- บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ประกาศต่อสภาสามัญชนวานนี้ (19 มกราคม) ว่าจะยุติมาตรการตามแผน B ที่ใช้ควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอน โดยเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม
- มาตรการภายใต้แผน B ดังกล่าว รวมถึงการบังคับสวมหน้ากากอนามัยในร้านค้าและระบบขนส่งสาธารณะ ตลอดจนการแนะนำให้ประชาชนทำงานจากที่บ้าน และการกำหนดให้ใช้ใบรับรองการฉีดวัคซีนในบางเงื่อนไข ซึ่งรัฐบาลอังกฤษเริ่มบังคับใช้มาตั้งแต่เดือนธันวาคม
- โดย จอห์นสันระบุเหตุผลในการตัดสินใจยุติมาตรการเหล่านี้ เนื่องจากทีมนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า การแพร่ระบาดของโอมิครอนในอังกฤษนั้นเพิ่มถึงระดับสูงสุดแล้ว ซึ่งเป็นผลจากการเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ประชาชน ประกอบกับการให้ความร่วมมือของประชาชนที่มีต่อมาตรการป้องกันดังกล่าว โดยปัจจุบันมีประชาชนกลุ่มอายุเกิน 60 ปีมากกว่า 90% ที่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้ว
- จอห์นสันชี้ว่า ประเทศยุโรปจำนวนมากยังคงใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อป้องกันการระบาดของโอมิครอนในช่วงฤดูหนาว ซึ่งรัฐบาลอังกฤษตัดสินใจเลือกเส้นทางที่แตกต่าง โดยอาศัยข้อมูลที่ได้แสดงให้เห็นว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง
- ที่ผ่านมาเป้าหมายของแผน B ในการรับมือกับสถานการณ์การระบาดของโอมิครอนในอังกฤษคือ การบังคับใช้มาตรการต่างๆ เพื่อชะลอการแพร่ระบาด และซื้อเวลาให้รัฐบาลอังกฤษสามารถเร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้แก่ประชาชนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
- และด้วยจำนวนชาวอังกฤษที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นกว่า 2 ใน 3 ประกอบกับข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ทำให้ผู้นำอังกฤษมั่นใจว่าถึงเวลาแล้วที่จะยุติแผนคุมเข้มป้องกันโควิดเหล่านี้
- อย่างไรก็ตาม จอห์นสันเตือนว่า ประชาชนทุกคนยังคงต้องระมัดระวังการแพร่ระบาดในช่วงไม่กี่สัปดาห์สุดท้ายของฤดูหนาว และย้ำว่า การระบาดใหญ่ของโควิดนั้นยังไม่สิ้นสุด
- นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีอังกฤษยังระบุอีกว่า รัฐบาลของเขาคาดหวังที่จะยกเลิกมาตรการที่ยังคงมีผลบังคับใช้ตามกฎหมายเพียงอย่างเดียวคือ การให้ประชาชนที่ตรวจพบว่าติดเชื้อกักตัวเป็นเวลาอย่างน้อย 5 วัน ซึ่งมาตรการนี้จะสิ้นสุดไปโดยอัตโนมัติในวันที่ 24 มีนาคม หากไม่มีการต่ออายุ
- ทั้งนี้ การตัดสินใจของรัฐบาลอังกฤษ แม้จะเป็นที่พอใจของประชาชนที่ไม่ชื่นชอบมาตรการควบคุมการระบาด แต่ก็ยังมีกระแสความกังวลจากกลุ่มสหภาพครูและแรงงานด้านสาธารณสุข รวมถึงสำนักงานระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ตลอดจนผู้แทนหน่วยงานด้านสาธารณสุขต่างๆ
- ซึ่งทางสหภาพครูหลายแห่งแสดงความกังวลต่อการยุติมาตรการอย่างฉับพลันนี้ และเตือนว่า ครูใหญ่ในโรงเรียนทั่วอังกฤษจำนวนมากยังคงมองว่าการแพร่ระบาดของโควิดนั้นก่อให้เกิดปัญหาอย่างกว้างขวางต่อระบบการศึกษา ซึ่งแม้ช่วงที่ผ่านมามีแนวโน้มที่กลุ่มเด็กนักเรียนระดับมัธยมศึกษาติดเชื้อน้อยลง แต่ความไม่แน่นอนจากการยกเลิกมาตรการของรัฐบาลอาจนำไปสู่ความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดปัญหาเพิ่มขึ้น เนื่องจากเด็กนักเรียนและครูที่ติดเชื้อนั้นยังต้องแยกกักตัว
- ขณะที่ แซฟฟรอน คอร์เดอรีย์ รองหัวหน้าฝ่ายบริหารของ NHS เตือนการยกเลิกมาตรการป้องกันโควิดของรัฐบาล โดยระบุว่า ยังมีผู้ป่วยโควิดที่รักษาอยู่ในโรงพยาบาลเกือบ 20,000 คน ในขณะที่ NHS นั้นต้องรับมือกับสถานการณ์การระบาดที่ยังรุนแรง และในบางภูมิภาคของประเทศยังมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น
- Unison ซึ่งเป็นสหภาพสาธารณสุขที่ใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักร เตือนการยกเลิกมาตรการตามแผน B ของรัฐบาลเกือบทั้งหมดในคราวเดียวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น โดย คริสตินา แมคอาเนีย เลขาธิการสหภาพ กล่าวว่า “แทนที่จะปล่อยให้ทุกคนเป็นอิสระ รัฐมนตรีควรเตือนให้ประชาชนระวังและส่งเสริมการสวมหน้ากากอนามัยขณะใช้บริการขนส่งหรืออยู่ในสถานที่สาธารณะหรือโรงเรียน ซึ่งยังคงสามารถทำให้เกิดความแตกต่างได้อย่างแท้จริง”
ภาพ: Photo by House of Commons / PA Images via Getty Images
อ้างอิง:
- https://www.theguardian.com/world/2022/jan/19/boris-johnson-announces-end-to-all-omicron-covid-restrictions-in-england
- https://www.cbsnews.com/news/uk-covid-restrictions-cases-boris-johnson-ends-rules-england/
- https://www.standard.co.uk/news/uk/plan-b-restrictions-end-wfh-masks-rules-public-transport-covid-passports-boris-johnson-b977573.html