ต้นปี 2023 ฤดูกาลที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กำลังไล่ล่าสถิติที่เพื่อนบ้านเคยสร้างไว้ที่เรียกว่า Treble หรือการคว้าทั้งแชมป์พรีเมียร์ลีก ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และเอฟเอคัพได้ในฤดูกาลเดียว
ซึ่งแน่นอนว่าความสำเร็จในส่วนอื่นเช่นแชมป์ลีกคัพก็เป็นสิ่งที่จะทำให้พวกเขายิ่งใหญ่ขึ้นไปอีกหากสามารถทำได้ เพราะจะทำให้พวกเขาได้ 4 แชมป์ในฤดูกาลเดียว
แต่แมนเชสเตอร์ ซิตี้กลับถูกเซาแธมป์ตันเขี่ยตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายไปด้วยสกอร์ 0-2 และ เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือที่คาดหวังไม่ใช่แค่ ‘ความสำเร็จ’ แต่ต้องเป็น ‘ความสำเร็จที่สมบูรณ์แบบ’ ก็เข้ามาในห้องแต่งตัวพร้อมข้อเรียกร้องสูงสุด
“ผมขอคำอธิบายสำหรับวันนี้ บอกมา คิดว่านี่เรียกปกติเหรอ วิธีการเล่นวันนี้เนี่ยนะ ปัญหาที่เริ่มขึ้นในเกมและทุกคนก็ก้มหน้ายอมรับ ไม่มีใครกล้าที่จะทำอะไรสักอย่าง จริงๆ เหรอ
“นี่เป็นเรื่องปกติจริงๆ เหรอ สิ่งที่เราทำกันวันนี้สำหรับสโมสรนี้ สำหรับแฟนบอลคนที่เดินทางมาทั้งที่ไม่มีเงินจะจ่ายค่าฮีตเตอร์ที่บ้านเพื่อมาตามเชียร์เรา แล้วเราเล่นกันแบบนี้เหรอ
“ทีมของผมไม่ใช่แบบนี้แน่ เพราะเราจะมีปัญหากัน ผมรับไม่ได้ กีฬาและชีวิตคือภาษากาย วิธีการใช้ชีวิต วิธีการเล่นเกมนี้ นี่คือภาษากายของคุณ และเมื่อคุณส่งพลาดและอีกคนหันมาบ่นว่าเราเริ่มต้นได้ไม่ดี ใช่ เราเริ่มต้นได้ไม่ดี มันเกิดขึ้นได้ แต่วิธีการรับมือของคุณ 90 นาทีหลังจากนั้นล่ะ? คุณมีเวลาอีกตั้ง 80 นาทีให้เล่น โห พวกเขายิงประตูแล้ว พวกเขายิงประตูที่สองแล้ว
“แต่คุณยังอยากเล่นไหม? อยากครองบอลไหม? อยากขยับไหม? อยากสู้ไหม? สู้ไปร่วมกันในฐานะพี่น้อง กลับมาสู่ความจริงกันได้แล้วทุกคน กลับมาติดดินใหม่ ทำงานหนักขึ้น ทำงานให้ดีขึ้น ถ่อมตัว มีความมุ่งมั่น ไม่อย่างนั้น…นักเตะอะคาเดมีพร้อมเสมอ
“อีกสองวันครึ่งเราจะไปโอลด์แทรฟฟอร์ด พวกเขารอมา 10 ปีเพื่อจะฆ่าพวกเรา คุณพร้อมหรือยัง? เตรียมตัวมาดีไหม? เพราะพวกเขามีบางอย่าง บางอย่างที่วันนี้พวกคุณแสดงให้ผมเห็นแล้วว่าพวกคุณไม่มี
“พวกเขามีความกระหาย หิวโหย เราไม่มี วันนี้คุณทุกคนแสดงให้ผมเห็นว่า ทั้งนักเตะจูเนียร์และซีเนียร์ ทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่า คุณไม่ต้องการมัน คุณไม่หิวโหย และคุณต้องฟื้นกลับมา เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในคาราบาวคัพวันนี้ จะเกิดขึ้นในแชมเปียนส์ลีกและพรีเมียร์ลีก”
ช่วงเวลาที่เหลือของฤดูกาล แน่นอนว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ยังมีข้อผิดพลาดอีกหลายเกม ทำให้สถานการณ์ลุ้นแชมป์ของพวกเขาถูกตั้งคำถามอย่างต่อเนื่อง
แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือนักเตะทุกคนเข้าใจสิ่งสำคัญที่สุดของพวกเขา นั่นคือการต้องมีความกระหายที่จะได้แชมป์มากพอ นั่นทำให้พวกเขากลับมาโฟกัสและอยู่ในเส้นทางไปสู่เป้าหมายได้
“ผมคิดว่า 98% ของฟุตบอลคือการรับมือกับความล้มเหลว และยังสามารถยิ้มและหาทางสนุกไปกับเกมต่อไปได้” คือหนึ่งในคำพูดของ เจอร์เกน คล็อปป์ คู่ปรับคนสำคัญที่ต้องเห็น เป๊ป กวาร์ดิโอลา ล้มแล้วลุกระหว่างทางครั้งแล้วครั้งเล่า
เป๊ป กวาร์ดิโอลา สามารถที่จะประกาศวางมือหลังจบฤดูกาลนี้ แล้วก็จะไม่มีใครตั้งคำถามถึงความยิ่งใหญ่ของเขาจากความสำเร็จที่ผ่านมา
แต่เขามีสิ่งหนึ่งเหมือนกับผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่นคือความกระหายที่จะชนะแบบไม่มีวันสิ้นสุด A Demand for excellence ในทุกๆ วัน
และจบฤดูกาลนั้นเขาก็สามารถทำในสิ่งเดียวกันได้ นั่นคือพาทีมจากแมนเชสเตอร์คว้า Treble ได้สำเร็จเป็นทีมที่ 2 ในประวัติศาสตร์จากอังกฤษ
มีคำกล่าวหนึ่งที่มักจะถูกใช้สำหรับนักมวยระดับตำนาน นั่นคือ ‘Fighters are born hungry but only the great ones stay that way (นักสู้เกิดมาพร้อมกับความกระหาย แต่นักสู้ที่ยิ่งใหญ่เท่านั้นที่จะยังมีความกระหายอย่างต่อเนื่อง)’
และนั่นเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เป๊ปเป็นหนึ่งในกุนซือที่ยิ่งใหญ่สุดที่เคยมีมา