นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น เตรียมเดินทางเยือนกรุงเคียฟของยูเครนในวันนี้ (21 มีนาคม) ภายหลังเสร็จสิ้นการเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ (20 มีนาคม) และถือเป็นการเยือนยูเครนของผู้นำญี่ปุ่นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่รัสเซียทำสงครามบุกยูเครน อีกทั้งยังเป็นการเยือนประเทศที่มีสงครามหรือการสู้รบครั้งแรกของผู้นำญี่ปุ่น นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2
การเยือนยูเครนของคิชิดะในครั้งนี้ ถือเป็นการเยือนที่สร้างความประหลาดใจ เนื่องจากตอนแรกมีรายงานว่า คิชิดะจะเดินทางกลับญี่ปุ่นหลังเสร็จสิ้นการเยือนอินเดีย แต่เจ้าหน้าที่รัฐบาลและสมาชิกพรรคลิเบอรัลเดโมแครติก (Liberal Democratic Party) ของเขา เปิดเผยภายหลังว่าคิชิดะเดินทางไปยูเครน
โดยผู้สื่อข่าวของ NHK รายงานว่า เห็นคิชิดะขึ้นรถไฟที่เมืองพซีมิซล์ (Przemysl) ในโปแลนด์ ใกล้ชายแดนยูเครน ช่วงเวลาประมาณ 01.30 น. ของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น และคาดว่าจะเดินทางถึงยูเครนในช่วงสายของวันนี้ โดยมีกำหนดการหลักคือการพบปะกับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน
เบื้องต้นคาดว่าในการพูดคุย คิชิดะจะกล่าวต่อเซเลนสกี โดยแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และการสนับสนุนที่ไม่เปลี่ยนแปลงของญี่ปุ่นที่มีต่อยูเครน รวมถึงยกย่องในความกล้าหาญและความไม่ย่อท้อของประชาชนยูเครน พร้อมทั้งให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่แก่ยูเครน โดยมุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟูและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
นอกจากนี้ คาดว่าคิชิดะจะบอกกับเซเลนสกีว่า ญี่ปุ่นในฐานะเจ้าภาพการประชุมกลุ่ม G7 ในปีนี้ จะแสวงหาความเป็นเอกภาพระหว่างประเทศด้วยการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวดต่อรัสเซีย
สำหรับคิชิดะ ถือเป็นผู้นำ G7 เพียงคนเดียวที่ยังไม่ได้ไปเยือนเคียฟ ซึ่งก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ก็สร้างความประหลาดใจในการเดินทางเยือนยูเครนและพบกับเซเลนสกี เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ขณะที่การเดินทางเยือนเคียฟของคิชิดะ เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน เดินทางเยือนกรุงมอสโก เพื่อพูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ซึ่งมีวาระสำคัญคือการหารือในประเด็นสงครามยูเครน และแผนสันติภาพ 12 ประการที่จีนเสนอเพื่อยุติสงคราม
อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นรายงานว่า คาดว่าคิชิดะจะเดินทางกลับโปแลนด์เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำในวันพุธ (22 มีนาคม) ก่อนจะเดินทางกลับถึงโตเกียวในวันพฤหัสบดี (23 มีนาคม)
ภาพ: Ludovic Marin, Yoshikazu Tsuno / AFP / POOL
อ้างอิง: