สถานการณ์เศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวและแรงงานตกงาน ส่งผลให้รายได้คนไทยลดลง และ ‘หนี้เสีย’ ในไทยอาจเพิ่มขึ้น ดังนั้นบริษัทด้านสินเชื่อยิ่งต้องปรับตัว โจทย์ใหญ่หนีไม่พ้นการหารายได้ใหม่ๆ แต่ต้องควบคุมความเสี่ยงให้น้อยลง ดังนั้นเลยเห็นเจ้าใหญ่ในตลาดมาเน้นสินเชื่อที่มีหลักประกันมากขึ้น
เรือนแก้ว เกษมสวัสดิ์ศรี ผู้อำนวยการ ธุรกิจสินเชื่อเคทีซี พี่เบิ้ม บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถยนต์แม้จะมีการแข่งขันสูงทั้งสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (Non Bank) ธนาคารพาณิชย์ ผู้ให้บริการท้องถิ่น มีโอกาสเติบโตมาก โดยปัจจุบันประเมินว่ามียอดสินเชื่อคงค้างในและนอกระบบราว 4 แสนล้านบาท ซึ่งปัจจุบันและข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่า (ข้อมูล ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2563) สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับประเภทสินเชื่อที่มีทะเบียนรถยนต์เป็นประกันมีจำนวน 3.39 ล้านบัญชี และยอดสินเชื่อคงค้างในระบบเพียง 137,637 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (Non-Bank) 75% ส่วนใหญ่เป็นเจ้าใหญ่ของตลาด และอีก 25% เป็นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ดังนั้นมองว่ายังมีโอกาสในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เดือนกันยายนบริษัทเปิดตัว ‘เคทีซี พี่เบิ้ม’ สินเชื่อทะเบียนรถยนต์และสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์ โดยมีจุดแข็งในการให้บริการรับสมัครและอนุมัติสินเชื่อถึงที่ (พี่เบิ้ม เดลิเวอรี) โดยสามารถนัดพบสถานที่ที่ลูกค้าสะดวก สามารถทราบผลการอนุมัติและได้รับเงินโอนเข้าบัญชีทันทีภายใน 2 ชั่วโมง ซึ่งจะรับหลักประกันรถทุกยี่ห้อ ไม่จำกัดอายุรถ
เบื้องต้นจะให้บริการในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาการขยายไปตามหัวเมืองใหญ่ในภูมิภาค โมเดลหลังจะเน้นที่ให้พนักงาน (เอเจนต์) สามารถเข้าบริการลูกค้าโดยตรง และจะมีการขยายพันธุ์พันธมิตรอื่นๆ โดยพันธมิตรหลักคือ ธนาคารกรุงไทย ปัจจุบันมีการไพลอตบริการนี้ใน 20 สาขา ทั้งนี้ ช่วงที่เหลือของปี 2563 คาดว่าจะมีพอร์ตสินเชื่อราว 200 ล้านบาท ขณะที่เป้าหมายสิ้นปี 2564 จะมีพอร์ตสินเชื่อ 1 พันล้านบาท โดยคาดว่า 85% จะมาจากสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ และคาดว่าหนี้เสียจะน้อยกว่าสินเชื่อส่วนบุคคลของ KTC ที่อยู่ระดับ 8.5%
อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ผ่านมาทางบริษัททดลองเปิดให้บริการแล้ว มีลูกค้าขอสินเชื่อเฉลี่ย 3 แสนบาทต่อราย โดยอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 21-24% ต่อปี โดยอัตราดอกเบี้ยสูงสุดอยู่ 36% ต่อปี ขึ้นอยู่กับอายุรถที่นำมาประกัน
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
