เชื่อว่าแฟนบาส NBA คงทราบข่าวเรื่อง แอลเอ เลเกอร์ส เปลี่ยนมือจากตระกูลบัสส์ ซึ่งครองมาตั้งแต่รุ่นพ่อ ดร.เจอร์รี่ บัสส์ เมื่อปี 1979
มูลค่าแพงเป็นประวัติศาสตร์โลก 10,000 ล้านดอลลาร์ (3.3 แสนล้านบาท) ราคาเกือบเท่า ดัลลัส คาวบอยส์ ซึ่งฟอร์บสประเมินว่าอยู่ราว 10,100 ล้านดอลลาร์
ตั้งแต่ ดร.บัสส์ ซื้อทีมจาก แจ็ค เคนท์ คู้ก ในราคา 67.5 ล้านดอลลาร์ (ค่าเงินปัจจุบันราว 299 ล้านดอลลาร์ หรือ 9,867 ล้านบาท)
เขาก็ปั้นแบรนด์เลเกอร์สให้ดังระดับโลก
นับจากปี 1980 กวาดมา 11 แชมป์ มากกว่าทุกแฟรนไชส์ของ NBA
ปัญหาก็คือ ตั้งแต่ ดร.บัสส์ เสียชีวิตในปี 2013 หลายสิ่งหลายอย่างของเลเกอร์สตกต่ำ
ดร.เจอร์รี่ บัสส์ และ โคบี ไบรอันต์ ตำนานของ แอลเอ เลเกอร์ส เมื่อปี 2006
ภาพ: Kevin Reece / WireImage / Getty Images
ลูก 6 คน ขนาดถูกปั้นเพื่อเตรียมรับช่วงก็ไม่เก่งเท่าพ่อ และหลายคนใจไม่รักด้วยซ้ำ ร่ำๆ อยากให้ขายทิ้งเพื่อกินสมบัติเก่าอย่างเดียว
จีนี่ บัสส์ ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของ ดร.บัสส์ ขึ้นทำทีมไม่ขี้เหร่ แต่จากการจับจ่ายของเจ้าของทีมอื่นๆ เธอไม่มีปัญญาสู้ได้เลย
พวกเขาเคยพลาดการเข้าเพลย์ออฟ 6 ปีซ้อน โชคดีอาศัยชื่อเสียงและความเป็นเมืองใหญ่ เลอบรอน เจมส์ จึงยอมย้ายมาอยู่ และครองแชมป์สมัยโลกเกิดวิกฤตโควิดหนหนึ่ง
จีนี่มีทรัพย์สินประมาณ 700 ล้านดอลลาร์ (23,100 ล้านบาท) กับคนทั่วไปจัดว่ามหาศาล แต่ลองดูทรัพย์สินของสิบอันดับเจ้าของทีม NBA ตอนนี้ครับ
- สตีฟ บอลล์เมอร์ (คลิปเปอร์ส) 121.3 พันล้านดอลลาร์
- มิเรียม เอเดลสัน (แมฟเวอริกส์) 34.6 พันล้านดอลลาร์
- แดน กิลเบิร์ต (แคฟเวเลียร์ส) 28.1 พันล้านดอลลาร์
- สแตน โครเอนกี้ (นักเก็ตส์) 16.9 พันล้านดอลลาร์
- รอเบิร์ต เพร่า (กริซซลี่ส์) 13.6 พันล้านดอลลาร์
- แอนโธนี่ เรสสเลอร์ (ฮอว์คส) 11.6 พันล้านดอลลาร์
- ทิลล์แม่น เฟอร์ทิตต้า (ร็อคเก็ตส์) 10.2 พันล้านดอลลาร์
- ทอม กอร์ส (พิสตันส์) 9.4 พันล้านดอลลาร์
- โจเซ็ปห์ ไช่ (เน็ตส์) 9.3 พันล้านดอลลาร์
- มิกกี้ แอรินสัน (ฮีต) 8.9 พันล้านดอลลาร์
เธอห่างไกลท็อปเทนเป็นสิบเท่า
จีนี่ บัสส์ เมื่อปี 2021
ภาพ: Allen J. Schaben / Los Angeles Times via Getty Images
ดร.บัสส์ ทิ้งมรดกเป็นหุ้นส่วนเลเกอร์ส 66% ดังนั้นลูกหกคนจะได้เท่ากันหมด คนละ 11%
หลายธุรกิจครอบครัว เมื่อหัวเรือใหญ่จากไป ก็จะล่มสลายในเวลาไม่นาน
แต่จีนี่กับพี่น้องอีก 4 ราย (คนหนึ่งฉีกตัวออกไปแล้ว) แม้ไม่เก่งกาจก็ยังพยายามประคับประคองแบรนด์อย่างเลเกอร์สให้หายใจเหนือน้ำมาเป็นทศวรรษ
มรดกสำคัญสุดที่ ดร.บัสส์ ทิ้งเอาไว้อีกอย่างก็คือ ข้อตกลงกับทีวีอย่าง ไทม์ วอร์เนอร์ เคเบิ้ล 25 ปี 5 พันล้านดอลลาร์
มันทำให้เลเกอร์สยังไม่มีปัญหาด้านการเงินก็จริง แต่ต้องตัดงบประมาณหลายอย่างที่ไม่จำเป็นออกไป
ตัวอย่างคือ
- ผู้ช่วยโค้ชไม่ได้นอนโรงแรมเดียวกับผู้เล่น เมื่อเขาเดินทางไปซ้อมตอนปิดฤดูกาลเพราะค่าห้องแพง
- รอนนี่ เลสเตอร์ อดีตผู้ช่วยผู้จัดการทีมไม่ได้ต่อสัญญาช่วงล็อกเอาต์ปี 2011 สาเหตุหลักเพราะค่าจ้าง และเป็นหนึ่งในหลายคนที่โดนเลย์ออฟ (ช่วงนั้น ดร.บัสส์ ล้มป่วย ไม่ได้บริหารแล้ว)
- ทำตัวเป็นเศรษฐีจนตรอก ขอรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล ช่วงเกิดเหตุการณ์โควิด พอโดนด่าโดนวิจารณ์จึงรู้สึกอายยอมคืนเงิน 4.6 ล้านดอลลาร์
- เป็นทีมเดียวของ NBA ที่ไม่ได้ส่งตัวแทนไปงานประชุม Sloan Analytics ปี 2013 เพราะไม่มีหน่วยวิเคราะห์ข้อมูลจะเอาไปพูด กระทั่ง เจเจ เร้ดดิก เข้ามาคุมทีม จึงให้เน้นด้านนี้เป็นพิเศษ ทั้งที่เลเกอร์สละเลยมานาน
คนที่มารับช่วงเลเกอร์ส ชื่อ มาร์ค วอลเตอร์ ชื่อเสียงด้านการลงทุนยาวเป็นหางว่าว เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง กูก์เกนไฮม์ พาร์ทเนอร์ส
เขารู้จักกับ ท็อดด์ โบห์ลี่ (ใช่แล้วครับ เจ้าของเชลซีนั่นแหละ) ตั้งแต่ปี 1999 สมัยที่โบห์ลี่เข้ามาทำกับ เจ.เอช.วิตนี่ย์ บริษัทลงทุนในหุ้นนอกตลาด
วอลเตอร์ได้คำแนะนำจากโบห์ลี่ ฟันกำไรจากปรับโครงสร้างตราสารที่มีหุ้นกู้มหาศาล พร้อมทำให้กูก์เกนไฮม์มีบัญชีเครดิตเติบโตมีมูลค่าถึง 6 หมื่นล้านดอลลาร์ในเวลา 15 ปี
ทั้งสองคนยังรุกคืบสู่ธุรกิจกีฬาซึ่งใจรักเป็นทุนเดิมด้วย เข้าซื้อทีม แอลเอ ด็อดเจอร์ส ทีมดังวงการเบสบอล ซึ่งเข้าสู่กระบวนการล้มละลายเมื่อปี 2011 ในราคาแพงเป็นประวัติการณ์ 2 พันล้านดอลลาร์ (ราว 2.8 พันล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน)
พร้อมยังพ่วง แมจิก จอห์นสัน ตำนานเลเกอร์สให้เข้ามามีเอี่ยว อย่างน้อยก็ส่งผลดีด้านภาพลักษณ์และด้านสื่อชัดเจน
จากนั้นวอลเตอร์ก็อัดเม็ดเงินเข้าทั้งระบบทีมด็อดเจอร์ส ไม่เพียงแต่จ้างผู้เล่นเก่งอย่างเดียว (เมเจอร์ลีกเบสบอลต่างจากเอ็นบีเอตรงไม่มีเพดานค่าจ้าง) ยังหว่านไปค่าใช้จ่ายนอกระบบ ซึ่งตรงนี้แหละที่เลเกอร์สกำลังขาดแคลนพอดี ทั้งเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลและแมวมอง
ด็อดเจอร์สจ้าง แอนดรูว์ ฟรีดแม่น หนึ่งในยอดผู้บริหารเบสบอล เคยทำให้ทีมเล็กงบน้อยอย่าง แทมป้า เบย์ เรย์ส ประสบความสำเร็จยาวนาน
วอลเตอร์ใช้เวลาปั้นไม่ถึงทศวรรษ, ด็อดเจอร์สผงาดขึ้นมาอยู่หัวแถว สามารถเซ็นสัญญา โชเฮ โอห์ตานิ ด้วยสัญญาแพงระดับประวัติศาสตร์
มาร์ค วอลเตอร์ เจ้าของและประธานของ ด็อดเจอร์ส เปิดตัว โชเฮ โอห์ตานิ ปรากฏการณ์ของวงการเบสบอลชาวญี่ปุ่น เมื่อปี 2023 มาร่วมทีม
ในความจริง วอลเตอร์กับโบห์ลี่ยังรุกมายังเลเกอร์สตั้งแต่ปี 2021 เมื่อซื้อหุ้น 27% จาก ฟิลิป อันชูตท์ซ
พร้อมสิทธิสำคัญก็คือ ถ้าตระกูลบัสส์ต้องการขายหุ้นที่เหลือ 66% พวกเขาจะได้สิทธิก่อนใคร
(ผมมานั่งนึกดู ถ้ามูลค่าเลเกอร์สตามข่าวคือซื้อขายกันหมื่นล้านดอลลาร์จริง ก็ต้องตกกับทางตระกูลบัสส์ราว 5.1 พันล้านดอลลาร์ เพราะขายหุ้นไม่หมด เหลือค้างเอาไว้ 15% ส่วนวอลเตอร์และหุ้นส่วนของพวกเขาจะครองเลเกอร์สราว 78%)
แหล่งข่าวคนหนึ่งในเอ็นบีเอเห็นฝีมือวอลเตอร์แล้วบอกว่า “น่าสนใจว่า เลเกอร์สจะกลับมาเป็นอย่างที่ทุกคนเคยคิดว่าพวกเขาเคยเป็นได้ไหม? มีเงินสะพัด พร้อมจับจ่ายเต็มที่ ทำทุกอย่างเพื่อความสำเร็จ”
“แยงกี้ส์กับเลเกอร์สมักถูกยกย่องว่าอยู่ระดับเดียวกัน แต่ในความจริงแล้วไม่ใช่ ผมไม่เคยทำงานเบสบอล แต่ยังไงพวกเขาไม่ถึงชั้นแยงกี้ส์”
แฟนๆ เลเกอร์สไม่ต้องมองไกล เอาแค่คลิปเปอร์สเมื่อเปลี่ยนเจ้าของเป็นบอลล์เมอร์ จากแค่ทีมลูกไล่ร่วมเมือง
บอลล์เมอร์ทุ่มทุนสร้างสนามใหม่สุดอลังการ อินทูอิต โดม ราคา 2 พันล้านดอลลาร์
อินทูอิต โดม ราคา 2 พันล้านดอลลาร์ ในวันเปิดตัวต่อหน้าสื่อมวลชนเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2024
ภาพ: Jevone Moore / Icon Sportswire via Getty Images)
อัดฉีดเงินกับโครงสร้างผู้บริหาร เพื่อความสำเร็จทั้งบนคอร์ตและนอกคอร์ต ไม่ได้มีแค่ ลอว์เรนซ์ แฟรงค์ ซึ่งเป็นประธานด้านการดูแลบาสเกตบอล กับ เทรนท์ เร้ดเด้น ผู้จัดการทีม แต่ยังมีทีมงานจัดเต็ม
“หลายปีแล้วที่เลเกอร์สมี มิตช์ คัพแช็ค และก็แค่นั้น” แหล่งข่าวพูดถึงอดีตผู้จัดการทีมเลเกอร์ส” ทุกวันนี้เหรอ? ก็ ร็อบ เพลิก้า ไม่ใช่ว่าดูถูกนะ แต่ก็แค่นั้นจริงๆ”
ตามโมเดลสร้างทีมของด็อดเจอร์ส ถ้าเพลินก้าซึ่งเพิ่งต่อสัญญายาวยังได้อยู่ต่อ คงเลื่อนเป็นผู้บริหารดูแลด้านบาสเกตบอล แล้วหาทางระดมสมองเพิ่มเติมมาอีก
“ใครจะเป็น แอนดรูว์ ฟรีดแม่น? ให้พวกเขา” แหล่งข่าวลีกตั้งคำถาม “เอา บ็อบ (มายเออร์ส)? หรือว่า มาไซ (อูจีริ)? หรือว่า แซม เพรสติ?”
มายเออร์สคืออดีตผู้บริหารวอร์ริเออร์ส, อูจีริคือคนปั้นแรปเตอร์ส ส่วนเพรสติเพิ่งปั้นธันเดอร์จนได้แชมป์ NBA
แหล่งข่าวอีกคนเสริมว่า “ตอนบอลล์เมอร์ซื้อคลิปเปอร์ส คุณก็เห็นเขาอัดฉีดเงินเข้าองค์กรทุกระดับ ทำให้ทีมกลายเป็นแชมป์หรือยัง? ก็ยัง แต่อย่างน้อยองค์กรพวกเขายอดเยี่ยมในรอบ 10 ปี ชนะสะสมติดอันดับท็อปไฟว์ เข้ารอบเพลย์ออฟติดๆ กัน ทั้งที่ยุคก่อนแค่เข้าสักหนยังยาก”
การเปลี่ยนมือเจ้าของทีมเลเกอร์สเกิดขึ้นถูกจังหวะเวลามาก
แฟรนไชส์เพิ่งได้เพชรเม็ดงามเข้ามาชื่อว่า ลูก้า ดอนชิซ
เดือนสิงหาคมนี้, ลูก้าจะได้สิทธิต่อสัญญาใหม่ 4 ปี 229 ล้านดอลลาร์ (7,557 ล้านบาท)
หรือจะเลือกอีกทางคือต่อก่อน 2 ปีเพื่อเก็บเครดิตแข่งในลีกครบ 10 ปี ใน 2028
จากนั้นเขาค่อยจัดเต็มซัด 5 ปีแบบเต็มเหนี่ยว 35% ของเพดานค่าจ้างทีม
ทางเลือกที่สาม คือรอจนซัมเมอร์หน้าให้หมดสัญญาแล้วต่อยาวเลเกอร์ส 5 ปี 296 ล้านดอลลาร์ (9,768 ล้านบาท)
ทางนี้แฟนๆ เลเกอร์สจิกเท้าทีเดียว เพราะเขาสามารถย้ายหนีไปที่อื่นได้เช่นกัน
แหล่งข่าวใกล้ตัวดอนชิซเห็นผลงานวอลเตอร์ปั้นด็อดเจอร์สมาแล้ว มีเหรอจะไม่ประทับใจ
พูดถึงเลเกอร์ส ไม่พูดถึง เลอบรอน เจมส์ ได้ยังไง แม้จะเป็นไม้ใกล้ฝั่งวัย 40
เลอบรอนมีออปชันในมือ อีกหนึ่งปี 52.6 ล้านดอลลาร์ (1,735.8 ล้านบาท) หลายฝ่ายเชื่อว่าเขาไม่ไปไหน คงใช้สิทธิดังกล่าว
อายุงานของเขาว่ากันแบบปีต่อปี
ทุกคนรู้ถึงความทะเยอทะยานว่าเลอบรอนตั้งความหวังอยากเป็นเจ้าของแฟรนไชส์ NBA เมื่ออำลาวงการ แล้วจะมีใครให้คำแนะนำด้านการลงทุนกับเขาเก่งกว่าวอลเตอร์อีก
เลเกอร์สยังต้องการหาเซ็นเตอร์มารับลูกล็อบจากดอนชิซ และตัวแม่นๆ เพิ่มด้วย
ถ้าเลอบรอนใช้สิทธิอยู่ต่อตามคาด ทีมจะแทบไม่เหลือเพดานค่าจ้างให้ขยับตัว แพงสุดคือค่าจ้างเริ่มต้น 5.7 ล้านดอลลาร์ ส่วนสิทธิดราฟต์จะเทรดได้ก็แค่รอบแรก 2031 หรือ 2032
วอลเตอร์รวยแค่ไหนก็ไม่สามารถทำในแบบทำให้ด็อดเจอร์ส
เราจึงต้องติดตามกันต่อว่า ภารกิจไล่ล่า แลร์รี่ โอไบรอัน สมัย 18 ของแฟรนไชส์ระดับเลเกอร์สจะสามารถพลิกแพลงในทิศทางใด
แต่อย่างน้อยเชื่อว่าแฟนๆ เลเกอร์สจะมองเห็นอนาคตที่ดูสดใสขึ้น กับเจ้าของทีมคนใหม่ที่ชื่อ มาร์ค วอลเตอร์