ผมคือคนที่เกิดมาเพื่อเป็นนายพลแห่งกองทัพเรือ
เสียงตะโกนประกาศความฝันอันยิ่งใหญ่ ของ โคบี้ เด็กหนุ่มตัวเล็ก ขี้แง ที่สวนทางกับอีกหนึ่งความฝันอยากเป็นเจ้าแห่งโจรสลัดของลูฟี่ พระเอกของเรื่อง One Piece อย่างสิ้นเชิง
ตัวละครโคบี้เริ่มต้นด้วยความโชคร้ายที่แค่อยากไปตกปลา แต่ดันไปขึ้นเรือโจรสลัดของเลดี้อัลบีด้า ชีวิตพลิกผันกลายเป็น ‘คนรับใช้’ ที่ต้องทำตามคำสั่งอย่างหวาดกลัวเป็นเวลา 2 ปีเต็ม
กระทั่งคลื่นลมแห่งท้องทะเลนำพา ‘ถังเหล้า’ ที่มีลูฟี่ซ่อนอยู่ข้างในให้มาพบกับโคบี้ และกลายเป็นคลื่นลูกใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเด็กหนุ่มที่ใช้ชีวิตด้วยความหวาดกลัว ในหัวมีแต่คำว่า ‘เป็นไปไม่ได้’ ไปตลอดกาล
ถึงแม้จะดูวู่วามไม่คิดหน้าคิดหลัง แต่การใช้ชีวิตอย่างอิสระไม่กลัวแม้กระทั่งความตาย ขอเพียงแค่ได้ทำตามความฝันของลูฟี่ ได้ทำให้โคบี้นึกถึงสิ่งสำคัญบางอย่างที่ถูกความกลัวกลบฝังให้หลงลืม คือความฝันเข้าร่วมกับรัฐบาลโลก เพื่อเป็นทหารเรือผู้ยิ่งใหญ่
หมัดยางยืดของลูฟี่ที่กระแทกเข้าเต็มหน้าอัลบีด้า ทำให้โคบี้กล้าที่จะ ‘ฝัน’ และอีกหลายหมัดในการต่อสู้กับ มอร์แกน ผู้พันที่แสนชั่วร้ายของกองทัพเรือ ทำให้โคบี้กล้า ‘ลงมือ’ ต่อสู้ เพื่อทำให้ความฝันเป็นจริง
ลูฟี่ยอมถูกชกเข้าที่หน้า เล่นละครตบตาเพื่อให้โคบี้ได้รับการยอมรับจากกองทัพเรือ แม้รู้ดีว่าในอนาคตพวกเขาอาจต้องกลับมาพบกันอีกครั้งในฐานะศัตรู แต่ลูฟี่ยินดีที่จะได้เห็นเพื่อนคนนี้เติบโตบนเส้นทางที่เลือกเอง
หลังจากนั้นทั้งคู่แยกย้ายเดินทางตามความฝันที่แตกต่าง ลูฟี่ออกเรือผจญภัยในฐานะโจรสลัด โคบี้เข้ารับการฝึกหนักเพื่อเป็นทหารเรือที่แข็งแกร่งภายใต้การดูแลของมังกี้ ดี. การ์ป วีรบุรุษแห่งกองทัพเรือ (และปู่ของลูฟี่)
เมื่อได้กลับมาพบอีกครั้งในช่วงเวลาสั้นๆ หลังจบศึกที่เอนิเอส ล็อบบี้ โคบี้ที่มาพร้อมยศ ‘จ่าสิบเอก’ ก็แสดงให้เห็นว่า อดีตเด็กขี้แงคนนี้เติบโตขึ้นมาอย่างเข้มแข็งจริงๆ
คุณลูฟี่ เรามาพบกันอีกที่โลกใหม่นะครับ คราวหน้าผมจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีกและจะจับคุณให้ได้ สักวันผมจะนั่งบนตำแหน่งพลเอกของกองทัพเรือให้ได้ครับ
แต่แล้วความฝันของโคบี้ก็ถูกทำลายให้แหลกสลาย เมื่อถูก ‘คำสั่งนาย’ กดทับ จากน้ำมือของ ‘กองทัพเรือ’ องค์กรที่เขาสังกัด ศรัทธา และอยากขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุด
ในช่วงสุดท้ายของสงครามชิงตัว เอส หมัดอัคคี ที่มารีนฟอร์ด ถึงแม้ผลลัพธ์จะค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่ากลุ่มโจรสลัดหนวดขาว (รวมทั้งกลุ่มลูฟี่และนักโทษจากอิมเพลดาวน์) เป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำและกำลังถอนกำลังกลับ หลังจากหนวดขาวเสียชีวิต และทุกคนก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเอสเอาไว้ได้
นับว่าเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของทั้งฝ่ายกองทัพเรือและโจรสลัด เพราะต่อสู้กันมาอย่างยาวนาน แต่ ‘พลเอกอาคาอินุ’ แห่งกองทัพเรือ ผู้ยึดถือ ‘ความยุติธรรม’ อันเด็ดขาด ยังสั่งให้ทหาร (ที่สะบักสะบอมแล้ว) ทำลายศัตรูให้สิ้นซาก เพราะความเชื่อที่ว่าโจรสลัดคือความ ‘ความชั่วร้าย’ ไม่อาจให้อภัย
ถึงแม้จะมีทหารเรือหลายคนที่รู้สึกว่าสถานการณ์นี้ไม่ปกติ รวมทั้งสโมกเกอร์ หนึ่งในทหารเรือที่ดูแข็งข้อมากที่สุด ก็ได้แค่ตั้งคำถามถึงเส้นบางๆ ระหว่าง ‘ความชั่วร้าย’ และ ‘ความยุติธรรม’ แต่สุดท้ายเขาก็ได้แค่คิดในใจ และกลายเป็นส่วนหนึ่งของความสูญเสียที่ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ
พอสักทีเถอะครับ หยุดสู้ต่อกันได้แล้ว!
มีเพียงเสียงตะโกนของทหารเรือตัวเล็กๆ อย่างโคบี้ที่ ‘ฮาคิสังเกต’ ถูกปลุกให้ตื่น และได้ยิน ‘เสียง’ แห่งความเจ็บปวดที่ดังออกมาทั้งจากทหารเรือและโจรสลัด ตัดสินใจเข้าไปขวางกลางความบ้าคลั่งของพลเอกอาคาอินุ
แม้มียศแค่สิบเอก แต่โคบี้เลือก ‘ขัดขืน’ คำสั่งที่ไม่ชอบธรรม ยอมเอาชีวิตเข้าแลก เพื่อปกป้อง ‘ความยุติธรรม’ ที่เขาเคยวาดฝันเอาไว้
ความยุติธรรมที่มีไว้เพื่อปกป้องความสงบสุข ปกป้องชีวิตของทั้งกลุ่มโจรสลัด และเพื่อนๆ ทหารเรือที่ต่างมีครอบครัวให้กลับไปหา ไม่ให้ต้องมาทิ้งชีวิตอย่างไร้ค่าในสงครามที่ควรจะจบลงได้แล้ว ไม่ใช่แค่การอ้างชื่อของความยุติธรรมแล้วเปลี่ยนเป็น ‘ความรุนแรง’ เพื่อจัดการอีกฝั่งให้สิ้นซาก
แน่นอนว่าคนอย่างอาคาอินุมองว่าเป็นช่วงเวลาที่ไร้ค่า และเตรียมง้าง ‘หมัดลาวา’ ปลิดชีวิตทหารเรือที่กล้าขัดคำสั่ง แต่ยังดีที่ แชงค์ส (Shanks) โจรสลัดผมแดงผู้ยิ่งใหญ่ มองว่าสิ่งที่โคบี้ทำคือเสี้ยววินาทีแห่งความกล้าหาญ ที่สามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตของโลกได้ทั้งใบ
และเป็นอีกครั้งที่ชีวิตและความฝันของโคบี้ที่ถูกกองทัพเรือทำลายให้แตกสลาย ถูกปกป้องเอาไว้โดย ‘โจรสลัด’ ที่อยู่ฝ่ายตรงข้าม และมาช่วยยุติสงครามไม่ให้เกิดความสูญเสียไปมากกว่านี้
เสียงตะโกนของทหารเรือตัวเล็กๆ อย่างโคบี้ ไม่ได้สะท้อนแค่ความน่าเศร้าของการใช้อำนาจโดยรัฐบาลในเรื่อง One Piece แต่ยังทำให้เรานึกถึงอีกหลายๆ เหตุการณ์ที่บาง ‘รัฐบาล’ อ้างนามของความ ‘ยุติธรรม’ จัดการอีกฝ่ายที่เห็นต่างอย่างรุนแรง
รัฐบาลที่ถึงแม้ไม่มีผลปีศาจ แต่มี ‘เจ้าหน้าที่’ ใช้รถฉีดน้ำ แก๊สน้ำตา กระสุนยาง กระบอง รองเท้าคอมแบตประเคนใส่ประชาชนที่ออกมาชุมนุม แล้วบอกว่าเพราะความจำเป็นเพื่อรักษา ‘ความสงบสุข’
หลังสงครามมารีนฟอร์ด โคบี้ที่กลับมาตั้งคำถามถึงความยุติธรรม ก็ยังกลับมาพัฒนาฝีมือตัวเองให้แข็งแกร่ง ยกระดับตัวเองขึ้นมาถึงยศ ‘นาวาเอก’ และฐานะสมาชิกหน่วยลับ SWORD ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อภารกิจบางอย่าง
ซึ่งเราได้แต่หวังว่าชื่อของหน่วย SWORD จะหมายถึง ‘ดาบ’ แห่งความยุติธรรมอันแท้จริงที่เขาเคยฝัน
ดาบที่มีไว้เพื่อ ‘ปกป้อง’ ไม่ใช่มีไว้เพื่อทำลาย ‘ราษฎร’ ให้พินาศ แล้วเอ่ยอ้างนามแห่งความยุติธรรม
และหวังไปไกลกว่านั้น ว่าพลังแห่งความกล้าหาญของโคบี้ที่กล้าขัดขืนคำสั่งไม่ชอบธรรม จะดังขึ้นมาอีกครั้งในหัวใจของ ‘เจ้าหน้าที่รัฐ’ ลุกขึ้นมายืนเคียงข้างและปกป้องประชาชนในโลกแห่งความเป็นจริง
ไม่ใช่มีอยู่แค่ในการ์ตูน!
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล