วันนี้ (18 ธันวาคม) สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีการเกิดเหตุจลาจลในเรือนจำจังหวัดกระบี่ว่า ตนได้ติดตามและรับฟังรายงานอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเกิดเหตุความวุ่นวายตั้งแต่เช้าวันที่ 16 ธันวาคม จากนั้นในช่วงค่ำแกนนำผู้ต้องขังเรียกร้องให้มีการแยกตัวผู้ต้องขังที่ติดโควิดออกไปรักษา โดยมี ผบ.เรือนจำ และ ผบก.ภูธรจังหวัดกระบี่ เข้าเจรจา และทยอยนำผู้ต้องขังที่ป่วยส่งโรงพยาบาล และย้ายผู้ต้องขังหญิงไปยังเรือนจำชั่วคราวกระบี่น้อย
จนกระทั่งเวลาประมาณ 04.30 น.วันที่ 17 ธันวาคม ผู้ต้องขังได้เริ่มเผาทำลายอาคารร้านค้าสงเคราะห์และสูทกรรม โดยใช้ถังแก๊ส เจ้าหน้าที่ได้ใช้รถดับเพลิงเข้าควบคุมไม่ให้เพลิงลุกลาม
สมศักดิ์กล่าวอีกว่า เงื่อนไขของการกำกับดูแลเรือนจำในต่างจังหวัดนั้น อำนาจจะอยู่ที่จังหวัด ตนจึงได้สั่งการให้ อายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ไปประสานกับจังหวัดกระบี่ และร่วมตรวจสอบในประเด็นที่เกิดขึ้น โดยสั่งให้ร่วมทำงานแบบบูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แก้ปัญหาให้จบโดยเร็ว และได้มีการกำชับเรื่องการขนย้ายผู้ต้องขังที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ต้องทำอย่างละเอียดถี่ถ้วน
ส่วนการที่ผู้ต้องขังนำเรื่องโควิดมาอ้างเป็นเหตุในการก่อจลาจลนั้น ข้อเท็จจริงคือ ในเรือนจำจังหวัดกระบี่ มียารักษาโควิดและยาฟ้าทะลายโจรเตรียมพร้อมอยู่แล้ว และมีเพียงพอสำหรับผู้ต้องขังทุกคน รวมถึงมาตรการควบคุมและรักษาโควิดก็มีเตรียมพร้อมอยู่แล้ว ซึ่งในขั้นการตรวจสอบอย่างละเอียดคงต้องรอทางกรมราชทัณฑ์เป็นผู้แถลงให้ทราบอย่างเป็นทางการเป็นระยะ
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นจากกลุ่มนักโทษชายในเรือนจำจังหวัดกระบี่ ประมาณ 300 คน นำโดยนักโทษแกนนำประมาณ 20 คน ก่อเหตุเรียกร้องให้แก้ปัญหากรณีผู้ต้องขังในเรือนจำกระบี่ติดเชื้อโควิดประมาณ 200 กว่าคนจากจำนวนนักโทษทั้งหมด 2,159 คน ออกไปรักษาที่โรงพยาบาลนอกเรือนจำ เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 16 ธันวาคม ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าควบคุมสถานการณ์ โดยการเจรจากับกลุ่มแกนนำนักโทษที่ก่อเหตุจนสถานการณ์คลี่คลายลง
ต่อมา 17 ธันวาคม เวลา 15.00 น. อายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ดังกล่าว โดยระบุว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจากความตระหนกของผู้ต้องขังจากการแพร่ระบาดของโควิดในเรือนจำกระบี่ มีความเสียหายของห้องนอนผู้ต้องขัง โรงครัว หรือเรือนกิจกรรม ลานสงเคราะห์ผู้ต้องขัง และสถานการณ์ดังกล่าวควบคุมได้ ผู้ต้องขังบาดเจ็บเล็กน้อย 14 ราย ส่วนเจ้าหน้าที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
ขณะที่ช่วงเย็นของวันเดียวกันเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นอีกครั้ง โดยอธิบดีกรมราชทัณฑ์ให้สัมภาษณ์ช่วงเวลา 19.40 น. ว่า ควบคุมเพลิงได้แล้ว โดยเรือนนอน โรงอาหาร เสียหายวอดทั้งหลัง นอกจากนี้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ยืนยันว่า ได้จับกุมแกนนำ 31 คนไว้ แล้วนำไปขังไว้ที่ สภ. และเตรียมแจ้งข้อหาพร้อมทั้งย้ายไปคุมตัวยังเรือนจำกลางเขาบิน ส่วนนักโทษที่เหลือเจ้าหน้าที่เร่งขนย้ายทั้งหมดอีกกว่า 1,700 คนไปยังเรือนจำจังหวัดข้างเคียงแล้ว เพื่อเตรียมเข้าเคลียร์พื้นที่เรือนจำทั้งหมด
