เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐอเมริกา ได้มีการจัดพิธีรำลึก A Celebration of Life ถึง โคบี ไบรอันต์ และจานนา ไบรอันต์ ที่สนามสเตเปิลส์ เธียร์เตอร์ ของทีมแอลเอ เลเกอร์ส โดยมีผู้คนที่รักและอาลัยตำนานนักบาสเกตบอลผู้ยิ่งใหญ่เดินทางมาเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก
พิธีนี้ถูกเลือกจัดขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เนื่องจากมีความพิเศษเป็นหมายเลขเสื้อของโคบี (24) และหมายเลขเสื้อของจานนา (2) ที่จากโลกไปอย่างกะทันหัน จากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกเมื่อเช้าวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา โดยนอกจากแฟนๆ ที่รักและไม่มีวันลืมตำนานผู้ยิ่งใหญ่แล้ว ยังมีนักกีฬา, บุคคลสำคัญ, บุคคลที่มีชื่อเสียง ที่รักและคิดถึงทั้งสองมาร่วมงานด้วยมากมาย อาทิ เจนนิเฟอร์ โลเปซ, แอนโทนี เดวิส, เจมส์ ฮาร์เดน, ฟิล แจ็คสัน, เมจิก จอห์นสัน, ลามาร์ โอดอม, เพา กาซอล, คริส เจนเนอร์, คิม คาร์ดาเชียน, คานเย เวสต์, อดัม ซิลเวอร์, ชาคิล โอนีล, ดเวย์น เวด, สตีฟ แนช, รัสเซล เวสต์บรู๊ก, พอล เพียร์ซ, สตีเฟน เคอร์รี, ดไวท์ ฮาวเวิร์ด, ไมเคิล จอร์แดน รวมถึง บียอนเซ่ นักรัองสาวที่มาร่วมถ่ายทอดบทเพลงเพื่อรำลึกถึงทั้งสองในช่วงแรกของพิธี
ช่วงเวลาที่บาดหัวใจทุกคนมากที่สุดคือ การกล่าวของ วาเนสซา ไบรอันต์ ภรรยาสาวของโคบีและแม่ของจานนา ผู้ที่เสียบุคคลอันเป็นที่รักทั้งคู่ไปพร้อมกันโดยไม่ทันได้มีเวลาเตรียมใจ ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมพิธีต่างลุกขึ้นปรบมือเพื่อให้กำลังใจแก่วาเนสซา ที่พยายามสะกดกลั้นน้ำตากล่าวบนเวทีว่า “ขอบคุณทุกคนที่มาอยู่ตรงนี้ มันมีความหมายมากสำหรับพวกเรา รักพวกคุณทุกคนเช่นกัน”
“ก่อนอื่นฉันอยากขอขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงานในวันนี้ ความรักอันมากล้นและกำลังใจที่ครอบครัวของเราได้รับจากทั่วโลกนั้นช่วยพวกเราได้มาก ฉันขอบคุณสำหรับการภาวนาของพวกคุณทุกคน ฉันอยากจะพูดถึงเกี่ยวกับโคบีและจีจี แต่ฉันขอเริ่มจาก My Baby Girl ลูกสาวที่รักของฉันก่อน”
จากนั้นวาเนสซาได้กล่าวถึงจานนาว่า แม้จะเป็นลูกสาวคนโปรดของพ่อ แต่เธอรู้ว่าจีจีเองก็รักแม่มากเช่นกัน “เธอเป็นคนใส่ใจที่จำได้เสมอว่าเธอต้องจูบฉันทุกวัน”
วาเนสซายังเล่าต่อว่า จานนามีความฝันที่จะเล่นบาสเกตบอลอาชีพในลีกหญิง และมีความฝันที่จะทำให้เกิดความเท่าเทียมกันในเรื่องรายได้ของนักกีฬาอาชีพระหว่างผู้หญิงและผู้ชาย แม้ว่าเธอจะมีอายุเพียงแค่ 13 ปีก็ตาม “เธอจะสามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากให้กับวงการบาสเกตบอลหญิง จีจีรู้สึกอย่างแรงกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงผู้หญิงกับการเล่นกีฬาในสายตาของผู้คน”
สำหรับโคบี วาเนสซาเล่าถึงความรักระหว่างทั้งสอง โดยบอกว่าเป็นความรักที่ ‘โรแมนติก’ ทีเดียว โดยทุกปีเธอจะเฝ้ารอวันวาเลนไทน์และวันครบรอบของการพบรักกัน ซึ่งโคบีจะมีของขวัญพิเศษที่มอบให้เธอเป็นประจำทุกปี
“ฉันเฝ้ารอวันวาเลนไทน์และวันครบรอบทุกปี เขามีการวางแผนที่จะให้ของขวัญชิ้นพิเศษทุกปี และเขาเป็นคนคิดนอกกรอบ เป็นคนที่ใส่ใจแม้ว่าจะทุ่มเทให้กับการเป็นนักกีฬาที่ยอดเยี่ยมแค่ไหนก็ตาม”
หนึ่งในของขวัญที่โคบีมอบให้แก่วาเนสซาคือชุดเดรสจากภาพยนตร์เรื่อง The Notebook “นั่นเพราะฉากในหนังตอนที่อัลลีกลับมาหาโนอาห์ เราหวังว่าเราจะได้เติบโตและแก่เฒ่าไปด้วยกันเหมือนในภาพยนตร์ เรามีเรื่องราวความรักที่แสนมหัศจรรย์ เรามอบความรักให้แก่กันด้วยทุกสิ่ง และคนสองคนที่ไม่สมบูรณ์แบบได้ช่วยกันสร้างครอบครัวที่งดงามขึ้นมา”
“เขามีหัวใจที่อ่อนโยน” วาเนสซากล่าวถึงสามีผู้ไม่มีวันกลับมา
จากนั้นมีการขึ้นมากล่าวสดุดีของบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับทั้งสอง อาทิ ร็อบ เพลินพา ผู้จัดการทั่วไปของแอลเอ เลเกอร์ส ที่เป็นคนสนิท เล่าว่า ข้อความสุดท้ายที่เขาได้รับจากโคบีคือการขอให้ช่วยเรื่องทุนการศึกษาของลูกสาวของเพื่อนคนหนึ่งที่อยากจะได้ทุนสำหรับการเล่นเบสบอล ขณะที่ อลิเซีย คีย์ส ศิลปินสาวเจ้าของรางวัล Grammy Awards ขึ้นมาเล่นเปียโนเพลง Moonlight Sonata ของบีโธเฟน ซึ่งเป็นเพลงโปรดของโคบีและวาเนสซา
อีกหนึ่งคนสำคัญที่ร่วมขึ้นกล่าวเพื่อรำลึกถึงโคบีคือ ไมเคิล จอร์แดน ตำนานผู้เป็นทั้งแรงบันดาลใจ รุ่นพี่ และคู่แข่ง “บางทีหลายคนอาจจะประหลาดใจที่รู้ว่าโคบีและผมเป็นเพื่อนสนิทกัน เขาเป็นเพื่อนสนิท เป็นเหมือนน้องชายคนเล็กของผม เมื่อผมได้รู้จักเขามากขึ้น ผมก็อยากจะเป็นพี่ชายที่ดีที่สุดให้เขาเท่าที่ผมจะเป็นได้”
“เมื่อโคบีจากไป ก็เหมือนส่วนหนึ่งในชีวิตของผมได้ตายไปด้วย” อดีตตำนานชิคาโก บูลส์ กล่าวทั้งน้ำตา
ชาคิล โอนีล อีกหนึ่งตำนานที่เคยร่วมกับ โคบี ไบรอันต์ ในการนำแอลเอ เลเกอร์ส ผงาดคว้าแชมป์ NBA ได้ถึง 3 สมัยซ้อน เล่าถึงความสัมพันธ์กับอดีตคู่หูที่หลายคนคิดว่าเข้ากันไม่ได้ แต่ในความจริงแล้วทั้งคู่รู้ใจกันเป็นอย่างดี ต่อหน้าคนอื่นจะทำเหมือนไม่ถูกกัน แต่หลังกล้องแล้วจะขยิบตาให้เป็นอันรู้กัน
“โคบีและผมเราต่างรักและเคารพต่อกันและกันอย่างสูงสุด วันที่โคบีได้รับการยอมรับจากผม คือวันที่มีคนพูดว่าโคบีไม่ยอมส่งบอล ผมเลยบอกทุกคนว่าผมจะไปคุยกับเขา ผมไปคุยกับเขาว่า ในคำว่า Team ไม่มีตัว I เขาบอกว่าเขารู้ แต่ว่ามันก็มีคำว่า Me อยู่ในนั้นด้วย ผมเลยกลับไปบอกกับทุกคนว่า เอาลูกรีบาวด์ให้ได้ก็พอ เขาไม่ส่งให้หรอก”
คริสตินา อากีเลรา ศิลปินสาวขึ้นมาขับขานบทเพลง Ave Maria เป็นการปิดท้ายก่อนที่พิธีจะสิ้นสุดลง โดยมีการเปิดเพลงอมตะของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ แนท คิง โคล Unforgettable ท่ามกลางเสียงกู่ร้องของแฟนๆ ทั่วสนามสเตเปิลส์ “โคบี…โคบี” ให้รู้ว่าถึงไม่มีวันที่ตำนานผู้ยิ่งใหญ่จะกลับมา แต่เรื่องราวของเขาจะยังคงอยู่ในความทรงจำของทุกคนตลอดไป
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: