“สิ่งเดียวที่มีร่วมกันคืออดีต ไม่ใช่อนาคต เธอคือความหลัง ไม่ใช่วันพรุ่งนี้ จากนี้ฉันคงต้องรักตัวเองแล้ว”
หลังจากวง Klear ปล่อยเพลง ‘ถ้าฉันเป็นแม่เธอ’ แสดงความสตรองด้วยการจิกกัด ต่อต้าน Cyber Bullying จากบรรดานักเลงคีย์บอร์ด ออกมาเป็นเพลงแรก ‘รักให้ตาย’ คือผลงานลำดับถัดมาที่ช่วยทำให้เราเห็นคอนเซปต์ของอัลบั้ม Grow In The Dark ได้ชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีก
เป็นการเติบโตขึ้นในความมืดแบบที่ไม่ต้องไปปะทะกับใคร แต่เป็นการพาคนฟังย้อนกลับไปค้นหาเรื่องราวที่ทำให้เจ็บปวด เริ่มเยียวยาบาดแผลด้วยการกลับมาฟังเสียงหัวใจ และรักตัวเองให้มากขึ้นกว่าที่เคย
เหมือนที่ แพท-รัณนภันต์ ยั่งยืนพูนชัย นักร้องนำที่แต่งเพลงนี้ด้วยตัวเอง พูดถึงเพลงนี้ว่า “เพลงวง Klear ไม่ใช่เพลงของคนที่แข็งแรงขนาดนั้น มันคือคนที่เจ็บเป็น มีความรู้สึก เพียงแต่ว่าฉันพยายามที่จะผ่านมันไปให้ได้”
แน่นอนว่าความเข้มแข็งเป็นเรื่องที่ทุกคนอยากได้ แต่น้อยคนเหลือเกินที่จะได้สิ่งนี้มาครอบครอง โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในความสัมพันธ์ ‘ความรัก’ ที่ทำให้หลายคนยอมอ่อนแอเพียงเพื่อที่จะประคองความสัมพันธ์อ่อนยวบไม่ให้พังทลายลงมา
ภาพชัดเจนที่สุดถูกฉายย้ำซ้ำๆ ในมิวสิกวิดีโอที่กำกับโดย กุ๊ก-ธนีดา หาญทวีวัฒนา (ทีมเขียนบท Hormones วัยว้าวุ่น และผู้กำกับซีรีส์ Shoot! I Love You) ผ่านรอยฟกช้ำ แผลเป็น จนไปถึงหยดเลือดบนร่างกายของฝ่ายหญิง (กุ๊กไก่-ภาวดี คุ้มโชคไพศาล) ที่เกิดขึ้นอยู่หลายครั้งเมื่อทะเลาะกับฝ่ายชาย (ไมเคิล-ศิรชัช เจียรถาวร)
พร้อมกับภาพการจากลาและการกลับมาขอโอกาสอีกครั้ง และอีกครั้ง และอีกครั้งของฝ่ายชาย ที่ถึงแม้รอยฟกช้ำจะยังไม่ทันหาย แต่เธอก็ยอมที่จะมอบโอกาสให้เขากลับเข้ามาในชีวิต รับความสุขเพียงชั่วครู่ที่ได้อยู่ด้วยกัน ใส่เสื้อแขนยาวเพื่อปกปิดรอยแผล และนับถอยหลังรอวันระเบิดเวลาที่เหตุการณ์รุนแรงจะเกิดขึ้นอีกซ้ำๆ
มองในมุมหนึ่ง เธอคือผู้หญิงเข้มแข็งมากๆ ที่ยอมอดทนต่อความเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจเพื่อรักษา ‘ความสัมพันธ์’ เอาไว้ให้นานที่สุด
แต่มองอีกมุมหนึ่ง เธอก็เป็นผู้หญิงที่แสนอ่อนแอ เพราะไม่อาจฝืนความรู้สึกเพื่อ ‘ตัดจบ’ ความสัมพันธ์ที่อาจเป็นการ ‘ปกป้อง’ หัวใจในระยะยาวได้มากกว่า
“อัลบั้ม Grow In The Dark คือการที่เราพยายามจะมีชีวิตรอดท่ามกลางความมืด เหมือนกับผู้หญิงที่อ่อนแอ แต่เขากำลังเริ่มมีเมล็ดของความแข็งแรงเกิดขึ้นข้างในใจ”
วง Klear วางคอนเซปต์อัลบั้มนี้เอาไว้แบบนั้น และเราเห็น ‘เมล็ดของความแข็งแรง’ นั้นซ่อนอยู่ในมิวสิกวิดีโอเพลงนี้
“สิ่งเดียวที่มีร่วมกันคืออดีต ไม่ใช่อนาคต เธอคือความหลัง ไม่ใช่วันพรุ่งนี้ จากนี้ฉันคงต้องรักตัวเองแล้ว”
วันที่เธอตัดสินใจถอดแหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย คือความเข้มแข็งที่จะตัดความสัมพันธ์ที่เป็นเหมือนเนื้อร้ายให้เด็ดขาด
การที่เธอกล้าหยิบชุดเดรสที่เปิดให้เห็นรอยฟกช้ำในร่างกาย คือความเข้มแข็งที่จะ ‘ปกป้อง’ ร่างกายและหัวใจทั้งของเธอและอีกหนึ่งชีวิต ไม่ให้ใครมาทำร้ายจนเธอต้องเก็บซ่อนรอยแผลเหล่านั้นเอาไว้อีก
น้ำตาที่ยังคงรินไหลก่อนตัดสินใจเดินจากมา คือความเข้มแข็งที่ต้องจดจำเอาไว้ว่าครั้งหนึ่งความรักเคยสวยงาม ครั้งหนึ่งความรักเคยเจ็บปวด
จำจดว่ารักเขาเท่าไร ยิ่งต้องรักตัวเองมากเท่านั้น
และจำจดว่าถึงแม้จะ ‘รักให้ตาย’ แต่อย่าให้ถึงขั้น ‘รักใครจนตาย’ เป็นอันขาด
รับชมมิวสิกวิดีโอเพลง รักให้ตาย ของวง Klear ได้ที่
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
