×

รู้ทันภัยการเงินยุคดิจิทัล: เมื่อเทคโนโลยีกลายเป็นทั้งโอกาสและความเสี่ยง

23.09.2025
  • LOADING...
kpmg-financial-scam-prevention-report

ในยุคที่เราทำธุรกรรมทางการเงินได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ภัยทุจริตทางการเงินก็เพิ่มความซับซ้อนขึ้นตามการพัฒนาของเทคโนโลยี ส่งผลกระทบต่อทั้งผู้ใช้บริการทั่วไปและสถาบันการเงินทั่วโลก โดยจากผลการสำรวจ Global Banking Scam Survey ปี 2568 ของเคพีเอ็มจี ซึ่งสำรวจความคิดเห็นของสถาบันการเงินทั่วโลก พบว่าหลายแห่งได้เริ่มปรับตัวและใช้มาตรการใหม่ๆ เพื่อป้องกันภัยทุจริตทางการเงินที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะภัยในรูปแบบของ Authorized Push Payment (APP Scam) หรือ การหลอกลวงเหยื่อให้โอนเงิน 

 

ผู้เขียนจึงได้สรุป 4 ประเด็นสำคัญจากผลการสำรวจนี้ ที่สะท้อนถึงแนวโน้มและแนวทางการจัดการกับภัยทุจริตทางการเงินในยุคดิจิทัล ซึ่งสถาบันทางการเงินสามารถนำไปใช้เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับตัวเองและองค์กรได้มากขึ้น

 

4 แนวทางการจัดการภัยทางการเงินอย่างมีระบบ

 

  1. ภัยทางการเงินที่ซับซ้อนขึ้น ต้องการวิธีการจัดการที่รัดกุมกว่าเดิม

ภัยการเงินในยุคดิจิทัลพัฒนาอย่างรวดเร็วตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็น E-commerce scam หรือ การหลอกให้ซื้อสินค้าคุณภาพต่ำหรือไม่มีอยู่จริง รวมไปถึงการใช้ Deepfakes เพื่อปลอมเสียงหรือใบหน้า การปลอมบัญชี social media และอีเมล เพื่อหลอกให้ซื้อสินค้าหรือโอนเงินล้วนเป็นภัยทางการเงินที่พบบ่อยในประเทศไทย การพึ่งพาเพียงความระมัดระวังของผู้ใช้บริการอาจไม่เพียงพอ ภัยเหล่านี้จึงกลายเป็นความท้าทายสำคัญของสถาบันการเงินที่ต้องเร่งพัฒนากลยุทธ์และมาตรการรับมืออย่างมีประสิทธิภาพ มีการตรวจสอบที่รัดกุมมากขึ้น เพื่อปกป้องผู้ใช้บริการ และลดความเสี่ยง และความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น

 

  1. การป้องกัน ตรวจจับ และตอบสนองอย่างมีกลยุทธ์

เมื่อภัยทางการเงินพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สถาบันการเงินทั่วโลกจึงมีมาตรการเชิงรุกที่เท่าทันและเข้มแข็งมากขึ้นเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่น จากผลการสำรวจของเคพีเอ็มจี พบว่า 91% ของสถาบันการเงินประเมินว่า การระงับหรือบล็อกธุรกรรมที่น่าสงสัย เป็นแนวทางป้องกันภัยที่ได้ผลที่สุด 

 

อีกทั้ง การแบ่งปันข้อมูลระหว่างธนาคาร หน่วยงานทางกฎหมาย หรือธนาคารกลาง เช่น ข้อมูลบัญชีม้า หรือชื่อเจ้าของบัญชี หรือรายการธุรกรรมที่น่าสงสัย ก็ถือเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการตรวจจับภัยทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแนวทางนี้สอดคล้องกับนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ได้ผลักดันระบบ Central Fraud Registry (CFR) เพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างสถาบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นระบบยิ่งขึ้น

 

นอกจากนี้ เพื่อช่วยตอบสนองต่อภัยด้าน Scam ให้แก่ลูกค้าได้อย่างทันท่วงที ผลการสำรวจของเคพีเอ็มจีพบว่า 20% ของสถาบันการเงินทั่วโลก ได้เริ่มจัดตั้งหน่วยงาน Scam Operations แยกออกมาจากหน่วยงาน Fraud Operations เพื่อมุ่งเน้นการดำเนินงานด้าน Digital Payment และ Online Banking โดยเฉพาะ เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบภัยทางด้าน Scam อย่างมีประสิทธิภาพ 

 

  1. ใช้เทคโนโลยีเป็นเกราะป้องกัน

สถาบันการเงินจะต้องปรับตัวโดยใช้เทคโนโลยีอย่างเป็นระบบแทนการรับมือแต่ละปัญหาเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ผลการสำรวจชี้ให้เห็นแนวทางที่สถาบันการเงินทั่วโลกนิยมใช้ เช่น เทคโนโลยีแบบบูรณาการ (Orchestration layer) ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยรวบรวมข้อมูลจากหลายช่องทางเข้าด้วยกัน เพื่อการตัดสินใจที่รวดเร็ว แม่นยำ และช่วยให้การตรวจสอบธุรกรรมง่ายขึ้น นอกจากนี้ หลายๆ สถาบันการเงินยังให้ความสนใจในการนำเทคนิคต่างๆ มาประยุกต์ใช้เพื่อจัดการกับภัยทางการเงินในอนาคต เช่น เทคนิคการวิเคราะห์พฤติกรรมเชิงลึก (Behavioral Analytics) เพื่อตรวจจับการปลอมแปลงอัตลักษณ์บุคคล (Deepfake detection) รูปแบบพฤติกรรมที่ผิดปกติ และสร้างเกณฑ์เตือนล่วงหน้า เป็นต้น

 

  1. สื่อสารเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในระยะยาว

แม้สถาบันการเงินจะติดตั้งมาตรการภายในขั้นสูง แต่ถ้าลูกค้าผู้ใช้บริการไม่ระมัดระวังเพียงพอ ย่อมตกเป็นเป้าหมายได้ง่าย หลายสถาบันการเงินจึงมีการให้ความรู้และแจ้งเตือนลูกค้าเกี่ยวกับภัยทางการเงินในหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นบนหน้าเว็บไซต์ของธนาคาร การส่งข้อความ (pop-up message) หรือการให้ลูกค้าตอบแบบสอบถามใน Mobile banking ก่อนทำธุรกรรม เพื่อให้ผู้ใช้มีความเข้าใจมากขึ้น และสามารถรับมือกับรูปแบบภัยที่เปลี่ยนไปได้ทัน สิ่งสำคัญคือ ต้องทำการสื่อสารอย่างต่อเนื่องในระยะยาว เพื่อให้ลูกค้ามีความรู้เท่าทันและสามารถป้องกันตนเอง ลดความเสี่ยงจากการหลอกลวงในระยะยาว

 

ข้อสรุป: ป้องกันอย่างเข้าใจ ไม่ใช่แค่ปิดรอยรั่ว

 

เมื่อพิจารณาภาพรวมของแนวทางทั้ง 4 ข้อ จะเห็นว่าสถาบันการเงินจำนวนมากเริ่มขยับจาก “การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า” ไปสู่การวางระบบที่ป้องกันได้ในระยะยาว ทั้งในด้านโครงสร้าง กระบวนการ การนำข้อมูลมาใช้ร่วมกัน รวมถึงการใช้เทคโนโลยีและการสื่อสารอย่างต่อเนื่องกับลูกค้า สถาบันการเงินที่พร้อมรับมือกับภัยเหล่านี้ได้ดี มักเป็นสถาบันการเงินที่มีกลไกภายในที่ชัดเจน มีระบบควบคุมที่ครอบคลุม มีการติดตามรูปแบบภัยที่เปลี่ยนไปอย่างสม่ำเสมอ และมีการบูรณาการข้อมูลระหว่างหน่วยงานอย่างมีประสิทธิภาพ 

 

ภาพ: Supatman/Getty Images 

 

อ้างอิง: 

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising