อีอินยอง รัฐมนตรีกระทรวงรวมชาติเกาหลีใต้ กล่าวต่อคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรเกาหลีใต้เมื่อวานนี้ (25 สิงหาคม) ถึงกรณีข่าวที่อ้างว่า คิมยอจอง น้องสาวของ คิมจองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ กลายเป็นผู้นำหมายเลขสอง และตัวเต็งผู้สืบทอดอำนาจต่อจากพี่ชาย โดยชี้ว่าเป็นเพียงการ ‘พูดเกินจริง’ ซึ่งเขาเชื่อว่ายังไม่มีหลักฐานมากพอที่จะสรุปแน่ชัดถึงบทบาทของ คิมยอจอง ในระบบการเมืองเกาหลีเหนือ
แต่ท่าทีดังกล่าวสวนทางกับความเห็นจาก นายพลชองกยองดู รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ ที่แถลงต่อคณะกรรมาธิการอีกชุดเมื่อวานนี้ (25 สิงหาคม) เช่นกัน โดยเขาเชื่อว่าคิมยอจองกำลังรับหน้าที่ดูแลฝ่ายองค์กรและแนะแนวของพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่กำกับดูแลเรื่องการปลูกฝังอุดมการณ์และการแต่งตั้งทางการเมือง รวมถึงองค์กรการเมืองต่างๆ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในตำแหน่งทางการเมืองที่สำคัญที่สุดของเกาหลีเหนือ ซึ่งหากคิมยอจองรับหน้าที่นี้จริง ก็เป็นสัญญาณว่าเธอมีอำนาจและสถานะทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่ความเห็นของนายพลชองกยองดูนั้นเพิ่มความน่าเชื่อถือแก่รายงานของสำนักข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ ที่รายงานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า คิมจองอึน ตัดสินใจแบ่งอำนาจของเขาให้แก่เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนสนิท รวมถึงน้องสาว คิมยอจอง เพื่อแบ่งเบาภาระและลดความเครียดจากการทำงานหนัก
ทั้งนี้ความเห็นที่ต่างกันของสองรัฐมนตรีเกาหลีใต้ในเรื่องนี้ดูจะไม่ใช่สิ่งที่น่าประหลาดใจนัก เนื่องจากที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่รัฐบาลทั้งเกาหลีใต้และสหรัฐฯ จำเป็นต้องให้ข้อสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์ในเกาหลีเหนือด้วยการอ้างอิงข้อมูลอันน้อยนิดที่ได้มา
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลเปียงยางและโครงสร้างผู้นำทางการเมืองส่วนใหญ่เป็นความลับ ทำให้ประชาชนทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงและทราบถึงการตัดสินใจใดๆ ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลได้ อีกทั้งสื่อมวลชนในเกาหลีเหนือไม่มีเสรีภาพที่จะติดตามและรายงานข่าวเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ของผู้นำทั้งในรัฐบาลและพรรคแรงงาน ซึ่งการโฆษณาชวนเชื่อและเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ ในประเทศจะถูกควบคุมอย่างเข้มงวดไปพร้อมกับการปิดกั้นข้อมูลจากต่างประเทศ
อย่างไรก็ดี แม้ว่าสองรัฐมนตรีเกาหลีใต้จะมีความเห็นที่ต่างกันในเรื่องบทบาทของคิมยอจอง แต่สิ่งหนึ่งที่ทั้งสอง รวมถึงสำนักข่าวกรองเกาหลีใต้เห็นพ้องกันคือ คิมจองอึนยังคงครองอำนาจบริหารสูงสุดอย่างเหนียวแน่น และล่าสุดยังมีการเผยแพร่ภาพขณะที่เขาเป็นประธานในการประชุมฉุกเฉิน เพื่อหารือเรื่องการรับมือการระบาดของโรคโควิด-19 และเตรียมพร้อมรับมือผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นบาวี ที่คาดว่าจะพัดขึ้นฝั่งเกาหลีเหนือวันนี้หรือพรุ่งนี้
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: