ลิเวอร์พูลกำลังเริ่มต้นการเจรจาเพื่อต่อสัญญาฉบับใหม่ออกไปอีก 4 ปีให้กับ เจอร์เกน คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน
ข่าวที่น่าตื่นเต้นนี้เริ่มต้นจากรายงานข่าวของ Daily Telegraph และ The Times สองสำนักข่าวที่มีความน่าเชื่อถือสูงและมีแหล่งข่าวใกล้ชิดกับสโมสร โดยในรายงานระบุว่า ในเกมฟุตบอลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบรองชนะเลิศนัดแรกเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งลิเวอร์พูลเอาชนะบียาร์เรอัลได้แบบ ‘วันเวย์’ 2-0 นั้นมีการปรากฏตัวของสองบุคคลสำคัญที่เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการเจรจาสัญญาฉบับใหม่ของนายใหญ่แห่งแอนฟิลด์
สองคนดังกล่าวคือ ไมค์ กอร์ดอน ประธานกลุ่ม Fenway Sports Group หรือ FSG ซึ่งเป็นเจ้าของสโมสร และอีกคนคือ มาร์ค โคซิกเก เอเจนต์ของคล็อปป์ ที่เข้ามาชมเกมในสนามด้วยและนั่งห่างจากกอร์ดอนเพียงไม่กี่ที่นั่ง
การปรากฏตัวของสองบุคคลนี้เป็นสัญญาณบวกที่น่าสนใจเกี่ยวกับอนาคตของกุนซือวัย 54 ปี ซึ่งเหลือสัญญาในแอนฟิลด์อีก 2 ปี หรือถึงปี 2024
ก่อนหน้านี้ในการต่อสัญญาเมื่อช่วงคริสต์มาสปี 2019 ดูเหมือนคล็อปป์จะตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่าจะอยู่จนครบสัญญากับลิเวอร์พูล และจะยุติช่วงเวลาที่น่าประทับใจเอาไว้แค่นี้เท่านั้น หรือหากจะมีการตัดสินใจเซ็นสัญญาใดๆ จะต้องอยู่บนพื้นฐาน 2 สิ่งด้วยกัน
- คล็อปป์จะต้องรู้สึกว่าเขายังมีพลังและความมุ่งมั่นที่จะทำงานต่อไป
- ครอบครัวจะต้องเห็นด้วย โดยเฉพาะอุลลา ภรรยา ที่คล็อปป์ยืนยันว่าจะเคารพการตัดสินใจของครอบครัว
ย้อนกลับไปในช่วงปีกลาย คล็อปป์เป็นหนึ่งในคนที่เจ็บปวดแสนสาหัสจากโรคระบาดโควิด โดยนอกจากจะส่งผลกระทบต่อการทำงานอย่างมากมายมหาศาล (แม้กระทั่งการฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีกก็ต้องทำโดยที่ไม่มีแฟนฟุตบอล) และที่เลวร้ายกว่านั้นคือการสูญเสียคุณแม่ เอลิซาเบธ คล็อปป์ ที่เสียชีวิตในบ้านเกิดที่เยอรมนี โดยที่เขาไม่สามารถเข้าร่วมพิธีศพได้
ขณะที่ลิเวอร์พูลประสบปัญหาอาการบาดเจ็บร้ายแรงของกองหลังตัวหลักทั้ง 3 คน ตั้งแต่ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, โจ โกเมซ และ โจเอล มาทิป ขณะที่ เดยัน ลอฟเรน ถูกปล่อยตัวออกไปก่อนหน้านี้ จนทำให้ทีมหมดสิทธิ์ป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีก และเผชิญช่วงเวลาเลวร้ายสุดๆ ถึงขั้นแพ้ในแอนฟิลด์ติดต่อกันถึง 6 นัด ทั้งๆ ที่เคยไม่แพ้ใครติดต่อกันยาวนานถึง 58 นัด
แต่หลังเวลาผ่านมาทุกอย่างค่อยๆ คลี่คลายตามลำดับ และคล็อปป์ก็กลับมาสร้างลิเวอร์พูลชุดใหม่ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าในปีที่ได้แชมเปียนส์ลีกหรือพรีเมียร์ลีกด้วยซ้ำ
ชัยชนะเหนือบียาร์เรอัลด้วยสกอร์ 2-0 เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้ลิเวอร์พูลมีโอกาสสูงที่จะผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศแชมเปียนส์ลีกอีกครั้ง และจะเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 5 ปีต่อจากในปี 2018 (รองแชมป์ พ่ายต่อเรอัล มาดริด 1-3) และปี 2019 (แชมป์ เอาชนะท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 2-0)
และที่สำคัญยังรักษาความหวังในการทำสิ่งที่เพ้อฝัน อย่างการคว้า 4 แชมป์ในฤดูกาลเดียว (Quadruple) โดยที่ภาษากายของคล็อปป์ดูดีมีชีวิตชีวาขึ้นกว่าเดิมมาก
การที่จะตัดใจไปจากทีมที่กำลังไปได้สวยแบบนี้ รวมถึงตัวเขาเองรู้สึกถึงพลังและความกระชุ่มกระชวยอีกครั้ง หลังกรำงานหนักมานานนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2015 นั้นอาจจะเร็วเกินไป และเขาตระหนักดีว่าหากจะไปจากลิเวอร์พูลตามระยะเวลาในสัญญาที่มีถึงปี 2024 นั้น อาจจะทำให้ทุกสิ่งดีๆ ที่สร้างร่วมกันมา ไม่ว่าจะกับนักเตะ สตาฟฟ์ ผู้บริหาร และแฟนฟุตบอลพังทลายได้
ด้วยเหตุนี้ทำให้คล็อปป์กลับมาทบทวนและส่งสัญญาณว่าเขา ‘เปิดกว้าง’ สำหรับการที่จะอยู่ในแอนฟิลด์ต่อไป
และเมื่อสัญญาณนั้นถูกส่งมาถึงกอร์ดอน – ซึ่งทำงานใกล้ชิดกับคล็อปป์และเป็นผู้ที่เดินทางมาจัดการเรื่องการเซ็นสัญญาของกุนซือชาวเยอรมัน – ทุกอย่างก็เดินหน้าทันที
สำหรับระยะเวลาในสัญญาฉบับใหม่คาดว่าจะมีระยะเวลา 4 ปีด้วยกัน นั่นหมายถึงจะหมดในปี 2026 ซึ่งจะทำให้คล็อปป์ได้อยู่ในแอนฟิลด์เกินกว่า 10 ปีด้วย
ขณะที่ตัวเลขเงินรายได้นั้นจะเพิ่มจากเดิมที่ได้รับอยู่ปีละราว 10 ล้านปอนด์อย่างแน่นอน เพียงแต่มูลค่าในสัญญาไม่มีความสำคัญเท่ากับความต้องการของกุนซือที่ดีที่สุดของลิเวอร์พูลนับตั้งแต่สิ้นยุค ‘บูทรูมสตาฟฟ์’ ที่อยากจะอยู่กับทีมต่อไป
การต่อสัญญา นอกจากจะหมายถึงการที่โปรเจ็กต์ทั้งหมดที่ทำมาจะได้เดินหน้าต่อ ลูกทีมและสตาฟฟ์ทุกคนจะได้ร่วมงานกับคล็อปป์ต่อไป ได้มีระยะเวลาในการสร้างทีมชุดใหม่ ซึ่งนอกจาก ดีโอโก โชตา, อิบราฮิมา โกนาเต และ หลุยส์ ดิอาซ ที่จะเป็นเสาหลักของทีมในอนาคตแล้ว
ยังมี ฟาบิโอ คาร์วัลโญ กองหน้าดาวรุ่งวัย 19 ปีที่เตรียมย้ายมาจากฟูแลม และอาจจะมี ออเรเลียง ชูอาเมนี มิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศสของโมนาโก และ คาลวิน แรมเซย์ แบ็กขวาวัย 18 ปีจากทีมอเบอร์ดีน ไม่นับ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์, เคด กอร์ดอน และอีกหลายคนที่รอการเจียระไนจากคล็อปป์อยู่
แน่นอนว่าหากคล็อปป์อยู่ในแอนฟิลด์ต่อไปก็หมายถึงโอกาสลุ้นความสำเร็จของทีมในอนาคตด้วย โดยเฉพาะการขับเคี่ยวกับ เป๊ป กวาร์ดิโอลา และโคตรทีมอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เป็นแรงผลักดันของกันและกัน จนทำให้ทั้งสองทีมขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดของวงการฟุตบอลโลกในเวลานี้
โดยที่การตัดสินใจว่าจะอยู่หรือไปอยู่ที่คล็อปป์เอง
ในวงเล็บขอถามภรรยาก่อนนะ
อ้างอิง:
