจตุจักร 158 หน่วย ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 84,220 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2564)
ขณะที่ในการสมัครรับเลือกตั้งวันนี้มีผู้สมัครลงทะเบียนก่อนเวลารับสมัคร 08.30 น. ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป จึงถือว่าเป็นผู้มายื่นใบสมัครรับเลือกตั้งพร้อมกัน ซึ่งผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง (ผอ.กต.เขต) จะจัดให้มีการประชุมผู้สมัครดังกล่าว เพื่อตกลงลำดับการยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง หากไม่สามารถตกลงกันได้จะดำเนินการจับสลาก
โดยในวันแรกของการรับสมัคร ผลการจับสลากหมายเลขคือ ผู้สมัครหมายเลข 1 พันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์ พรรคไทยภักดี, ผู้สมัครหมายเลข 2 อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี พรรคกล้า, ผู้สมัครหมายเลข 3 สุรชาติ เทียนทอง พรรคเพื่อไทย, ผู้สมัครหมายเลข 4 กุลรัตน์ กลิ่นดี พรรคยุทธศาสตร์ชาติ, ผู้สมัครหมายเลข 5 รุ่งโรจน์ อิบรอฮีม พรรคไทยศรีวิไลย์, ผู้สมัครหมายเลข 6 กรุณพล เทียนสุวรรณ พรรคก้าวไกล และผู้สมัครหมายเลข 7 สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ พรรคพลังประชารัฐ
หลังได้รับหมายเลข กองเชียร์ของผู้สมัครต่างโห่ร้องดีใจและนำสติกเกอร์หมายเลขที่เตรียมไว้มาแปะทับป้ายหาเสียงเลือกตั้งของผู้สมัคร หลังจากนั้นแต่ละพรรคการเมืองได้มีกำหนดนัดหมายลงพื้นที่หาเสียงต่อเนื่องในพื้นที่ เพื่อแนะนำตัวและโปรโมตหมายเลขผู้สมัคร
ขณะที่ผู้สมัครทุกคนมีกำลังใจดีและมั่นใจที่จะชนะศึกเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขตหลักสี่-จตุจักร ถือเป็นการเดิมพันอนาคตทางการเมืองของผู้สมัครและพรรคการเมืองที่ประกาศส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ทั้งเป็นหนแรกของพรรคกล้าในสมรภูมิ กทม. รวมถึงเป็นบทพิสูจน์การทำงานหนักในพื้นที่ของสุรชาติจากพรรคเพื่อไทย และเป็นการเดิมพันอนาคตทางการเมืองของสิระ ผ่านสรัลรัศมิ์ ภรรยาที่ลงสมัครแทน แต่ท้ายที่สุดอนาคตของทุกพรรคขึ้นอยู่กับ ‘ประชาชน’ จะเป็นผู้ตัดสินในวันที่ 30 มกราคมนี้
