×

หลายประเทศยกเลิกสวมหน้ากากในพื้นที่โล่งแล้ว เรายังต้องสวมหน้ากากอยู่หรือไม่

29.04.2022
  • LOADING...
สวมหน้ากาก

หลายคนคุ้นชินกับการสวมหน้ากากก่อนออกจากบ้านไปแล้ว ถ้าไม่ใส่จะรู้สึกขาดอะไรไปสักอย่าง แต่บางคนก็รู้สึกอึดอัด อยากถอดหน้ากากออก โดยเฉพาะช่วงนี้ที่อากาศร้อนอบอ้าว หลังยอดผู้ติดเชื้อระลอกโอมิครอนลดลง หลายประเทศในฝั่งเอเชียเริ่มผ่อนคลายมาตรการ หนึ่งในนั้นคือการยกเลิกบังคับสวมหน้ากากภายนอกอาคาร ไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์ กัมพูชา มาเลเซีย และล่าสุดคือเกาหลีใต้ 

 

เรายังต้องสวมหน้ากากอยู่หรือไม่ และใครที่ยังจำเป็นต้องสวมหน้ากาก

 

เราสวมหน้ากากอนามัยเพื่ออะไร

เราเริ่มสวมหน้ากากทุกวันมานานจนจำไม่ได้แล้วว่าตั้งแต่เมื่อไร ความจริงกระทรวงสาธารณสุขเริ่มแนะนำประชาชนให้สวมหน้ากากมาตั้งแต่ช่วงแรกที่มีการระบาดเมื่อต้นปี 2020 ผู้ที่มีอาการคล้ายไข้หวัดสวมหน้ากากอนามัย ส่วนคนทั่วไปสวมหน้ากากผ้า แต่ประชาชนน่าจะเริ่มสวมหน้ากากกันทุกคนช่วงก่อนล็อกดาวน์เดือนเมษายน 2020 ด้วยเหตุผล 2 ข้อคือ

 

  • ป้องกันการติดเชื้อ โควิดแพร่ระบาดผ่านทางละอองสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจ หน้ากากช่วยป้องกันไม่ให้เราสูดหายใจเอาละอองสารคัดหลั่งเหล่านี้เข้าไป
  • ป้องกันการแพร่เชื้อ ผู้ติดเชื้อสามารถแพร่เชื้อก่อนเริ่มมีอาการ 1-2 วัน ดังนั้นถึงแม้ไม่มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ก็ควรสวมหน้ากากเพื่อป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น

 

จากการวิจัยในห้องทดลอง หากเราสวมหน้ากากอนามัยฝ่ายเดียวจะป้องกันการสูดละอองสารคัดหลั่งขนาดเล็กได้เพียง 7.5% แต่ถ้าสวมหน้ากากทั้งคู่จะสามารถป้องกันได้ถึง 84.3% นั่นคือป้องกันทั้ง ‘ขาออก’ และ ‘ขาเข้า’ ส่วนการศึกษาในสถานการณ์จริงพบว่ามีประสิทธิผลป้องกันการติดเชื้อได้ 70-80% ดังนั้นการสวมหน้ากากจึงช่วยป้องกันได้ทั้งตัวเราและผู้อื่น

 

มาตรการผ่อนคลายในต่างประเทศ

ประเทศฝั่งตะวันตกเริ่มถอดหน้ากากมาสักระยะหนึ่งแล้ว เมื่อปลายมกราคม 2022 สหราชอาณาจักรยกเลิกบังคับสวมหน้ากากตามกฎหมาย แต่ยังแนะนำให้สวมหน้ากากในสถานที่แออัดและอากาศถ่ายเทไม่สะดวก เมื่อปลายกุมภาพันธ์ 2022 สหรัฐอเมริกาแนะนำประชาชนในพื้นที่เสี่ยงต่ำ (ประเมินจากอัตราการป่วยและอัตราการรักษาตัวในโรงพยาบาล) ไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากาก

 

ฝั่งเอเชียเริ่มสวมหน้ากากก่อนใคร แต่นั่นก็อาจทำให้ตัดสินใจถอดหน้ากากทีหลัง เมื่อปลายมีนาคม 2022 สิงคโปร์ประกาศยกเลิกการสวมหน้ากากภายนอกอาคาร แต่ยังคงบังคับให้สวมหน้ากากภายในอาคาร โดยนายกรัฐมนตรีลีเซียนลุง ของสิงคโปร์กล่าวว่า “กลับไปใช้ชีวิตตามปกติมากขึ้น พบปะครอบครัวและเพื่อนวงใหญ่ขึ้น ออกไปข้างนอกแบบไม่มีหน้ากาก แต่อย่าเพิ่งยกเลิกมาตรการทั้งหมด”

 

เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2022 กัมพูชาประกาศยกเลิกการสวมหน้ากากทั้งประเทศ ยกเว้นภายในอาคาร โดยนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชาอธิบายว่า พบการระบาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วงเทศกาลปีใหม่กัมพูชา (ตรงกับช่วงสงกรานต์ของไทย) ทั้งที่มีคนจำนวนน้อยมากที่สวมหน้ากาก และการตัดสินใจครั้งนี้ “ไม่ใช่เพียงเพื่อเหตุผลด้านสุขภาพ แต่ยังคำนึงถึงปัจจัยด้านสังคมและเศรษฐกิจด้วย”

 

ต่อมาวันที่ 27 เมษายน 2022 กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียประกาศยกเลิกการสวมหน้ากากภายนอกอาคาร เริ่มเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ แต่ยังคงบังคับภายในอาคารและระบบขนส่งสาธารณะ พร้อมกับผ่อนคลายมาตรการอื่น เช่น ประชาชนสามารถเข้าพื้นที่สาธารณะโดยไม่คำนึงถึงการได้รับวัคซีน ยกเว้นผู้ที่ตรวจพบเชื้อ หรือนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนไม่ครบและอยู่ระหว่างการกักตัว 

 

ล่าสุดเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2022 ประกาศยกเลิกการสวมหน้ากากภายนอกอาคาร เริ่มต้นเดือนพฤษภาคมเช่นกัน หลังจากผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมมาตั้งแต่กลางเดือนเมษายน นายกรัฐมนตรีคิมบูคยอม ของเกาหลีใต้กล่าวว่า รัฐบาล “ไม่อาจมองข้ามความไม่สะดวกของประชาชนได้อีกต่อไป” แต่ประชาชนยังต้องสวมหน้ากากในงานที่มีผู้ร่วมกิจกรรมมากกว่า 50 คนขึ้นไป

 

ทำไมถึงยกเลิกสวมหน้ากากในพื้นที่โล่ง

แสดงว่าทุกประเทศข้างต้นเห็นตรงกันว่าพื้นที่โล่งหรือภายนอกอาคาร (Outdoor) มีความเสี่ยงต่ำต่อการแพร่ระบาด ส่วนพื้นที่ภายในอาคาร (Indoor) ยังมีความเสี่ยงสูงอยู่ 

 

ในทางระบาดวิทยาจะประเมินความเสี่ยงของสถานที่จากปัจจัยด้านบุคคล สถานที่ และเวลา กล่าวคือ ถ้าสามารถเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล 1-2 เมตร (ระยะแพร่กระจายผ่านละอองสารคัดหลั่งขนาดใหญ่) สถานที่เปิดมีอากาศถ่ายเทสะดวก (ละอองสารคัดหลั่งขนาดเล็กถูกพัดออกไปอย่างรวดเร็ว) และใช้ระยะเวลาสั้นในพื้นที่นั้น (สัมผัสละอองสารคัดหลั่งไม่นาน) ก็จะถือว่ามีความเสี่ยงต่ำ

 

ประกอบกับประชาชนส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม และเข็มกระตุ้นแล้ว หากติดเชื้อก็จะไม่มีอาการรุนแรง การสวมหน้ากากเมื่ออยู่ภายนอกอาคาร เช่น ทางเท้า หรือสวนสาธารณะ ก็อาจไม่จำเป็น

 

เรายังต้องสวมหน้ากากอยู่หรือไม่

สำหรับประเทศไทย แต่ละจังหวัดจะมีประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเกี่ยวกับการสวมหน้ากากแตกต่างกันในรายละเอียด ยกตัวอย่าง กทม. มีประกาศเรื่อง “ให้ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งตลอดเวลาที่ออกนอกเคหสถานหรือสถานที่พำนัก” เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2021 และน่าจะยังไม่มีประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น

 

ส่วนกระทรวงสาธารณสุขและ ศบค. ยังไม่มีท่าทีต่อเรื่องนี้ ยกเว้นในแผนและมาตรการการบริหารจัดการสถานการณ์โรคโควิดสู่โรคประจำถิ่น (Endemic Approach to COVID-19) ที่แถลงเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2022 ประเด็นมาตรการทางสังคมระบุว่า ในระยะ Post-Pandemic (1 กรกฎาคมเป็นต้นไป) จะให้ ‘กลุ่มเสี่ยงหรือผู้ติดเชื้อ’ สวมหน้ากากอนามัย 100% จากเดิม ‘ทุกคน’ ต้องสวมหน้ากากอนามัย

 

และในกรณีที่ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เสนอนโยบายถอดหน้ากากใน 90 วัน อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ต้องดูว่า ณ วันนั้นยังมี ศบค. อยู่หรือไม่ ผู้ว่าฯ กทม. ก็เป็นกรรมการท่านหนึ่งใน ศบค. ซึ่งสามารถเสนอมาตรการต่างๆ เข้าสู่การพิจารณาได้ กระทรวงสาธารณสุขอาจเห็นด้วยหรือมีข้อโต้แย้ง ซึ่งก็เป็นไปตามหลักวิชาการ

 

ใครที่ยังจำเป็นต้องสวมหน้ากาก

แนวโน้มรัฐบาลทั่วโลกน่าจะยกเลิกการ ‘บังคับ’ สวมหน้ากากในพื้นที่สาธารณะนอกอาคาร แล้วให้ประชาชน ‘ตัดสินใจด้วยตนเอง’ แทนว่าจะสวมหน้ากากหรือไม่ โดยน่าจะขึ้นกับการประเมินความเสี่ยงของแต่ละคนว่ามีโอกาสติดเชื้อมากแค่ไหน เช่น พื้นที่แออัดและอากาศถ่ายเทไม่สะดวกมีโอกาสติดเชื้อมากกว่าพื้นที่เปิดโล่ง และถ้าติดเชื้อแล้วจะมีความเสี่ยงต่ออาการรุนแรงมากเพียงใด 

 

ซึ่งพิจารณาจากปัจจัยเสี่ยงต่ออาการรุนแรง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค และหญิงตั้งครรภ์ (กลุ่ม 608) และปัจจัยป้องกัน เช่น การได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นตามกำหนด ทั้งนี้จะขึ้นกับไวรัสด้วยว่าจะกลายพันธุ์จนวัคซีนหรือยามีประสิทธิผลลดลงหรือไม่ รวมถึงมาตรการกักตัว หากผู้ติดเชื้อหรือผู้สัมผัสยังต้องหยุดเรียนหรือหยุดงาน ก็อาจส่งผลต่อการตัดสินใจสวมหรือไม่สวมหน้ากากต่อ

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising