ภาพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่ปรากฏต่อสายตาประชาชนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นอกจากความงดงามของพระราชกรณียกิจที่ทรงงานเพื่อแผ่นดิน อีกสิ่งหนึ่งที่งดงามไม่แพ้กัน ทั้งยังแสดงให้เห็นเสน่ห์ที่น่าจดจำก็คือฉลองพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในทุกช่วงชีวิตของพระองค์ ที่ทำให้เห็นว่าแม้แต่ ‘แฟชั่น’ พระองค์ยังใส่ใจ และเราสามารถนำสิ่งที่พระองค์ทรงทำมาปรับใช้ได้ในชีวิตจริง
ฉลองพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่เราศึกษาในครั้งนี้แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ชุดออกงาน ชุดทรงงาน และชุดลำลอง
ฉลองพระองค์อย่างเป็นทางการ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชโปรดฉลองพระองค์สูทสไตล์คลาสสิก (conservative) แบบกระดุมหนึ่งแถว (single-breasted) กับพระสนับเพลา (กางเกง) แบบมีจีบที่สวมใส่ง่าย โดยจะเน้นโทนสีคลาสสิก เช่น สีดำ สีเทา และเฉดสีเอิร์ธโทนเป็นหลัก จับคู่กับฉลองพระบาทหนังและเน็กไทสลิมสีเข้มเป็นประจำ หากออกงานกลางคืน เช่น งานกาลาดินเนอร์ ก็จะเปลี่ยนเป็นฉลองพระองค์ทักซิโด้พร้อมหูกระต่าย หรือฉลองพระองค์สูท Dinner Jacket ที่นักดนตรีเพลงแจ๊ซนิยมใส่กัน ซึ่งพระองค์ทรงมีศิลปินในดวงใจเป็นนักดนตรีแจ๊ซแนวดิกซีแลนด์ของเมืองนิวออร์ลีนส์ที่นิยมในยุค 40s-50s
โดยปกติ หากเสด็จฯ ทอดพระเนตรงานภายในประเทศ หรือต้อนรับคณะบุคคลที่มาเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจะโปรดฉลองพระองค์ที่มีสีสันตามวัน ซึ่งเป็นรายละเอียดที่แสดงให้เห็นถึงคติแบบไทย โดยร้านสูทที่พระองค์โปรดมีอยู่ 2 ร้าน ร้านแรกคือ ยูไลย เทเลอร์ ย่านศาลาแดง ของสมภพ หลุยลาภประเสริฐ ที่รับตัดสูทมาตั้งแต่รุ่นพ่อของเขา (นุ้ย แซ่หลุ่ย) ราว พ.ศ. 2501 และอีกร้านคือ วินสัน เทเลอร์ แถวเสนานิคม ร้านของสุนทร ชนะศรีโยธิน โดยเริ่มตัดตั้งแต่ พ.ศ. 2513 ซึ่งจะมีการปักคำว่า H.M. The King บริเวณซับใน โดยใช้ดิ้นสีทองเป็นดีเทลพิเศษ
สำหรับฉลองพระองค์สูทมักใช้เวลาตัด 2-3 อาทิตย์ โดยก่อนหน้าที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจะทรงใช้ช่างตัดไทย พระองค์จะทรงให้ห้องเสื้อ Hawes and Curtis จากประเทศอังกฤษ เป็นผู้ตัดฉลองพระองค์ให้เป็นประจำ ก่อนที่มิสเตอร์วัตสัน ช่างจากแบรนด์นี้จะนำฉลองพระองค์สูทตัวหนึ่งไปแก้ที่ร้านยูไลย เทเลอร์ และประทับใจจนแนะนำให้พระองค์ใช้ร้านนี้ เพราะไม่ต้องเสียเวลาให้ช่างจากอังกฤษเดินทางมาวัดตัวและแก้ทรง
ฉลองพระองค์สูทบางตัวของพระองค์ใช้ทรงนับสิบปี และนิยมการเอาไปแก้หากชำรุดมากกว่าตัดใหม่ ซึ่งสิ่งนี้สะท้อนให้เห็นแนวคิดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ได้เป็นอย่างดี
ฉลองพระองค์ในการทรงงาน
ฉลองพระองค์ในการเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรตามต่างจังหวัด พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจะเลือกสวมฉลองพระองค์ที่ต่างกันออกไปตามโอกาส ทั้งฉลองพระองค์ข้าราชการที่ทรงในช่วงวัยหนุ่ม หรือการเลือกทรงฉลองพระองค์แจ็กเก็ตแนวสปอร์ตเพื่อเพิ่มความทะมัดทะแมง ส่วนฉลองพระบาทที่พระองค์โปรดคือ Onitsuka Tiger รุ่น Mexico 66 แบรนด์รองเท้าญี่ปุ่นสุดคลาสสิกภายใต้กลุ่ม ASICS ที่ก่อตั้งในปี 1949 และฉลองพระบาทรุ่นคลาสสิกของแบรนด์ Converse อย่าง Jack Purcell ที่มักจะเห็นพระองค์ทรงสวมใส่ขณะทรงกีฬาแบดมินตันและแข่งเรือใบ
การเล่นกีฬาก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชโปรดเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการแข่งเรือใบที่พระองค์มักทรงฉลองพระองค์เชิ้ตฮาวายพร้อมลวดลายสนุกๆ อยู่หลายครั้ง ซึ่งจุดกำเนิดของเสื้อทรงนี้เกิดขึ้นจากการที่ชาวญี่ปุ่นอพยพไปอยู่เกาะฮาวาย และนำเอาผ้ากิโมโนมาตัดเป็นเสื้อเชิ้ตแบบแคชวล และทุกวันนี้ได้กลับมานิยมกันอีกครั้ง โดยพระองค์โปรดฉลองพระองค์เชิ้ตทรงนี้กับฉลองพระเนตรกันแดดทรงสี่เหลี่ยมที่มักสวมใส่เป็นประจำ
ฉลองพระองค์ลำลอง
ส่วนชุดประเภทสุดท้ายที่เราอยากพูดถึงคือฉลองพระองค์ลำลองในวันพักผ่อนของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งหลายคนจะจดจำได้จากชุดภาพถ่ายในนิตยสาร Life ปี 1960 ที่ถ่ายโดยช่างภาพแนวสารคดี จอห์น โดมินิส (ซึ่งนักแสดงอย่างสตีฟ แม็กควีน และแฟรงก์ ซินาตรา โปรดปราน) ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ในภาพชุดนี้เราจะได้เห็นพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงฉลองพระองค์โปโล พระสนับเพลาเอวสูง และฉลองพระบาทเทนนิสขณะทรงเล่นกับพระราชโอรสและพระราชธิดา ซึ่งลุคนี้ทำให้เห็นว่าพระองค์โปรดเครื่องแต่งกายที่เหมาะกับภูมิอากาศ มีความคลาสสิก และมีกลิ่นอายของลุคที่ฌอง เรอเน ลาคอสต์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Lacoste ได้สร้างสรรค์และคิดค้นเสื้อโปโลเป็นคนแรก
จากภาพรวมของฉลองพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เราจะเห็นได้ว่าการเติบโตที่ยุโรปเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้พระองค์ทรงเข้าใจว่าควรจะทรงฉลองพระองค์แบบไหน และเนื่องในโอกาสอะไร แต่สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดคือแต่ละชุดไม่ได้มาพร้อมความหวือหวา ทั้งยังเข้าถึงง่าย ทำให้ประชาชนที่ได้พบเห็นสามารถนำไปใช้เป็นแรงบันดาลใจในการแต่งตัวได้ไม่ยาก