สมประวิณ มันประเสริฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงานวิจัยและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า การระบาดของโควิดระลอกใหม่ซึ่งทำให้ภาครัฐต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ใน 10 จังหวัดพื้นที่เสี่ยงสูง ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศที่มากขึ้น ทำให้วิจัยกรุงศรีต้องปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปีนี้อีกรอบ โดยล่าสุดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้เพียง 1.2% จากคาดการณ์เดิมที่ 2%
“รอบนี้แม้เราจะปรับตัวเลข GDP จาก 2% มาอยู่ที่ 1.2% แต่ถ้าย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงต้นปี ซึ่งตอนนั้นเรามองว่าทั้งปียังเติบโตได้ 2.9% เท่ากับว่าตอนนี้เราเอาตัวเลขลงมาแล้วเกินครึ่งหนึ่งของที่เคยประเมินไว้”
สาเหตุที่คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบหนัก เนื่องจากการระบาดยังไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไร แน่นอนว่าย่อมส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งจากประมาณการล่าสุด มองว่าในปีนี้อาจมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเพียง 2.1 แสนคน จากคาดการณ์เดิม 3.3 แสนคน ส่วนปีหน้าเราคาดว่าจะมีประมาณ 5.5 ล้านคน จากคาดการณ์เดิม 8 ล้านคน
นอกจากนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นยังส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวในประเทศไทยด้วย ดังนั้นการท่องเที่ยวภายในประเทศเองก็จะลดลง กระทบต่อเนื่องไปยังการบริโภคภายในประเทศ
ในส่วนของมาตรการทางเศรษฐกิจที่ออกมา ไม่ว่าจะเป็นมาตรการด้านการเงินหรือการคลัง สมประวิณมองว่า ยังน้อยมาก ไม่เพียงพอที่จะดูแลผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ได้รับความเสียหายค่อนข้างสูง ดังนั้นการหมุนลงของเศรษฐกิจจึงย่อมเกิดขึ้นแน่นอน
“เวลานี้ประเทศอื่นๆ เขาฟื้นกันหมดแล้ว และเขาเริ่มคิดว่าจะถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไร แต่ของไทยคงไปคิดแบบนั้นไม่ได้ ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้เร็วที่สุด เรื่องการเป็นหนี้ไม่อยากให้รัฐบาลเป็นกังวลในประเด็นนี้ เพราะวันนี้เราป่วย จำเป็นต้องยืมเงินในอนาคตมารักษาตัว และพอเราหายจากไข้ก็ค่อยไปทำงานใช้คืน”
สำหรับมาตรการเยียวยาที่ภาครัฐประกาศออกมาล่าสุด 4.2 หมื่นล้านบาท เป็นการให้ทีละ 1 เดือนนั้น สมประวิณกล่าวว่า ภาครัฐควรทำมากกว่านี้ และต้องเยียวยาแบบไม่มีเงื่อนไข เพราะวันนี้ผู้ได้รับผลกระทบมีเป็นวงกว้าง ที่สำคัญการเยียวยาก็ต้องมีระยะเวลาที่ยาวนานพอ
ส่วนตัวที่มาช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยในเวลานี้ สมประวิณมองว่า มีเพียงตัวเดียวคือ การส่งออก ซึ่งเติบโตได้ถึงเลข 2 หลัก โดยเชื่อว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้การส่งออกก็จะยังเป็นพระเอกที่คอยช่วยพยุงเศรษฐกิจไทย เพราะหากตัดตัวนี้ออกไปเศรษฐกิจไทยคงติดลบแน่นอน สะท้อนให้เห็นภาพความแตกต่างระหว่าง 2 ภาคเศรษฐกิจ คือเศรษฐกิจต่างประเทศกับเศรษฐกิจในประเทศ
