×

KinnPorsche The Series เรื่องราวการช่วงชิงอำนาจระหว่างตระกูลมาเฟีย เดิมพันใหม่ของอุตสาหกรรมซีรีส์วายไทย

04.04.2022
  • LOADING...
KinnPorsche The Series เรื่องราวการช่วงชิงอำนาจระหว่างตระกูลมาเฟีย เดิมพันใหม่ของอุตสาหกรรมซีรีส์วายไทย

*บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของซีรีส์*

 

หลังจากปล่อยตัวอย่างเต็มของซีรีส์ออกมาให้รับชมกันไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา เวลาที่แฟนๆ ซีรีส์เฝ้ารอก็มาถึง เมื่อเอพิโสดแรกของ KinnPorsche The Series ออกอากาศไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (2 เมษายน) ออริจินัลซีรีส์วายเรื่องแรกของ iQiyi ก็ได้มอบประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับผู้ชมได้ตั้งแต่เริ่มต้น

 

   

 

เอพิโสดแรกของซีรีส์เรื่องนี้เปิดตัวมาด้วยมาตรฐานที่สูงจนน่าจับตามอง ทั้งเส้นเรื่องที่แข็งแรงและการดำเนินเรื่องอย่างมีชั้นเชิง สามารถดึงดูดคนดูได้อย่างอยู่หมัดตั้งแต่ต้น รวมทั้งโปรดักชันที่ยกระดับไปอีกขั้น ซึ่งถ่ายทอดออกมาให้เห็นผ่านงานภาพที่ทำให้เราประทับใจตั้งแต่วินาทีแรก 

   

ความพิเศษของซีรีส์วายเรื่องนี้คือพล็อตเรื่องที่โดดเด่นจากซีรีส์วายเรื่องอื่นๆ โดย KinnPorsche The Series เป็นซีรีส์ที่ถูกดัดแปลงจากนิยายเรื่อง KinnPorsche Story ของ Daemi ที่นำผู้ชมไปพบกับเรื่องราวของพอร์ช (อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์) หนุ่มนักศึกษาซึ่งทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์อยู่ในบาร์แห่งหนึ่ง แต่ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปโดยไม่ทันตั้งตัว เมื่อพอร์ชบังเอิญเข้าไปพัวพันกับคินน์ (มาย-ภาคภูมิ ร่มไทรทอง) ลูกชายคนรองของตระกูลธีรปัญญากูร หนึ่งในตระกูลมาเฟียที่ทรงอิทธิพลของประเทศ

 

 

ต้นเอพิโสดแรกเปิดมาด้วยการร้อยเรียงเรื่องราวชีวิตของ 2 ตัวละครหลักที่แตกต่างกันสุดขั้ว ผ่านการตัดสลับภาพของคินน์ซึ่งกำลังพูดคุยกับคู่ค้าทางธุรกิจ ก่อนจะหยิบปืนออกมายิงชายคนหนึ่งด้วยสีหน้าเรียบเฉย ในขณะที่พอร์ชกำลังทำหน้าที่บาร์เทนเดอร์คอยเอาอกเอาใจสาวๆ ด้วยท่าทางพราวเสน่ห์ เป็นเวลาสั้นๆ ที่นำผู้ชมไปทำความรู้จักตัวละครได้อย่างรวดเร็วและดึงดูดเราไว้กับเรื่องราวที่ดำเนินไปได้อยู่หมัด

 

ก่อนที่เรื่องราวในซีรีส์จะค่อยๆ นำคินน์ซึ่งถูกคู่ค้าทางธุรกิจส่งคนมาตามไล่ล่า ให้ไปพบกับพอร์ชในบาร์ที่เขาทำงานอยู่ คินน์เอ่ยปากขอให้อีกคนช่วยเหลือ ในขณะที่พอร์ชตกลงทันทีหลังยื่นข้อแลกเปลี่ยนเป็นเงิน 50,000 บาท 

 

ฉากต่อสู้ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นมีความยาวเพียงไม่กี่นาที แต่ก็สามารถนำเสนอออกมาได้น่าตื่นตาตื่นใจ ทั้งการแสดงที่ดูสมจริง มุมกล้อง องค์ประกอบภาพ หรือแม้กระทั่งดนตรีประกอบที่เลือกสรรมาอย่างดี ก็ทำให้ได้ออกมาเป็นฉากต่อสู้ที่ดุเดือดสมกับการแปะป้ายว่าเป็นซีรีส์แอ็กชัน 

 

หลังจากการพบกันในครั้งนั้น คินน์ก็พยายามตามหาตัวพอร์ชเพื่อยื่นข้อเสนอให้อีกฝ่ายมาเป็นบอร์ดี้การ์ดให้กับเขา แต่พอร์ชที่เป็นคนรักอิสระ ไม่ชอบอยู่ในกฎระเบียบ แถมยังไม่ชอบเดินตามก้มหัว รับฟังคำสั่งใคร ก็ปฏิเสธข้อเสนออย่างไม่ลังเล

 

 

แม้ทั้งคู่จะพบกันเพียงไม่กี่ครั้งในเอพิโสดแรก แต่ผู้ชมก็สามารถสัมผัสได้ถึงเคมีที่น่าสนใจของทั้งสองคน ผ่านเสน่ห์ทางการแสดงที่ถ่ายทอดความรู้สึกของตัวละครออกมาได้อย่างมีมิติ ดังนั้นแม้การพบเจอกันในครั้งแรกๆ จะเต็มไปด้วยความไม่น่าประทับใจ แต่ก็ชวนให้ติดตามต่อไปว่าจากร้ายจะลงเอยกลายเป็นความรักได้อย่างไรในตอนจบ

 

นอกจากความน่าสนใจต่างๆ ที่อธิบายไว้ด้านบนแล้ว อีกหนึ่งองค์ประกอบที่เป็นเสน่ห์สำคัญของซีรีส์เรื่องนี้คือกลิ่นอายความเป็นคอเมดี้ที่เสริมเข้ามาท่ามกลางเรื่องราวดราม่าแอ็กชันซึ่งเป็นโทนหลักของเรื่องได้อย่างลงตัว ผ่านตัวละครของพอร์ชชึ่งเป็นคนกวนๆ และดูจะไม่เอาจริงเอาจังกับชีวิตเท่าไรนัก

 

แต่แล้วเรื่องราวในเอพิโสดแรกก็ค่อยๆ นำเราไปทำความรู้จักกับเขามากยิ่งขึ้น ด้วยการเปิดเผยชีวิตของพอร์ช ในมุมที่นอกเหนือจากการเป็นหนุ่มบาร์เทนเดอร์เจ้าเสน่ห์ รักสนุก และดูเหมือนจะเป็นคนที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อเงิน 

 

 

ด้านหนึ่งเขาเป็นคนรักครอบครัวและเป็นพี่ชายที่อ่อนโยน โดยซีรีส์ค่อยๆ เผยให้เห็นมุมนี้ของพอร์ช ผ่านองค์ประกอบเล็กๆ อย่างรูปครอบครัวที่วางไว้ในหลายๆ มุมของบ้าน รวมทั้งบทสนทนาระหว่างเขาและน้องชายที่ทำให้เราได้รับรู้ว่าภายนอกที่ดูไม่จริงจังเท่าไรนัก พอร์ชกลับมีเป้าหมายที่แน่วแน่ คือการทำให้น้องชายซึ่งเป็นครอบครัวเพียงคนเดียว ได้มีชีวิตที่ดีและเติบโตไปอย่างมีความสุข

 

ตอนจบของเอพิโสดแรกทิ้งท้ายไว้ด้วยการที่พอร์ชตัดสินใจรับข้อเสนอของคินน์ เพราะหนี้สินของครอบครัวที่เขาต้องแบกรับไว้เพียงคนเดียว แต่ถึงอย่างนั้นพอร์ชก็ไม่อยากให้น้องชายต้องเป็นห่วง เขาจึงเลือกที่จะหายตัวไปโดยไม่ได้บอกกล่าว และทิ้งไว้เพียงจดหมายที่มีใจความบิดเบือนไปจากความเป็นจริง 

 

“เช่ กูมีข่าวดีจะบอก เจ๊หยกเขามีเพื่อนใจบุญช่วยล้างหนี้ให้เราแถมเขายังใจบุญส่งมึงเรียนจนจบ แค่ต้องแลกกับกูไปดูแลร้านเหล้าให้เขาบนเกาะส่วนตัว โคตรโชคดีเลย อยู่ๆ ก็ได้ทำงานในฝัน”

 

 

เสียงอ่านข้อความในจดหมายตัดสลับไปกับภาพของพอร์ชที่กำลังเดินเข้าไปยังสถานที่ที่ไม่คุ้ยเคยด้วยสีหน้ากังวลใจ ทำให้เรารู้ว่าพอร์ชคงไม่เต็มใจรับข้อเสนอของคินน์เท่าไรนัก แต่เพราะชีวิตที่ไม่ได้มีตัวเลือกมากมาย ก็ทำให้เขาตัดสินใจเดินในเส้นทางที่ไม่เคยคิดฝันมาก่อน โดยไม่รู้เลยว่าการตัดสินใจในครั้งนี้จะนำเขาไปพบเจอกับอะไรบ้างในอนาคต

 

KinnPorsche The Series ออกอากาศทางช่อง one31 ทุกวันเสาร์ เวลา 23.00 น. และสามารถรับชมย้อนหลังได้ทาง iQiyi เวลาเที่ยงคืน

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X