×

‘ประกันความมั่นคง แต่ไม่หยุดยิง’ ผลประชุม ทรัมป์-เซเลนสกี-ยุโรป กับโอกาสเดินหน้ายุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน

19.08.2025
  • LOADING...

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ จัดการประชุมกับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน พร้อมด้วยคณะผู้นำยุโรป ที่ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. วานนี้ (18 สิงหาคม) โดยเป็นความพยายามล่าสุด หลังการเจรจาระหว่างทรัมป์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ที่รัฐอะแลสกา เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมีเป้าหมายหลัก คือการเดินหน้าสู่กระบวนการสันติภาพและยุติสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน

 

การพูดคุยระหว่างทรัมป์และเซเลนสกีที่ทำเนียบขาวครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ครั้งแรกจบลงด้วยความเห็นแย้งและท่าทีที่แตกต่างกัน

 

ขณะที่การตัดสินใจของผู้นำยุโรปในการร่วมวงประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน ซึ่งสะท้อนถึงท่าทีของชาติยุโรปที่ต้องการร่วมมือกับทรัมป์เพื่อยุติสงคราม แต่ขณะเดียวกันก็สะท้อนถึงความกังวลที่ไม่ต้องการให้ยุโรปถูกกีดกันให้อยู่วงนอกของการเจรจา

 

ระหว่างการประชุมในห้องทำงานรูปไข่ ทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐฯ ยินดีสนับสนุนความพยายามของยุโรปในการควบคุมข้อตกลงสันติภาพใดๆ ในยูเครน ขณะที่เซเลนสกีซึ่งแต่งกายอย่างเป็นทางการมากขึ้น ได้แสดงความขอบคุณในการสนับสนุนของทรัมป์

 

อย่างไรก็ตาม ท่าทีที่เต็มไปด้วยความหวังของทรัมป์​ กับความเห็นต่างในบางประเด็นของพันธมิตรยุโรป ทำให้หลังจบการพูดคุยก็ยังไม่มีคำมั่นสัญญาที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับการรับประกันความมั่นคงหรือขั้นตอนต่างๆ ที่จะนำไปสู่ข้อตกลงสันติภาพ

 

และนี่คือประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นจากการประชุม

 

ยึดมั่นหลักประกันความมั่นคง

 

บทบาทของสหรัฐฯ ในหลักประกันความมั่นคงสำหรับยูเครนเป็นหัวใจสำคัญของการเจรจาที่เกิดขึ้น โดยผู้นำยุโรปและเซเลนสกีต่างกระตือรือร้นที่จะทราบว่าทรัมป์จะทุ่มเททรัพยากรใดบ้าง เพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อบรรลุข้อตกลงสันติภาพได้แล้ว รัสเซียจะไม่สามารถรุกรานและยึดครองดินแดนอื่นๆ ของยูเครนเพิ่มเติมในอนาคต

 

ทรัมป์ไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะส่งทหารสหรัฐฯ เข้าไปในยูเครนเพื่อรักษาสันติภาพ ซึ่งเป็นพัฒนาการสำคัญที่จะช่วยให้เซเลนสกีสามารถตกลงในประเด็นอื่นๆ ของข้อตกลงที่เสนอได้ง่ายขึ้น

 

ขณะที่ทรัมป์เผยว่าเขาจะหารือกับผู้นำชาติยุโรปอื่นๆ ว่า ‘ใครจะทำอะไร’

 

ทรัมป์เน้นย้ำว่าปูตินตอบตกลงว่ารัสเซียจะยอมรับการรับประกันความมั่นคงสำหรับยูเครน โดยถือเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาร่วมกัน

 

“ผมมองโลกในแง่ดีว่าเราสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกัน ที่จะยับยั้งการรุกรานยูเครนในอนาคตได้ ซึ่งผมคิดว่าคงไม่เกิดขึ้น”

 

เขายังโพสต์ข้อความทาง Truth Social หลังการเจรจากับเซเลนสกีว่า “การรับประกันจะมาจากประเทศต่างๆ ในยุโรป โดยมีการประสานงานกับสหรัฐฯ”

 

แต่ถึงแม้ว่าทรัมป์จะยืนยันให้ชาติยุโรปเป็นผู้นำในการรับประกันความมั่นคงใดๆ แก่ยูเครน แต่การที่ทรัมป์เปิดกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะการอนุญาตให้ทหารอเมริกันเข้าไปมีส่วนร่วมในภารกิจนี้ ก็จะมีส่วนอย่างมากในการช่วยเหลือและรับประกันความมั่นคงอย่างยั่งยืนแก่ยูเครน และถือเป็นพัฒนาการใหม่ที่เกิดขึ้น

 

ทั้งนี้ ทรัมป์ได้รับเลือกตั้งส่วนหนึ่งจากคำมั่นสัญญาที่จะไม่ให้ทหารอเมริกันเข้าไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในต่างประเทศ และในการเจรจากับเซเลนสกี แน่นอนว่าเขาไม่ได้ให้คำมั่นสัญญาใดๆ แต่การที่เขาไม่ได้ตัดตัวเลือกนี้ออกไป อาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงแนวทางในขณะที่เขากำลังหาหนทางยุติสงคราม

 

มุ่งเป้าประชุมไตรภาคี

 

หนึ่งในเป้าหมายสูงสุดของทรัมป์คือการให้เซเลนสกีและปูตินมาอยู่ในห้องเดียวกัน พร้อมกับตัวเขาเอง เพื่อเจรจายุติสงคราม โดยหลังการประชุมกับเซเลนสกีและผู้นำยุโรป ทรัมป์กล่าวว่าเขายังคงทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดมากนักว่าจะเกิดขึ้นได้เร็วเพียงใด

 

“เราอาจจะมีหรือไม่มีการประชุมไตรภาคีก็ได้ ถ้าเราไม่มีการประชุมไตรภาคี การสู้รบก็จะดำเนินต่อไป และถ้าเรามี เราก็มีโอกาสที่ดี ผมคิดว่าถ้าเรามีการประชุมไตรภาคี ก็มีโอกาสที่ดีที่จะยุติมันได้” ทรัมป์กล่าว และแสดงความมั่นใจว่าการประชุม 3 ฝ่ายนี้จะเกิดขึ้น

 

ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ทรัมป์ เปิดเผยว่า เขาได้โทรศัพท์สายตรงคุยกับปูติน และได้เริ่มต้นเตรียมจัดการประชุมระหว่างปูตินและเซเลนสกี ตามด้วยการประชุมสามฝ่าย โดยกำหนดสถานที่ใหม่ แต่ไม่เปิดเผยว่าจะจัดขึ้นเมื่อใด

 

“เมื่อการประชุมสิ้นสุดลง ผมได้โทรศัพท์หาประธานาธิบดีปูติน และเริ่มจัดเตรียมการประชุมระหว่างประธานาธิบดีปูตินและเซเลนสกี ณ สถานที่ที่จะกำหนดขึ้นใหม่ และหลังจากการประชุมเสร็จสิ้น เราจะมีการประชุมไตรภาคี ซึ่งจะมีประธานาธิบดีทั้งสองท่านและตัวผมเองด้วย”

 

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันว่าปูตินตอบรับที่จะร่วมการประชุมกับเซเลนสกี หรือการประชุมไตรภาคีแล้วหรือไม่ โดยที่ผ่านมาปูตินปฏิเสธมาตลอด ที่จะร่วมประชุมกับเซเลนสกีด้วยตัวเอง

 

ด้านประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส แสดงท่าทีก่อนหน้านี้ ว่าผู้นำยุโรปควรได้เข้าร่วมในการประชุมหลายฝ่ายร่วมกับรัสเซียและยูเครนด้วย

 

“ผมคิดว่าเพื่อติดตามผลต่อไป เราน่าจะจำเป็นต้องมีการประชุมแบบสี่ฝ่าย เพราะเมื่อเราพูดถึงการรับประกันความมั่นคง เราหมายถึงความมั่นคงทั้งหมดของทวีปยุโรป” เขากล่าว

 

ขณะที่ทรัมป์ ดูเหมือนจะไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่เขากำลังดำเนินการเพื่อให้เกิดการเจรจายุติสงคราม และไม่ได้กล่าวถึงการประชุมที่มีผู้นำชาติอื่นเข้าร่วมด้วย

 

ทรัมป์ปฏิเสธการหยุดยิง

 

ในระหว่างพูดคุย ทรัมป์ยังกลับลำเรื่องความจำเป็นในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในยูเครนโดยทันที ซึ่งเป็นท่าทีที่สร้างความตกตะลึงแก่ผู้นำยุโรปอย่างมาก

 

ก่อนการประชุมกับปูติน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์กล่าวว่าเขาจะผิดหวัง หากการเจรจาไม่บรรลุผลสำเร็จด้วยการหยุดยิง และขู่ว่าจะเกิดผลกระทบ “ร้ายแรง” หากการเจรจาไม่สำเร็จ

 

แต่ในการประชุมครั้งนี้ ทรัมป์กล่าวว่าเขา “ไม่คิดว่าการหยุดยิงเป็นสิ่งจำเป็นอีกต่อไป และต้องการเดินหน้าเจรจาข้อตกลงสันติภาพขั้นสุดท้าย” และยังกล่าวว่า “ไม่ได้คิดถึงเรื่องการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย แบบที่เคยขู่ก่อนหน้านี้แล้ว”

 

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สร้างความประหลาดใจให้กับชาติยุโรป เนื่องจากพวกเขาได้เห็นพ้องเรื่องการหยุดยิงในการประชุมทางออนไลน์ 2 วันก่อนการประชุมสุดยอดระหว่างทรัมป์กับปูติน และยืนยันว่าการหยุดยิงจะเป็นเป้าหมายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

แต่ในการพบปะกันครั้งนี้ ทรัมป์ได้แสดงให้เซเลนสกีและผู้นำยุโรปเห็นอย่างชัดเจนว่า เขาเปลี่ยนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

ด้าน ฟรีดริช เมิร์ซ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี สนับสนุนให้ทรัมป์ทบทวนท่าทีดังกล่าว

 

“ผมนึกไม่ออกเลยว่าการประชุมครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นได้อย่างไร โดยปราศจากการหยุดยิง” เขากล่าวและยืนยันว่าควรดำเนินการเรื่องการหยุดยิง

 

“ดังนั้น เรามาร่วมมือกันและพยายามกดดันรัสเซีย”

 

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์เมินเฉยต่อความคิดนี้ ขณะที่เซเลนสกี ไม่ได้ย้ำข้อเรียกร้องของเขาเรื่องการหยุดยิง

 

โดยในอดีต เรื่องการหยุดยิงถือเป็นข้อเรียกร้องสำคัญของยูเครน ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ยูเครนมองว่าการยุติการสู้รบเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นสำหรับการเจรจาเพิ่มเติมกับรัสเซีย และท้ายที่สุดคือการหาข้อยุติในระยะยาว

 

ข้อตกลงหยุดยิงนั้นอาจบรรลุได้ง่ายกว่าข้อตกลงสันติภาพฉบับสมบูรณ์เล็กน้อย แต่จะต้องใช้เวลาเจรจาหลายเดือน และในระหว่างนั้นการโจมตียูเครนของรัสเซียน่าจะยังคงดำเนินต่อไป

 

บรรยากาศการเจรจาที่ดีขึ้น

 

บรรยากาศการพูดคุยภายในห้องทำงานรูปไข่ในครั้งนี้ อบอุ่นเป็นกันเองมากกว่าเหตุการณ์วุ่นวายและการโต้เถียงระหว่างเซเลนสกี กับทรัมป์ และรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์

 

เห็นได้ชัดว่าฝ่ายยูเครนให้ความสำคัญอย่างมากกับการทำให้แน่ใจว่าการเจรจาจะไม่ล้มเหลว โดยเซเลนสกีมาพร้อมกับจดหมายจากภริยาของเขาถึงเมลาเนีย ทรัมป์ และยังชื่นชมจดหมายของสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ ที่ส่งถึงปูตินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกี่ยวกับเด็กๆ ที่ต้องทนทุกข์ทรมานในช่วงสงคราม

 

ผู้นำยูเครนได้กล่าวคำว่า “ขอบคุณ” ถึงสี่ครั้งในช่วง 10 วินาทีแรกของคำกล่าวสั้นๆ ของเขาในวันจันทร์

 

“ขอบคุณสำหรับคำเชิญ และขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับความพยายามส่วนตัวของคุณ ความพยายามส่วนตัวของคุณในการหยุดยั้งการสังหารและยุติสงครามนี้ ขอบคุณที่ให้โอกาสนี้ ขอบคุณภรรยาของคุณมาก” เซเลนสกีกล่าว

 

โดยเขายังสวมชุดสูท ซึ่งดูเหมือนจะเป็นความพยายามลดความไม่พอใจของทรัมป์ต่อเครื่องแบบทหารที่เขาสวมใส่ในการประชุมกันครั้งแรก ซึ่งผู้นำทั้งสองยังหยอกล้อกันเกี่ยวกับเรื่องชุดสูทในระหว่างการพูดคุย

 

ขณะที่การประชุมรอบนี้ คณะของทรัมป์ ทั้งแวนซ์ และมาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ รวมถึงทูตพิเศษสตีฟ วิตคอฟฟ์ ต่างก็นั่งเงียบๆ โดยไม่แสดงท่าทีใดๆ ระหว่างการประชุม

 

ภาพ: REUTERS/Alexander Drago

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising