วันนี้ (2 กันยายน) ผู้สื่อข่าวรายงานข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุว่า เช้าวันนี้ตลาดหุ้นไทย (SET Index) เปิดตลาดเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 0.67 จุด ขึ้นมาสู่ระดับ 1,306.24 จุด จากเมื่อวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 1,305.57 จุด (10.29 น. SET Index +1.84 จุดจากช่วงเช้า)
มงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์ หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KTBST กล่าวว่า ระหว่างวันนี้คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบที่ 1,300-1,310 จุด โดยมองว่าผลกระทบจากข่าวการลาออกของ ปรีดี ดาวฉาย จากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะอยู่ในวงจำกัด แต่ยังต้องจับตาการเคลื่อนไหวของนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบันอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ข่าวการลาออกของปรีดีเป็นการสะท้อนว่ารัฐบาลไม่มีคนทำงาน จึงอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจไทย ขณะเดียวกันตลาดหุ้นไทยยังไดัรับแรงกดดันจากปัจจัยในประเทศ ได้แก่
- ปัญหาการเมือง เช่น ข่าวการจับกุมแกนนำและการลาออกของปรีดี ฯลฯ โดยประเด็นทางการเมืองจะมีส่วนเกี่ยวโยงกับเศรษฐกิจซึ่งเป็นเรื่องความมั่นใจของคน
- กำไรของตลาดไทยลดลงต่ำกว่าระดับ 60 บาทต่อหุ้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยมีความน่าสนใจน้อยลงเมื่อเทียบกับประเทศอื่น
อย่างไรก็ตาม คาดว่าวันนี้จะเห็นการเคลื่อนไหวในกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศและนักลงทุนสถาบันอาจเทขายหุ้นไทยมากขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก มีเพียงประเทศฟิลิปปินส์ที่สถานการณ์แย่กว่าประเทศไทย
นอกจากนี้ปัจจัยต่างประเทศ ปัจจัยลบเป็นหลัก ได้แก่ เรื่องโควิด-19 ที่เริ่มเห็นการแพร่ระบาดระลอกที่สองในหลายประเทศ และหากไม่มีข่าววัคซีนตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลงบางส่วน ขณะเดียวกันยังต้องจับตาการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาที่ยังทำให้ตลาดรู้สึกไม่มั่นคง
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบวกในต่างประเทศ ได้แก่ ดัชนีฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของสหรัฐฯ และจีนค่อนข้างดี สะท้อนถึงภาคการผลิตที่ปรับตัวดีขึ้น และอาจมีส่วนให้การส่งออกปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้คาดการณ์ว่ากรอบการเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยเดือนกันยายน 2563 จะอยู่ในกรอบ 1,300-1,350 จุด ถือเป็นการเคลื่อนไหวในกรอบนี้ต่อเนื่องถึง 4 เดือน และมองว่าหากปัจจัยทางการเมืองและสถานการณ์ต่างๆ ยังไม่ดีขึ้น ตลาดหุ้นไทยอาจเคลื่อนไหวไม่เกิน 1,350 จุด
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า