เจอร์เกน คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูลออกมายอมรับว่าเขามีความลำบากใจที่ต้องยอมรับการตัดสินที่เกิดขึ้น หลังจาก เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กองหลังคนสำคัญได้รับบาดเจ็บจนต้องผ่าตัด จากการเข้าปะทะกับ จอร์แดน พิกฟอร์ด นายทวารเอฟเวอร์ตัน ในเกมดาร์บี้แมตช์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
โดยกองหลังลิเวอร์พูลเตรียมเข้ารับการผ่าตัดหัวเข่า จากอาการบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าเข่าขาด (Anterior Cruciate Ligament: ACL) หลังจากที่เขาถูกพิกฟอร์ดเข้าสกัดบอลในช่วงต้นเกม ซึ่งหลังจากนั้น VAR ได้ตัดสินว่า ฟาน ไดจ์คอยู่ในจังหวะล้ำหน้า นอกจากนี้ยังมองว่าการเข้าปะทะของพิกฟอร์ดไม่สมควรได้ใบแดง
รวมถึงเมื่อจบการแข่งขัน สมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ FA ได้ทำการรีวิวเหตุการณ์ และตัดสินใจไม่ลงโทษพิกฟอร์ดย้อนหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวอีกด้วย
หลังจบเกมที่ทั้งคู่เสมอกันไป 2-2 ที่กูดิสันพาร์ก ทางคล็อปป์ได้ร่วมกับ จินี ไวจ์นัลดุม ออกมาให้สัมภาษณ์แสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเกม โดยมองว่าการเข้าปะทะของนักเตะเอฟเวอร์ตันทั้งกับ ฟาน ไดจ์ค และเหตุการณ์ที่ ริชาร์ลิสัน เข้าสกัด ติอาโก อัลกันตารา จนโดนใบแดง ว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุ
“เมื่อหลายวันก่อนมีบางเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้นในเกมฟุตบอลได้เกิดขึ้น มันไม่ใช่ครั้งแรก และมันจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย แต่การเข้าปะทะทั้งสองครั้งนั้นเป็นสิ่งที่เรายอมรับได้ยาก” คล็อปป์ให้สัมภาษณ์ก่อนเกมลิเวอร์พูลในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกกับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม
“เราไม่สามารถทำอะไรเพื่อเปลี่ยนแปลงมันได้แล้ว ผมพูดหนึ่งวันหลังจากนั้น และมันเป็นสิ่งที่ยากลำบากสำหรับเรา สำหรับเวอร์จิล นักเตะของเรา มันยากลำบากที่จะทำใจเพราะผู้ตัดสินมองไม่เห็น
“ไมเคิล โอลิเวอร์ เป็นผู้ตัดสินที่ยอดเยี่ยม แต่เขามีโอกาสได้เห็นจากมุมที่ดีที่สุด หลังจากนั้น VAR ก็ลืมกฎการแข่งขัน
“ในฐานะมนุษย์ ผมไม่อยากเห็นนักเตะเอฟเวอร์ตันถูกลงโทษ แต่เราต่างก็ยอมรับได้ว่าถ้าคุณทำอะไรผิด คุณต้องรับผลกระทบที่ตามมา
“ตอนนี้มีคนถึงสองคนที่กำลังได้รับผลกระทบนั้น และคนเหล่านั้นคือ เวอร์จิล และ ติอาโก”
ด้านของไวจ์นัลดุม เผยถึงเหตุการณ์ดังกล่าวในฐานะเพื่อนร่วมทีมว่า
“แน่นอน เราไม่พอใจท่าทางที่พิกฟอร์ดพุ่งเข้าสกัด ในมุมมองของผมเป็นสิ่งที่โง่มาก
“ผมเชื่อว่าเขาไม่ได้ต้องการทำให้เวอร์จิลได้รับบาดเจ็บ แต่ท่าทางที่เขาเข้าปะทะ เขาไม่ได้สนใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น
“ผมคิดว่าเรามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นระหว่างเกมกับเอฟเวอร์ตัน ในมุมมองของผม พวกเขาทำเกินไปในเกมที่เราลงเล่นกับพวกเขา
“เรารู้ว่าในเกมดาร์บี้ ทุกคนอยากที่จะชนะ แต่พวกเขาทำมากเกินไปหน่อย
“การเข้าปะทะของริชาร์ลิสันกับติอาโกก็รุนแรง หนทางที่พวกเขาใช้ในการสกัดบอลเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ และมันทำให้เรารู้สึกรับไม่ได้ยิ่งขึ้น เมื่อพวกเขาไม่ได้รับบทลงโทษใดๆ”
สำหรับการสูญเสียนักเตะหลักของสโมสรเคยส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการลุ้มแชมป์ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในฤดูกาลที่แล้ว เมื่อ อายเมอริค ลาปอร์ต กองหลังตัวหลักได้รับบาดเจ็บ
โดยสื่อต่างประเทศมองว่าลิเวอร์พูลอาจต้องหาหนทางปรับแท็กติกมารับมือกับการสูญเสีย เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ผู้เล่นคนสำคัญที่ลงสนามเล่นครบทุกนาทีในฤดูกาลที่พวกเขาปลดล็อกแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลแรกในรอบ 30 ปี เมื่อปี 2019-20 ที่ผ่านมา
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: