โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กำลังเผชิญกับวิกฤตทางการเมืองครั้งสำคัญ หลังจากที่บรรดาอัยการต่างตั้งข้อกล่าวหากับทรัมป์ในหลายคดีสำคัญ ก่อนที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024 จะเปิดฉากขึ้น ซึ่งหลายฝ่ายคาดการณ์ว่า ทรัมป์อาจคว้าสิทธิ์ในการเป็นผู้แทนพรรครีพับลิกันสู้ศึกชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ ในช่วงปลายปี 2024 นี้
คดีอาญา 4 คดีใหญ่ที่ทรัมป์เผชิญมีอะไรบ้าง
1. คดีปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจ
เมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา คณะลูกขุนใหญ่ในรัฐนิวยอร์กได้สืบสวนและตั้งข้อหาทรัมป์ในคดีที่เกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจ โดยอ้างว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินเพื่อ ‘ปิดปาก’ สตอร์มี แดเนียลส์ ดาราหนังผู้ใหญ่ เพื่อไม่ให้เธอเปิดเผยความสัมพันธ์ลับที่ทั้งคู่มีต่อกัน ในช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2016 เป็นจำนวนเงิน 130,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.4 ล้านบาท) ส่งผลให้ทรัมป์เป็นอดีตประธานาธิบดีคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯ ที่ถูกตั้งข้อหาในคดีอาญา
อัลวิน แบรกก์ อัยการเขตแมนฮัตตันในรัฐนิวยอร์กระบุว่า ภายใต้กฎหมายของรัฐนิวยอร์ก การปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจโดยมีเจตนาฉ้อฉลและเจตนาปกปิดอาชญากรรมอื่นนั้น ถือว่ามีความผิดในทางคดีอาญา โดยทรัมป์มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจ 34 รายการ เพื่อปกปิดอาชญากรรมอื่นๆ
เบื้องต้น ทรัมป์ไม่ยอมรับผิดต่อกรณีการปลอมแปลงบันทึกดังกล่าว พร้อมระบุว่า เขาไม่เคยมีเพศสัมพันธ์หรือความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับแดเนียลส์แต่อย่างใด โดย ไมเคิล โคเฮน อดีตทนายความของทรัมป์ที่เป็นผู้จ่ายเงินให้กับแดเนียลส์ยอมรับว่า เขามีความผิดฐานละเมิดกฎหมายเกี่ยวกับการจัดหาเงินทุนเพื่อสนับสนุนการหาเสียงเลือกตั้งของทรัมป์ในช่วงเวลานั้น ก่อนที่โคเฮนจะถูกตัดสินจำคุก 3 ปี ตั้งแต่ปี 2018 ขณะที่ทรัมป์ยังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯ
โดยศาลมีกำหนดพิจารณาคดีนี้ในวันที่ 25 มีนาคม 2024
2. คดีจัดเก็บเอกสารลับของทางการสหรัฐฯ โดยมิชอบ
เมื่อช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทรัมป์ถูกเชิญตัวให้ขึ้นศาลไมอามี รัฐฟลอริดา หลังจากที่อัยการฟ้องร้องและตั้งข้อหาเขาในคดีจัดเก็บเอกสารลับของทางการสหรัฐฯ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย หลังจากที่เขาหมดวาระการเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อช่วงต้นปี 2021 ส่งผลให้ทรัมป์เป็นอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาก่ออาชญากรรมต่อรัฐบาลกลางสหรัฐฯ
ทางด้าน แจ็ก สมิธ อัยการพิเศษที่ได้รับการแต่งตั้งจากกระทรวงยุติธรรมให้ดูแลและรับผิดชอบการสืบสวนสอบสวนคดีอาชญากรรมสำคัญของทรัมป์ ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2022 ระบุว่า ทรัมป์จงใจที่จะครอบครองเอกสารลับของทางการสหรัฐฯ ไว้ภายในที่พักของตนที่มาร์-อะ-ลาโก ในเมืองปาล์มบีช รัฐฟลอริดา และจากรายงานพบว่า มีเอกสารสำคัญกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ของบริเวณที่พัก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเอกสารที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงสหรัฐฯ และโครงการอาวุธนิวเคลียร์
โดยทรัมป์ถูกตั้งข้อหาละเมิดกฎหมายจารกรรม ซึ่งครอบครองเอกสารลับโดยมิชอบ อีกทั้งยังสมรู้ร่วมคิดกับบุคคลใกล้ชิดเพื่อขัดขวางกระบวนการยุติธรรม และกล่าวความเท็จต่อเจ้าหน้าที่ของทางการที่เดินทางไปเก็บรวบรวมเอกสารลับดังกล่าวคืนให้กับทางการ เบื้องต้น ทรัมป์และบรรดาบุคคลใกล้ชิดที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมกับระบุว่า สมิธเป็นคนหัวรุนแรง มีอคติทางการเมือง และพยายามจะขัดขวางไม่ให้เขาดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ อีกสมัย
เบื้องต้น ศาลมีกำหนดพิจารณาคดีนี้ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2024
3. คดีปลุกระดมจลาจลอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ
แจ็ก สมิธ อัยการพิเศษของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลคดีอาญานี้ของทรัมป์อีกหนึ่งคดีเผยว่า ขณะนี้ทางการสหรัฐฯ กำลังตรวจสอบความพยายามของทรัมป์ในการแทรกแซงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2020 จนนำไปสู่การก่อเหตุจลาจลครั้งใหญ่ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021
โดยคณะลูกขุนได้ยื่นฟ้องทรัมป์ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยระบุว่า ทรัมป์มีความผิดใน 4 ข้อหาสำคัญ ได้แก่ สมรู้ร่วมคิดหมายที่จะฉ้อฉลสหรัฐฯ, สมรู้ร่วมคิดเพื่อขัดขวางการพิจารณาคดีของเจ้าหน้าที่, พยายามขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน และละเมิดสิทธิในการลงคะแนนเสียงอย่างยุติธรรมของบรรดาพลเมืองอเมริกันผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
สมิธยังระบุอีกว่า ทรัมป์และบุคคลใกล้ชิดอีกจำนวน 6 คนล้วนมีความผิดฐานพยายามที่จะคว่ำการเลือกตั้งและรักษาตำแหน่งและอำนาจของทรัมป์ไว้ โดยเหตุจลาจลที่อาคาร U.S. Capitol เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 ถือเป็นเหตุโจมตีสถานที่ที่บ่งชี้ถือความเป็นประชาธิปไตยของสหรัฐฯ อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน พร้อมทั้งชี้ว่า เหตุจลาจลดังกล่าวถูกเติมเชื้อไฟจากคำโกหกของจำเลยที่มีเป้าหมายจะขัดขวางกระบวนการของรัฐในการรวบรวม นับ และประกาศรับรองผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งที่ผ่านมา
โดยคาดว่าศาลมีกำหนดพิจารณาคดีดังกล่าวนี้ในวันที่ 2 มกราคม 2024
4. คดีแทรกแซงผลการเลือกตั้งรัฐจอร์เจีย
หนึ่งในประเด็นร้อนที่ได้รับการจับตามองอย่างต่อเนื่องในการเมืองสหรัฐฯ ช่วงเวลานี้คงหนีไม่พ้นความเป็นไปได้ที่ทรัมป์อาจถูกอัยการรัฐจอร์เจียตั้งข้อหาในความผิดฐานพยายามล้มผลการเลือกตั้งรัฐจอร์เจียในช่วงการเลือกตั้งครั้งใหญ่ เมื่อปลายปี 2020
โดย ฟานิ วิลลิส อัยการเขตฟัลตัน รัฐจอร์เจีย กำลังสืบสวนสอบสวนและพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่ทรัมป์และบุคคลใกล้ชิดอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับความพยายามในการพลิกผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในรัฐจอร์เจีย เมื่อปี 2020 หรือไม่ ซึ่งในครั้งนั้น ถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งแรกของผู้สมัครรีพับลิกันในการเลือกตั้งที่รัฐจอร์เจีย นับตั้งแต่ปี 1992 และแพ้ไปแบบคะแนนสูสีและฉิวเฉียดกันมาก จึงยิ่งทำให้ทรัมป์ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง และเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนั้นมีความไม่โปร่งใสเกิดขึ้น
ขณะที่ แกเบรียล สเตอร์ลิง หัวหน้าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของรัฐในรัฐจอร์เจียเปิดเผยว่า เขามีส่วนช่วยนับคะแนนผลการเลือกตั้งใหม่ถึง 3 ครั้ง และผลก็ออกมาตรงกัน คือทรัมป์พ่ายแพ้ให้กับ โจ ไบเดน ในรัฐจอร์เจีย แต่เขายังคงยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ และเขาไม่ได้แพ้การเลือกตั้งในรัฐดังกล่าว จุดยืนของทรัมป์ยิ่งทำให้สถานการณ์โดยรวมในช่วงเวลานั้นตึงเครียดขึ้นอย่างมาก
อัยการวิลลิสเผยว่า การสืบสวนจะมุ่งเน้นไปที่บทสนทนาระหว่างทรัมป์กับ แบรด ราฟเฟนสเปอร์เกอร์ เลขานุการรัฐจอร์เจียคนปัจจุบันจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งทรัมป์ได้ร้องขอให้ราฟเฟนสเปอร์เกอร์ช่วยหาคะแนนเสียงอีก 11,780 คะแนน เพื่อหวังพลิกกลับมาชนะไบเดน หลังไบเดนได้รับคะแนนเสียงในรัฐจอร์เจีย 2,473,633 คะแนน สูงกว่าทรัมป์ที่ได้ 2,461,854 คะแนน (ส่วนต่าง 11,779 คะแนน)
เบื้องต้น วิลลิสระบุว่า อาจมีความเป็นไปได้ที่จะฟ้องร้องและตั้งข้อหาทรัมป์ในคดีนี้ ภายในวันที่ 18 สิงหาคม หรืออาจขยายระยะเวลาออกไปอีกไม่กี่สัปดาห์นับจากนั้น
โดยทรัมป์ยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อาจต้องจับตากันต่อว่าคดีอาญาเหล่านี้จะมีส่วนทำให้เส้นทางการหวนคืนสู่เก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่ 2 ของทรัมป์ต้องสะดุดลงมากน้อยแค่ไหน เพราะขณะนี้ไบเดน หนึ่งในว่าที่ผู้สมัครตัวเต็งชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ สมัยที่ 2 ติดต่อกันก็กำลังอยู่ในช่วงระหว่างการสืบสวนสอบสวนกรณีจัดเก็บเอกสารลับของทางการอย่างไม่เหมาะสม อีกทั้ง ฮันเตอร์ ไบเดน ลูกชายของเขาเองก็มีประเด็นเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศที่อาจมิชอบด้วยกฎหมายเช่นเดียวกัน
ชะตากรรมของอดีตผู้นำสหรัฐฯ รายนี้จะเป็นอย่างไร ต้องติดตาม
แฟ้มภาพ: Jim Bourg / Pool / AFP
อ้างอิง:
- https://edition.cnn.com/2023/05/23/politics/donald-trump-protective-order-hearing/index.html
- https://apnews.com/article/trump-classified-documents-case-trial-6589276753f4255246766e4e5f956881
- https://www.washingtonpost.com/dc-md-va/2023/08/10/jan-6-trump-trial-special-counsel-date/
- https://www.cbsnews.com/news/donald-trump-investigations-new-york-fulton-county-georgia-special-counsel/
- https://www.voanews.com/a/trump-assails-prosecutor-judge-in-election-interference-cases-/7224551.html