ข้อมูลจากสำนักงานสถิติเกาหลีใต้เมื่อวันพุธที่ 28 ส.ค. 2562 ชี้ว่าจำนวนเด็กเกิดใหม่ของเกาหลีใต้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2019 ลดต่ำลงเป็นประวัติการณ์ สร้างความกังวลต่อการเกิดภาวะที่เรียกว่าหน้าผาประชากร (Demographic Cliff) ซึ่งหมายถึงการลดลงอย่างรวดเร็วของอัตราการบริโภค เมื่อหัวหน้าครอบครัวที่อยู่ในกลุ่มอายุ 45-49 ปีมีจำนวนน้อยลง
จำนวนเด็กเกิดใหม่ในช่วงเดือนมกราคมถึงมิถุนายนปีนี้อยู่ที่ 158,524 คน ลดลงร้อยละ 7.7 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งนับเป็นสถิติต่ำที่สุดนับตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลในปี 1981
ตลอดช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ตัวเลขดังกล่าวลดลงร้อยละ 8.0 อยู่ที่ 75,447 คนในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน หลังจากที่ช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคมลดลงร้อยละ 7.4 อยู่ที่ 83,077 คน
ในขณะที่อัตราเจริญพันธุ์รวม (Total Fertility Rates) ซึ่งคิดจากจำนวนบุตรที่ผู้หญิงคนหนึ่งคาดว่าจะให้กำเนิดตลอดช่วงชีวิต ลดลงจาก 1.01 ในไตรมาสแรกลงมาอยู่ที่ 0.91 ในช่วงไตรมาสที่ 2
ตัวเลขดังกล่าวถือว่าอยู่ต่ำกว่าภาวะเจริญพันธุ์ระดับทดแทน ซึ่งควรจะรักษาไว้ที่ 2.1 เพื่อให้ประชากรของประเทศคงอยู่ที่ 51 ล้านคนดังในปัจจุบัน
สำนักงานสถิติฯ คาดว่าจำนวนประชากรของเกาหลีใต้จะเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2028 เป็นต้นไป
เฉพาะในเดือนมิถุนายน จำนวนเด็กเกิดใหม่รายเดือนถือว่าครองสถิติต่ำที่สุด อยู่ที่ 24,051 คน และลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 39 ติดต่อกันนับตั้งแต่เมษายน 2016
ทั้งนี้ อัตราการเกิดที่ลดต่ำลงนับเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเศรษฐกิจเกาหลีใต้ เนื่องจากจะนำไปสู่ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน พร้อมกับการเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วของประชากรสูงอายุ ซึ่งจะฉุดรั้งศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- สำนักข่าวซินหัว