ยามเช้าของวันอังคารที่ผ่านมา จู่ๆ ผมก็ได้รับข้อความจาก เจ้าเพนท์-ศวิตา พูลเสถียร ช่างภาพสาวตัวน้อยแห่ง THE STANDARD

ข้อความนั้นไม่ได้มีอะไรมาก เป็นภาพอาร์ตเวิร์กศึกมวยระหว่าง บัวขาว บัญชาเมฆ กับนักมวยชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่เขียนชื่อเอาไว้ว่า KOTA

ประสาคนเฒ่าที่งัวเงียและเพิ่งตื่นนอนก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก เข้าใจว่าเจ้าหนูคงอยากไปถ่ายมวยไฟต์นี้ หรือได้รับมอบหมายให้ไปมวยไฟต์นี้ จึงส่งมาแจ้งข่าวให้ทราบเฉยๆ

แต่เปล่า เจ้าเพนท์ยังไม่ได้บอกว่าหนูจะไป เพนท์แค่บอกว่า “นี่แฟนหนู”

ที่ตลกกว่านั้นคือ ผมก็เพิ่งมาทราบในช่วงบ่ายวันนั้นว่า KOTA ที่ว่าคือ โคตะ มิอุระ นักสู้ MMA ชาวอาทิตย์อุทัยที่เป็นลูกชายของ คาซูโยชิ มิอุระ หรือ ‘King Kazu’ ตำนานลูกหนังผู้ไม่มีวันตายของชาวญี่ปุ่น ที่ยังคงโลดแล่นในวงการฟุตบอลแม้จะอายุล่วงมาถึง 55 ปีแล้ว

เท่านั้นเองก็กลายเป็นผมที่ตื่นเต้นกว่าน้อง

เพราะสำหรับคนที่ติดตามเกมฟุตบอลมายาวนานร่วม 30 ปี ชื่อของ ‘คาซู’ เป็นหนึ่งในชื่อที่เราคุ้นเคยมากที่สุด ในฐานะตำนานกองหน้าผู้บุกเบิกเส้นทางให้แก่เหล่าซามูไรลูกหนังรุ่นใหม่ ที่บุกป่าฝ่าดงไปถึงบราซิล เพื่อพิสูจน์ตัวเองกับชนชาติที่ว่ากันว่าเล่นฟุตบอลได้เก่งที่สุดในโลก

แต่เรื่องราวส่วนตัวในชีวิตของเขาที่เปิดเผยต่อโลกนั้นน้อยยิ่งกว่าน้อย โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเหล่า ‘ไอคอน’ ในวงการลูกหนังอีกมากมายหลายคน

ใน Wikipedia ฉบับภาษาอังกฤษ มีเรื่องราวชีวิตส่วนตัวของคาซูเอาไว้แค่บรรทัดเดียว

‘ตั้งแต่ปี 1993 เขาแต่งงานกับอดีตนักแสดงสาว ริซาโกะ ชิตาระ พวกเขาทั้งคู่มีลูกชาย 2 คนคือ เรียวตะ มิอุระ (เกิดปี 1997) และ โคตะ มิอุระ’

โดยที่โคตะนอกจากจะไม่มีลิงก์ไปต่อถึงประวัติส่วนตัวแล้ว แม้กระทั่งปีเกิดก็ยังไม่ได้มีการลงไว้ให้ทราบด้วย ทั้งๆ ที่ปัจจุบันโคตะก็เป็นนักกีฬาอาชีพคนหนึ่ง ขณะที่เรียวตะนั้นก็เป็นนักแสดงในวงการบันเทิงของญี่ปุ่น

เรียกได้ว่าถ้าไม่คล่องภาษาญี่ปุ่นก็แทบไม่มีเรื่องมีราวของลูกชายทั้งสองให้ได้ติดตามกันเลยทีเดียว

อย่างไรก็ดี เท่าที่เราพอจะรู้คือ เจ้าหนูโคตะนั้นเกิดเมื่อปี 2002 และเพิ่งจะมีอายุครบ 20 ปีเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยที่ก่อนหน้าจะก้าวมาสู่การเป็นนักสู้ MMA มืออาชีพนั้น ก็เคยเล่นฟุตบอลตามรอยของพ่อมาก่อน

 

 

 

 

 

 

View this post on Instagram

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

A post shared by 三浦孝太 (@kota_miura_official)

ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น ถ้าเป็นไปได้หลายคนก็คงอยากให้เป็นแบบนั้น ผู้สืบสายเลือดตำนานราชาลูกหนังญี่ปุ่น ที่จะขึ้นเป็นราชาลูกหนังคนต่อไปของแดนอาทิตย์อุทัย

เพียงแต่มันไม่ใช่สิ่งที่โคตะต้องการ และดูเหมือนคาซูเองก็ไม่ได้ต้องการจะบีบบังคับลูกชายแต่อย่างใด

สิ่งที่ทำให้หัวใจของโคตะเต้นรัวคือ ‘ศิลปะการต่อสู้’ ซึ่งความจริงแล้วคนที่มีส่วนปลูกฝังก็คือคาซูเองที่ชื่นชอบการชมกีฬาต่อสู้เช่นกัน

และเช่นนั้นเองที่เจ้าหนูทายาทกองหน้าเบอร์หนึ่งตลอดกาลของญี่ปุ่นได้หันเหตัวเองเข้าสู่เส้นทางนักสู้ เข้าชมรมศิลปะการต่อสู้ ก่อนจะเข้าค่ายมวย Brave ซึ่งเป็นค่ายมวยชื่อดังของญี่ปุ่น และเริ่มแจ้งเกิดบนสังเวียนช่วงปลายปีที่แล้วเมื่อร่วมรายการ RIZIN

สิ่งที่ดีที่สุดคือ การที่โคตะสามารถพิสูจน์ตัวเองบนเวทีได้ว่าเขาไม่ได้ต้องการให้ใครจดจำในฐานะ ‘ลูกชายคาซู’ แต่อยากให้ผู้คนจดจำเขาในฐานะของ ‘โคตะยอดนักสู้’

ในการขึ้นสังเวียนครั้งแรกที่ไซตามะอารีนาในศึก RIZIN33 คืนสุดท้ายก่อนสิ้นปี 2021 เขาสามารถเอาชนะ TKO ยูชิ คู่ต่อสู้ได้ต่อหน้าผู้ชมมากมาย ซึ่งสองในนั้นมีคุณพ่อและคุณแม่ที่มาร่วมให้กำลังใจลูกชายอยู่ที่ข้างเวทีด้วย

ภาพของโคตะที่เดินลงจากเวทีมาแล้วได้รับการสวมกอดจากคาซู จึงกลายเป็นภาพที่ประทับใจผู้ชมเป็นอย่างยิ่ง

แม้จะไม่ใช่ฟุตบอล แต่โคตะก็ทำให้พ่อภูมิใจ เป็นไอ้ลูกพ่อตัวจริง

ผมอดคิดถึงบรรดาลูกชายของเหล่านักฟุตบอลระดับตำนานมากมาย ที่หลายคนพยายามที่จะเดินตามรอยเท้าของพ่อ แต่พบว่ารอยเท้านั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าที่รอยเท้าเล็กๆ ของเขาจะทาบได้

ซีเนดีน ซีดาน เก่งแค่ไหนใครก็รู้ แต่ลูกชายของเขาก็ไม่อาจเดินตามได้

เดวิด เบ็คแฮม สุดยอดแค่ไหนใครก็เห็น แต่ไม่ได้หมายความว่า โรมีโอ เบ็คแฮม จะทำได้เหมือนกัน

ลูกไม้ต่อให้หล่นไม่ไกลต้นจึงไม่ได้หมายความว่ามันจะงอกงามเหมือนกันเสมอไป

ชีวิตเราเมื่อเกิดมาครั้งหนึ่งแล้ว ไม่มีอะไรดีไปกว่าการใช้ชีวิตตามแนวทางของตัวเอง เป็นอย่างที่อยากเป็น ทำอย่างที่อยากทำ

การตัดสินใจเดินตามทางตัวเองของโคตะนั้นไม่ได้แตกต่างอะไรเลยจากวันที่คาซูยกมือตอบคำถามคุณครูว่า “โตขึ้นอยากเป็นอะไร”

“ผมจะไปบราซิล” ไอ้หนูบ้าบอลตอบชัด และไม่เพียงแค่พูด เขาขอร้องพ่อให้เขาได้ไปบราซิลด้วย ซึ่งหลังรบเร้าอยู่นานคาซูก็ได้รับอนุญาตให้ไปบราซิล โดยได้เงินติดตัวไปเพียงแค่ 700 ดอลลาร์ ต้องนอนในหอพักของทีมเซาเปาโล ยูเวนตุส และต้องต่อสู้กับคนบราซิลที่ไม่ยอมรับในตัวเขาง่ายๆ

แต่หลังพยายามจนสายตัวแทบขาด คาซูก็ชนะใจชาวบราซิล และได้กลายเป็นนักฟุตบอลอาชีพบนแผ่นดินลูกหนังที่มีมนตร์ขลังที่สุด ก่อนที่จะได้กลับมาบ้านเกิดในฐานะซูเปอร์สตาร์ที่ได้รับการยกย่องสูงสุดจากชาวญี่ปุ่น

 

 

 

 

 

 

View this post on Instagram

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

A post shared by 三浦孝太 (@kota_miura_official)

วันนี้โคตะเองก็เพิ่งเริ่มเส้นทางของตัวเองเช่นกัน

ลูกไม้จึงไม่จำเป็นต้องหล่นไม่ไกลต้นเสมอไป ต่อให้หล่นเลยไปอีกนิดก็สามารถเติบใหญ่อย่างแข็งแรงและสง่างามได้ไม่แพ้กัน 🙂