วันนี้ (13 พฤษภาคม) จากกรณีที่ กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส. ชลบุรี เขต 6 พรรคประชาชน แถลงประกาศแยกทางกับพรรคประชาชน โดยให้เหตุผลถึงทัศนคติที่เข้ากับพรรคไม่ได้ รวมถึงการที่ได้อภิปรายขอบคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระบรมราโชบายสร้างอ่างเก็บน้ำบนเกาะสีชัง
ล่าสุด มีการเผยแพร่คลิปเสียงที่เป็นการพูดคุยกันระหว่างกฤษฎิ์ กับ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส. แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน โดยเป็นการระบายความรู้สึกของกฤษฎิ์ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม พร้อมเปิดเผยว่าพรรคมีการชวนคนอื่นลงสมัคร สส. แทนตัวเอง มีใจความโดยสรุป ดังนี้
▪️ไม่ได้รับความเป็นธรรมภายในพรรค
กฤษฎิ์เริ่มต้นด้วยการระบายความรู้สึกว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมภายในพรรคมาโดยตลอด มีการดิสเครดิตเป็นระยะ ทั้งที่ทุ่มเททำงานและทุ่มทุนรณรงค์เต็มที่ ถึงขั้นต้องเผาสติกเกอร์หาเสียงถึง 50,000 แผ่น ที่ตั้งใจหาเสียงเลือกตั้งเต็มที่ สุดท้ายก็ไม่เลือก ตั้งใจทำเพื่อพรรคทุกอย่าง ทุ่มทุนทุกอย่าง แต่สุดท้ายก็เป็นแบบนี้ พรรคมีพฤติกรรมเชิญคนอื่นมาลงแทนโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
กฤษฎิ์ยังเปิดเผยเหตุการณ์ในคณะกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ว่าเสนอชื่อนักวิชาการระดับประเทศให้นั่งร่วมพิจารณาในโครงการแลนด์บริดจ์ เพื่อให้ข้อมูลมีความลึกและเกิดประโยชน์ แต่กลับถูก สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส. แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน พูดลับหลังว่า “วางตัวไม่ดี” และตั้งคำถามว่าเป็นพวกเดียวกันหรือไม่
▪️ธรรมนัสยื่นมือช่วยแก้ปัญหาในพื้นที่
กฤษฎิ์เล่าว่า เคยขอความช่วยเหลือจาก ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม 2 ครั้ง ขณะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ครั้งแรกเพื่อทำอ่างเก็บน้ำ และอีกครั้งเพื่อแก้ปัญหาให้ชาวประมงในพื้นที่ ซึ่ง ร.อ. ธรรมนัส ก็ช่วยทันที
และยืนยันว่าไม่ได้มีแรงจูงใจทางการเมืองใดๆ มากไปกว่าการเลือกคนที่ช่วยงานในพื้นที่จริง และสิ่งนี้เองที่ทำให้พิจารณาว่าหากจะไปต่อทางการเมือง อาจต้องร่วมงานกับคนที่มีประสิทธิภาพในการทำงานเพื่อประชาชนจริงๆ ไม่ใช่คนในพรรคเดิมที่รู้สึกว่าไม่ยอมรับหรือช่วยเหลือ
“พี่ก็หมั่นไส้ บางคนเป็นหนอน เป็นงูเห่า รับเงินจากต่างพรรคมาแล้วเอาเรื่องของพรรคไปขาย แต่ยังลอยหน้าลอยตาทำงานอย่างมีความสุข แต่พี่ทำงานให้พรรคทุกอย่าง แต่โดนบูลลี่ทุกอย่าง ชัดเจนว่าความยุติธรรมไม่มี
“ตอนนี้พี่จะทำให้จบสมัย แต่สมัยหน้าก็เป็นเรื่องของพรรคอื่นแล้วว่าเขาจะรับพี่ไหม แต่บอกเลยว่าคนอย่างพี่ไม่ได้ซื้อได้ด้วยเงิน ใจล้วนๆ แต่พี่หมดใจให้กับพรรคเราแล้ว
▪️หัวหน้าพรรคเสนอแถลงลาออก
ณัฐพงษ์เสนอให้มองภาพกว้างขึ้น โดยกล่าวว่า หากกฤษฎิ์ยังอยากทำหน้าที่ สส. ให้จบเทอม มีอยู่สองทางเลือกคือ อยู่ต่อกับพรรค แต่ต้องยอมรับความอึดอัดในระบบภายใน หรือย้ายพรรค โดยต้องมีการ ‘ขับออก’ อย่างเป็นทางการ ไม่ใช่ลาออกเอง เพื่อรักษาสถานะทางกฎหมาย
“หรือไม่ย้าย แต่ย้ายที่นั่งไปอยู่กับเขา แล้วทำงานด้วยกันต่อ” ณัฐพงษ์เสนอ
“ถ้าทำแบบนั้นพี่ก็เป็นงูเห่าดิ พี่จะทำอย่างนั้นทำไม ในหนังสือชัดเจนว่าต้องการให้ขับออก ซึ่งเป็นทางออกที่ดีที่สุด และไม่ทำให้พรรคเสียหาย แต่ถ้าไม่ขับออกต้องมีเรื่องราวตามมา ซึ่งพี่ไม่อยากทำอย่างนั้นอยู่แล้ว” กฤษฎิ์ตอบ
ณัฐพงษ์ย้ำว่า การจะขับใครออกจากพรรคต้องมี ‘ข้อกล่าวหาฝ่าฝืนวินัย’ ที่ชัดเจน แต่ในกรณีของกฤษฎิ์ สิ่งที่พูดหรืออภิปรายในสภา ไม่ถือว่าเข้าข่ายผิดวินัยพรรคโดยตรง หากขับออกไปโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน พรรคจะตกเป็นเป้าถล่มว่า ‘ล้มเจ้า’ เพราะไปขับ สส. ที่อภิปรายถึงการขอเข้าเฝ้าฯ
“มีอีกทางหนึ่งไม่รู้จะตอบโจทย์พี่ไหม แต่จะทำให้สังคมเชื่อ พี่พูดแล้วโคตรหล่อเลย สำหรับการทำแบบนี้ พรรคอาจจะเสียหายนิดหน่อย คือพี่แถลงไปเลยว่าไม่ถูกจริตกับการทำงานของพรรค แล้วพี่ก็ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค” ณัฐพงษ์ระบุ
กฤษฎิ์จึงตอบว่า “พี่ก็หมดสภาพ สส. สิ” ณัฐพงษ์กล่าวว่า “ผมถึงบอกไงว่าตอบโจทย์นั้นของพี่ รักษาชื่อเสียง หากพี่ไม่ได้คิดถึงสมัยหน้า เพราะเหลือเวลาอีกแค่ครึ่งเทอม”
▪️ณัฐพงษ์ยอมรับไม่ได้รู้ทุกเรื่องในพรรค
กฤษฎิ์ยืนกรานว่า เธอต้องการแถลงให้ประชาชนเข้าใจ แต่พรรคกลับไม่ให้แถลง ไม่มีความยุติธรรมสำหรับตนเองเลยใช่หรือไม่
ทำให้ณัฐพงษ์ปิดท้ายด้วยการยอมรับว่า “ผมไม่ได้รู้ทุกเรื่องที่เกิดในพรรค ถ้ารู้คงมาคุยก่อนที่มันจะระเบิด”