วันศุกร์ที่ผ่านมา (11 มิถุนายน) The New York Times ได้รายงานข่าวที่อ้างอิงข้อมูลจากสื่อ Daily NK ซึ่งเป็นเอกสารภายในที่รั่วไหลออกมาจากเกาหลีเหนือว่า ผู้นำคิมจองอึนได้ประกาศสงครามทางวัฒนธรรมครั้งใหม่ผ่านแคมเปญต่อต้านอุตสาหกรรม K-Pop ของเกาหลีใต้แบบลับๆ
โดย คิมจองอึน เชื่อว่าอุตสาหกรรม K-Pop คือ ‘มะเร็งร้าย’ ที่ทำลายชีวิตคนหนุ่มสาวชาวเกาหลีเหนือ และมันส่งผลให้เขาสูญเสียการปกครอง ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องดำเนินการยับยั้งการแพร่กระจาย รวมถึงอิทธิพลของอุตสาหกรรม K-Pop ในทุกๆ ด้าน ทั้งภาพยนตร์, ซีรีส์, ดนตรี, วิดีโอ, แฟชั่น, การพูดจา, การแสดงออก ฯลฯ เพื่อไม่ให้สิ่งเหล่านี้เข้าถึงพลเมืองของตัวเอง
เมื่อธันวาคมปีก่อน คิมจองอึน ประกาศออกกฎหมายใหม่ ใครก็ตามที่รับชมหรือครอบครองความบันเทิงจากเกาหลีใต้จะถูกลงโทษใช้แรงงานในค่ายกักกันเป็นเวลา 5-15 ปี แม้แต่การพูด, เขียน และร้องเพลงก็จะถูกสั่งใช้แรงงานเป็นเวลา 2 ปี ส่วนผู้จัดจำหน่ายโดนโทษหนักสุดคือประหารชีวิต
ด้าน จิโร่ อิชิมารุ บรรณาธิการแห่ง Asia Press International ก็ได้ให้ความเห็นว่าการบุกรุกทางวัฒนธรรมของ คิมจองอึน ครั้งนี้เป็นการกระทำที่เกินรับไหว และหากมันยังไม่ถูกตรวจสอบ พลเมืองเกาหลีเหนืออาจเริ่มพิจารณาเรื่องย้ายถิ่นฐานไปเกาหลีใต้
ส่วน จองกวังอิล ผู้สร้างเครือข่ายนำเข้าวัฒนธรรม K-Pop สู่เกาหลีเหนือก็กล่าวว่า คนหนุ่มสาวชาวเกาหลีเหนือไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นหนี้อะไร คิมจองอึน ถ้า คิมจองอึน ต้องการรักษารากฐานการปกครองประเทศในอนาคตของวงศ์ตระกูลไว้ เขาก็ต้องยืนยันอุดมการณ์การควบคุมกับคนหนุ่มสาวเหล่านั้นอีกครั้ง
ภาพ: Pyeongyang Press Corps / Pool / Getty Images
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ
อ้างอิง:
