สถานการณ์ในนครลอสแอนเจลิส มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ทวีความตึงเครียด หลังเกิดการประท้วงและการก่อจลาจลครั้งใหญ่ต่อเนื่องตลอด 3 วันที่ผ่านมา โดยชนวนเหตุเกิดจากปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร หรือ ICE (Immigration and Customs Enforcement) ที่ทำการตรวจค้นและจับกุมกลุ่มผู้อพยพไร้เอกสารภายในหลายสถานที่ของเมือง
สถานการณ์ที่รุนแรงขึ้นต่อเนื่อง เกิดการปิดถนน เผารถยนต์ ทำลายข้าวของและปะทะกับเจ้าหน้าที่ ทำให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัดสินใจส่งทหารกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิเข้าควบคุมสถานการณ์ ซึ่งจนถึงตอนนี้บรรยากาศการประท้วงยังเป็นไปด้วยความวุ่นวาย และไม่มีทีท่าจะสงบลงง่ายๆ
และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจนถึงตอนนี้
การประท้วงเริ่มต้นขึ้นได้อย่างไร?
การประท้วงเริ่มต้นขึ้น หลังเจ้าหน้าที่ ICE ปฏิบัติการบุกตรวจค้นหลายสถานที่ในนครลอสแอนเจลิส เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (6 มิถุนายน) รวมถึงบริเวณนอกโกดังเก็บเสื้อผ้าแห่งหนึ่งในย่านแฟชั่น
หน่วยงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิและสำนักงานอัยการสหรัฐฯ เผยว่าการบุกค้นดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากที่ผู้พิพากษาพบข้อมูลน่าสงสัยว่า นายจ้างมีการใช้เอกสารปลอมสำหรับพนักงานบางคน
ผลจากการบุกค้น จุดชนวนบรรยากาศตึงเครียด หลังมีฝูงชนพยายามขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่ขับรถออกไปจากโกดัง
หลังจากนั้น เกิดการประท้วงขึ้นที่อาคารของรัฐบาลกลางในตัวเมืองลอสแอนเจลิส ท่ามกลางข่าวลือแพร่สะพัดในหมู่ผู้ประท้วงว่า มีกลุ่มผู้อพยพถูกควบคุมตัวในห้องใต้ดินของอาคารดังกล่าว
ต่อมาในวันเสาร์ (7 มิถุนายน) เกิดการประท้วงขึ้นในเมืองพาราเมาต์ ในลอสแอนเจลิส เคาท์ตี้ หลังเจ้าหน้าที่ ICE ดำเนินการตรวจค้นผู้อพยพไร้เอกสารภายในเมือง
การประท้วงดำเนินต่อไปจนถึงช่วงเย็นโดยมีผู้ร่วมชุมนุมหลายร้อยคน ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องทำการวางรั้วลวดหนามเพื่อป้องกันฝูงชน ขณะที่ตำรวจประกาศว่า เป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมายและเริ่มดำเนินการจับกุมผู้ชุมนุม
บรรยากาศการประท้วงทวีความดุเดือด ปรากฏภาพผู้ประท้วงจุดไฟเผารถยนต์ และปิดถนน รวมถึงขว้างก้อนหินและสิ่งของอื่นๆ ใส่รถของเจ้าหน้าที่ความมั่นคง
ในวันถัดมา (8 มิถุนายน) สถานการณ์ทวีความตึงเครียด กลุ่มผู้ประท้วงหลายพันคนชุมนุมก่อความวุ่นวายในหลายจุด โดยตำรวจเข้าควบคุมสถานการณ์และเกิดการเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้ชุมนุม ขณะที่มีการใช้แก๊สน้ำตา กระสุนยางและระเบิดแฟลชในการสลายการชุมนุม
มีใครถูกจับบ้าง?
กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิกล่าวในแถลงการณ์ว่า ปฏิบัติการของ ICE ในลอสแอนเจลิสส่งผลให้มีการจับกุมผู้อพยพ 118 คน เฉพาะในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งในปฏิบัติการเมื่อวันที่ 6 มิถุนายนมีผู้ถูกจับกุม 44 คน
ภายหลังการจับกุมผู้อพยพ มีกลุ่มผู้ประท้วงไปชุมนุมด้านนอกศูนย์กักขังของรัฐบาลกลาง โดยเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้อพยพ และมีการพ่นสีข้อความประท้วงที่ตัวอาคาร
ICE ระบุในแถลงการณ์ว่า มีผู้ประท้วง 27 คนถูกจับกุมในย่านใจกลางเมืองวานนี้ ส่วนที่เมืองพาราเมาต์ มีผู้ถูกจับกุม 8 คน ในจำนวนนี้เป็นเยาวชน 2 คน ซึ่งจะได้รับการปล่อยตัว ในขณะที่คนอื่นๆ จะถูกตั้งข้อหาขัดขวางการจับกุม
ทั้งนี้ การประท้วงยังลามไปยังเมืองอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียง โดยที่นครซานฟรานซิสโก มีการชุมนุมประท้วงที่หน้าสำนักงาน ICE ก่อนที่สถานการณ์จะลุกลามเป็นความรุนแรง และเกิดการเผชิญหน้าระหว่างตำรวจกับกลุ่มผู้ชุมนุม จนทำให้มีผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 60 คน
ทำไมทรัมป์ ต้องส่งทหารรับมือสถานการณ์?
สถานการณ์ประท้วงที่บานปลาย ส่งผลให้ประธานาธิบดีทรัมป์ ตัดสินใจลงนามในบันทึกข้อความ ใช้อำนาจตามมาตรา 10 สั่งการให้ส่งทหารกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิอย่างน้อย 2,000 นาย ไปยังลอสแอนเจลิส เป็นเวลา 60 วัน หรือตามดุลพินิจของรัฐมนตรีกลาโหม โดยถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1992 ที่มีการใช้อำนาจส่งกำลังทหารรับมือการประท้วงในลักษณะนี้ ซึ่งล่าสุดมีทหารราว 300 นายเข้าควบคุมสถานการณ์ชุมนุมที่ลอสแอนเจลิสแล้ว
ทรัมป์ โพสต์ข้อความผ่าน Truth Social เรียกร้องให้ยุติการประท้วงและปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุม และประกาศว่าผู้ชุมนุมจะไม่ได้รับอนุญาตให้สวมหน้ากากในการประท้วงในอนาคตอีกต่อไป
ด้านเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ประกาศว่าจะฟ้องทรัมป์ ในการส่งกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิเข้าควบคุมสถานการณ์ในลอสแอนเจลิส โดยมองว่าเป็นการยั่วยุให้สถานการณ์ทวีความรุนแรงขึ้น และเรียกร้องให้เฮกเซธ ยกเลิกคำสั่งของทรัมป์ โดยเตือนว่า การส่งกองกำลังไปประจำการในลอสแอนเจลิสโดยไม่ได้รับการฝึกอบรมหรือคำสั่งที่เหมาะสม มีความเสี่ยงที่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงอย่างร้ายแรง
ภาพ: David Ryder / Reuters
อ้างอิง: