Kyodo Senpaku บริษัทในญี่ปุ่น เปิดตัว ‘ตู้กดเนื้อวาฬ’ หลังซูเปอร์มาร์เก็ตไม่อนุญาตให้ขาย ยกทัพซาชิมิวาฬ เบคอนวาฬ เนื้อวาฬสด ราคาเริ่มต้น 250-750 บาท พร้อมขยายจุดขายเพิ่ม 100 แห่ง ชิงลูกค้า
NBC News รายงานว่า หลังจากที่เจอกระแสซูเปอร์มาร์เก็ตไม่อนุญาตให้วางจำหน่ายเนื้อวาฬ เพื่อต่อต้านการล่าวาฬ ล่าสุดบริษัท Kyodo Senpaku ในญี่ปุ่น ได้เปิดตัวตู้จำหน่ายเนื้อวาฬในรูปแบบตู้กดอัตโนมัติ (Vending Machine) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนผลักดันยอดขาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ต้องรีบซื้อตุน? เหตุยุค ‘เงินเยน’ อ่อนค่าอาจจบแล้ว! หลังเงินเฟ้อสหรัฐฯ แผ่วกว่าคาด ดึงดอลลาร์อ่อน
- ราคาห้องพักและโรงแรมใน ญี่ปุ่น พุ่งขึ้นแล้ว 10-20% จากนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวและเงินเฟ้อ
- ญี่ปุ่นจ๋าพี่มาแล้ว! นี่คือ 5 เซอร์ไพรส์เล็กๆ จากญี่ปุ่นที่เปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง
Konomu Kubo โฆษกบริษัท Kyodo Senpaku กล่าวว่า ร้านดังกล่าวมีชื่อว่า คุจิระ สโตร์ (Kujira Store) ที่แปลว่าร้านวาฬ ตกแต่งด้วยการ์ตูนปลาวาฬ
ปัจจุบันมีจำนวน 3 แห่ง กระจายอยู่ในเมืองโยโกฮามา ใกล้กรุงโตเกียว โดยภายในตู้มีสินค้าจากเนื้อวาฬอยู่ทั้งหมด 3 รายการ ได้แก่ ซาชิมิวาฬ เบคอนวาฬ และเนื้อวาฬ ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 1,000 เยน (250 บาท) ถึง 3,000 เยน (750 บาท) ตั้งแต่เปิดมาถือว่าได้รับการตอบรับและสามารถสร้างยอดขายได้สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก
จากนี้บริษัทตั้งเป้าเตรียมขยายตู้จำหน่ายเนื้อวาฬ 100 แห่งทั่วประเทศ ภายใน 5 ปี โดยร้านที่ 4 จะเปิดบริการที่โอซาก้า ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2023 พร้อมกับเตรียมลงทุน 6 พันล้านเยน (1,515 ล้านบาท) เพื่อต่อเรือล่าวาฬลำใหม่ เพื่อมาแทนเรือนิสชิน มารู ที่ค่อนข้างเก่าแล้ว
ทั้งนี้ ตู้จำหน่ายเนื้อวาฬส่วนใหญ่จะอยู่ใกล้กับซูเปอร์มาร์เก็ต เพื่อรองรับความสะดวกของลูกค้า
หากย้อนไปในอดีต เนื้อวาฬเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันมานาน จากกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติที่มองว่าการทำในลักษณะนี้จะนำไปสู่การขยายล่าวาฬมากขึ้น
ขณะเดียวกันญี่ปุ่นกลับมาล่าวาฬเชิงพาณิชย์อีกครั้งในเดือนกรกฎาคม 2019 หลังจากถอนตัวจากคณะกรรมาธิการล่าวาฬระหว่างประเทศ ซึ่งสิ้นสุดระยะเวลา 30 ปีของการล่าวาฬเพื่อทำมาใช้ในการวิจัย ซึ่งถูกนักอนุรักษ์โจมตีว่าเป็นการปกปิดการล่าเชิงพาณิชย์ที่ IWC ห้ามล่าวาฬเชิงพาณิชย์ ในปี 1988
โดยฝั่งผู้ประกอบการบอกว่า เนื้อวาฬที่วางขายอยู่ในตู้ส่วนใหญ่จับได้ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งถือว่าอยู่นอกเขตที่กำหนดไว้
Kubo ย้ำว่าธุรกิจดังกล่าวจะเติบโตหรือไปต่อได้หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้บริโภค
อ้างอิง: