วานนี้ (1 กรกฎาคม) การแข่งขัน RWS: Legend of Rajadamnern ที่สนามมวยราชดำเนิน โดยคู่พิเศษของรายการเป็นการพบกันระหว่าง โจ๊กเกอร์ ไฟต์คลับ ผู้โด่งดังในนักสู้สตรีทไฟต์ หรือมวยข้างถนนจากเวที Fight Club Thailand เจ้าของสถิติไม่เคยแพ้ใคร ดวลกับ โคตะ มิอุระ นักมวยหนุ่มจากประเทศญี่ปุ่นที่โด่งดังในวงการการต่อสู้แบบผสมผสาน หรือ Mixed Martial Art (MMA)
โดยผลการต่อสู้ในรูปแบบ Kickboxing Exhibition กำหนด 3 ยก ปรากฏว่า ตลอดทั้ง 3 ยก โคตะพยายามเร่งเกม ออกหมัดใส่คู่ชกรัวๆ และด้วยความที่เป็นนักสู้สาย MMA ทำให้มีช็อตเผลอทำเทกดาวน์ใส่คู่แข่งเป็นระยะ ด้านโจ๊กเกอร์พยายามหาโอกาสออกอาวุธสวนใส่โคตะ พร้อมกับยิ้มใส่ตลอดการชก
แต่ท้ายที่สุดไม่มีการน็อกเกิดขึ้น ทำให้ไฟต์นี้จบลงแบบไร้ผลการตัดสิน หลังทั้งคู่ยืนสู้กันอย่างสนุกครบ 3 ยก
โดยหลังจบการต่อสู้โจ๊กเกอร์และโคตะได้แสดงความเคารพต่อกันบนสังเวียน ก่อนที่โจ๊กเกอร์จะแรงดี โชว์ตีลังกาบนสังเวียน ส่งผลให้แฟนมวยส่งเสียงเฮลั่นเวทีราชดำเนิน
ซึ่งหลังจบไฟต์ โคตะได้กล่าวขอโทษที่ติดนิสัยจาก MMA จากการพยายามเทกดาวน์โจ๊กเกอร์อย่างต่อเนื่อง และจะพัฒนาการชกในกติกาคิกบ็อกซิ่งเพื่อที่จะกลับมาชกที่เวทีราชดำเนินได้อีกครั้ง
“ผมไม่ชินกับกติกาคิกบ็อกซิ่ง เพราะนี้เป็นการชกครั้งที่ 2 ของผม ผมที่ชินกับ MMA ก็เลยพยายามเทกดาวน์โจ๊กเกอร์ ผมก็ขอโทษด้วยที่ผมทำแบบนั้น ผมจะพัฒนาการชกคิกบ็อกซิ่งของผมให้ดีขึ้น เพื่อที่จะกลับมาชกที่เวทีราชดำเนินอีกครั้ง
“ผมเชื่อว่าผมตัวสูงกว่า ใหญ่กว่า และทำได้ดีกว่า แต่หัวใจนักสู้ของโจ๊กเกอร์เป็นอะไรที่น่าเคารพจริงๆ ผมเห็นถึงความต้องการที่จะชนะของเขาครับ” โคตะกล่าว
ทางด้านโจ๊กเกอร์บอกว่า ตนรู้สึกโล่งอกหลังจากจบการต่อสู้ และขอบคุณเวทีราชดำเนิน, ทีมงาน, ครอบครัว, แฟนคลับ และคำสบประมาททั้งหมดที่ทำให้เขาแข็งแกร่งในวันนี้
“มันรู้สึกเหมือนยกภูเขาร้อยลูกออกจากอก ผมมายืนอยู่จุดนี้ ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องธรรมดานะครับ จากคนที่เริ่มจากศูนย์ ขอบคุณโอกาสทางเวทีราชดำเนิน รายการ RWS และที่สำคัญ ทีมของผม ครอบครัวของผม และแฟนคลับไทยแลนด์
“คือผมไม่ได้ชอบมวยนะครับ แต่ที่ผมทำมันคือหน้าที่ หน้าที่ที่ผมต้องทำเพื่อเลี้ยงชีพตัวเองไปวันๆ เพื่อที่ผมจะเลี้ยงครอบครัว ตายายของผม วันนี้พวกเขาก็มาดูด้วย
“ขอบคุณทุกคนที่มาช่วยเชียร์ สร้างประวัติศาสตร์ในวันนี้นะครับ ขอบคุณคำดูถูกที่หล่อหลอมผมในวันนี้ ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่มันหนักหน่วงในชีวิตผม ขอบคุณคุณครูสองคนที่ซ้อมหนัก ผมนอนร้องให้ทุกวันพวกเขาไม่รู้หรอก วันนี้ผมปลดปล่อยมัน ขอบคุณครับ” โจ๊กเกอร์กล่าวทิ้งท้าย