เกิดเหตุระทึกในวันขึ้นปีใหม่ 2025 หลังมีคนขับรถยนต์พุ่งชนฝูงชนบน Bourbon Street ย่านชุมชนฝรั่งเศส (French Quarter) ในเมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนาของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 15 คน และได้รับบาดเจ็บอีกราว 35 คน
เจ้าหน้าที่ FBI รายงานว่า ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุถูกตำรวจวิสามัญแล้วหลังเกิดการปะทะกัน ทราบชื่อภายหลังคือ แชมซูด ดิน จับบาร์ พลเมืองอเมริกันวัย 42 ปีจากรัฐเท็กซัส เป็นอดีตทหารในกองทัพสหรัฐฯ นานกว่า 10 ปี โดยเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรมนุษย์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งยังเคยถูกส่งตัวไปประจำการที่อัฟกานิสถานเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2009 – มกราคม 2010 ก่อนที่เขาจะเป็นกองกำลังสำรอง (Army Reserve) ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2015 จนถึงเดือนกรกฎาคม 2020 และผันตัวมาทำงานด้านอสังหาริมทรัพย์ในเวลาต่อมา
FBI ยังเผยอีกว่า ตรวจพบธงของ ‘กลุ่มรัฐอิสลาม’ (IS) ซึ่งเป็นกลุ่มก่อการร้ายที่เคลื่อนไหวอยู่ในตะวันออกกลางและมีเครือข่ายอยู่ในหลายทวีปทั่วโลก แม้ว่าจะสูญเสียผู้นำคนสำคัญอย่าง อาบู บักร์ อัล-บักห์ดาดี ไป แต่กลุ่ม IS ก็ยังคงปฏิบัติการในรูปแบบสาขา หรือเป็นผู้ที่ได้รับอิทธิพลจากอุดมการณ์ของกลุ่ม IS อยู่เป็นระยะๆ อย่างไรก็ตาม ทางการยังอยู่ในระหว่างตรวจสอบว่าผู้ก่อเหตุมีความเชื่อมโยงกับกลุ่ม IS จริงหรือไม่ หรือมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร
นอกจากธงแล้ว ตำรวจยังพบอาวุธปืนและอุปกรณ์ที่อาจเกี่ยวข้องกับระเบิดแสวงเครื่องในรถคันดังกล่าวและในบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ ตำรวจสันนิษฐานว่าจับบาร์อาจไม่ได้ลงมือก่อเหตุเพียงลำพัง
อลีเทีย ดันแคน ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่พิเศษ FBI ระบุว่า “เราไม่เชื่อว่าจับบาร์จะเป็นผู้รับผิดชอบต่อเรื่องนี้แต่เพียงผู้เดียว เรากำลังตามรอยทุกเบาะแสอย่างแข็งขัน รวมถึงซักถามเพื่อนร่วมงานและบุคคลใกล้ชิดของเขา”
สำนักข่าว CNN อ้างถึงเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวน 2 นายที่เปิดเผยว่าจับบาร์เคยอัดคลิปวิดีโอเล่าถึงความฝันที่อยากจะเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม IS มาตั้งนานแล้ว รวมถึงแผนการที่จะสังหารครอบครัวของเขาหลังจากที่หย่าร้างกับภรรยา ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนใจและหันมาใช้แนวทางของกลุ่ม IS หลังเข้าเป็นสมาชิก
ทางการนิวออร์ลีนส์เริ่มทยอยเปิดเผยรายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยส่วนใหญ่เป็นชาวเมืองนิวออร์ลีนส์ที่ออกมาร่วมฉลองวันขึ้นปีใหม่ ในจำนวนนี้มีนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลได้รับบาดเจ็บ 2 คน ขณะที่หนึ่งในผู้เสียชีวิตมีอดีตนักฟุตบอลดาวดังของ Princeton University รวมอยู่ด้วย
ด้านสำนักข่าว BBC รายงานว่า บริษัทของแอปพลิเคชันให้เช่ารถอย่าง Turo กำลังให้ความร่วมมือในการสืบสวนอย่างแข็งขัน หลังรถกระบะที่ใช้ก่อเหตุขับพุ่งชนฝูงชนในเมืองนิวออร์ลีนส์ รวมถึงรถ Cybertruck ที่ระเบิดบริเวณหน้า Trump Hotel ถูกเช่าผ่านแอปพลิเคชันดังกล่าว
ท่าทีผู้นำสหรัฐฯ
โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความเสียใจต่อเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า เป็นการกระทำที่ ‘น่ารังเกียจ’ ไบเดนยังได้รับรายงานจาก FBI ว่า จับบาร์ได้โพสต์วิดีโอบนโซเชียลมีเดียเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนลงมือก่อเหตุ ซึ่งมีเนื้อหาบ่งชี้ว่าเขาได้รับแรงบันดาลใจมาจาก IS และแสดงความปรารถนาที่จะสังหารผู้อื่น
เบื้องต้นไบเดนระบุว่ายังไม่มีรายงานที่แน่ชัดว่าเหตุขับรถพุ่งชนฝูงชนในนิวออร์ลีนส์นี้เชื่อมโยงกับเหตุรถ Cybertruck ระเบิดบริเวณหน้า Trump Hotel ในลาสเวกัส รัฐเนวาดา ในวันเดียวกันนั้นหรือไม่
ขณะที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เตรียมหวนคืนทำเนียบขาวในวันที่ 20 มกราคมนี้ วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลสหรัฐฯ และหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายว่า ‘ไม่มีประสิทธิภาพ’ และ ‘ไม่มีความเป็นผู้นำ’
ทรัมป์ยังได้กล่าวโจมตีด้วยว่า FBI และกระทรวงยุติธรรมยังไม่ได้ทำงานของพวกเขาในการปกป้องพลเมืองอเมริกัน พร้อมแนะนำให้ “CIA เข้ามาร่วมสืบสวน ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป” อีกทั้งยังระบุว่า “สหรัฐฯ กำลังล่มสลาย ความปลอดภัย ความมั่นคงของชาติ และประชาธิปไตย กำลังพังทลายลงทั่วทั้งประเทศของเรา
“ความแข็งแกร่งและความเป็นผู้นำเท่านั้นที่จะหยุดยั้งเหตุการณ์นี้ได้ เจอกันวันที่ 20 มกราคม ทำให้อเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง!”
การกลับมาของกระแสเกลียดกลัว IS และการก่อการร้าย?
ผศ. ดร.มาโนชญ์ อารีย์ ภาควิชารัฐศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ระบุว่า กระแสเกลียดกลัว IS โดยเฉพาะจากเหตุก่อการร้าย จะยิ่งเพิ่มกระแสสนับสนุนของฝ่ายขวาที่มีต่อทรัมป์ ไม่ว่าเหตุการณ์นี้จะเชื่อมโยงหรือถูกโยงกับกลุ่ม IS ผ่านธงสัญลักษณ์ของกลุ่มหรือไม่ก็ตาม โดยอาจารย์เชื่อว่ากลุ่ม IS คงจะออกมาอ้างความรับผิดชอบอย่างแน่นอน
ผศ. ดร.มาโนชญ์ ยกตัวอย่างเหตุการณ์กราดยิงที่งานคอนเสิร์ตชายทะเลในลาสเวกัส รัฐเนวาดา เมื่อปี 2017 ที่ผู้ก่อเหตุเป็นชายชาวอเมริกันวัย 64 ปี ซึ่งในครั้งนั้นกลุ่ม IS ก็ออกมาอ้างความรับผิดชอบ แต่ปรากฏว่าผู้ที่ก่อเหตุไม่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มไหนเลย เราจึงมองได้ว่า IS อาจอ้างความรับผิดชอบไม่ว่าเขาจะทำหรือไม่ทำก็ตาม ยิ่งครั้งนี้ตรวจพบธงในที่เกิดเหตุด้วย ยิ่งทำให้กลุ่ม IS สามารถอ้างความรับผิดชอบได้ง่ายขึ้น และอาจจะอ้างถึงเหตุรุนแรงอื่นๆ ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ด้วย
ส่วนประเด็นที่ว่าทำไมต้องเลือกเวลานี้ในการก่อเหตุนั้น ก็เพราะมีความเหมาะเจาะใน 2 เรื่อง คือ เป็นช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่และเป็นช่วงเวลาที่ทรัมป์จะกลับมานั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ผศ. ดร.มาโนชญ์ ยังแสดงความเห็นอีกว่า ในสมัยที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งครั้งแรกด้วยการปั่นกระแสเกลียดกลัวอิสลามและแบ่งแยกทางสังคม กลุ่มคนที่ดีใจที่สุดเมื่อทรัมป์ชนะการเลือกตั้งคือกลุ่ม IS เพราะกลุ่มนี้ต้องการปั่นกระแสความขัดแย้งทางความเชื่ออยู่แล้ว ซึ่งมันจะไปกระตุ้นฝ่ายขวาให้ต่อต้านโลกมุสลิมมากยิ่งขึ้น และจะเกิด ‘แนวร่วมมุมกลับ’ ที่ดึงมุสลิมที่ถูกฝ่ายขวาต่อต้านให้ไปร่วมกับกลุ่ม IS
ดังนั้นการกลับมาของทรัมป์อาจต้องระวัง 2 เรื่องที่สัมพันธ์กัน คือ เรื่องการเพิ่มขึ้นของฝ่ายขวาหัวรุนแรงและการก่อการร้ายของกลุ่มที่มีแนวคิดสุดโต่ง
ส่วนเหตุรถ Cybertruck ระเบิดที่หน้า Trump Hotel อาจารย์มองว่า ทั้งสององค์ประกอบนี้สะท้อนนัยสำคัญถึงทั้งทรัมป์กับ อีลอน มัสก์ อย่างชัดเจน หากสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการก่อวินาศกรรม
ขณะที่ ศ.กิตติคุณ ดร.สุรชาติ บำรุงสุข ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ยุทธศาสตร์ทหาร และความมั่นคง มองว่า การก่อเหตุร้ายกับตลาดคริสต์มาสชื่อดังในเยอรมนีเมื่อช่วงปลายปี 2024 รวมถึงเหตุขับรถพุ่งชนฝูงชนในนิวออร์ลีนส์ เป็นตัวอย่างสัญญาณเตือนที่สะท้อนว่า ‘การก่อการร้ายไม่เคยหายไปไหน’ และอาจกลับมาให้เราเห็นบ่อยขึ้นในปีใหม่ (2025) แม้ว่าในช่วงก่อนโควิดเราจะเห็นว่าการก่อการร้ายจากกลุ่มอัลกออิดะห์หรือกลุ่ม IS จะมีแนวโน้มลดลงก็ตาม
ภาพ: Eduardo Munoz / Reuters
อ้างอิง:
- https://www.bbc.com/news/live/cn4x88455qpt
- https://edition.cnn.com/us/live-news/new-orleans-mass-casualty-bourbon-street-01-01-25-hnk/index.html?t=1735795356286
- https://edition.cnn.com/2025/01/01/us/shamsud-din-jabbar-suspect-new-orleans-attack/index.html
- https://www.reuters.com/world/us/multiple-fatalities-truck-crashes-into-new-orleans-crowd-cbs-news-says-2025-01-01/
- https://edition.cnn.com/2025/01/01/us/cybertruck-fire-trump-hotel-las-vegas/index.html