ฝรั่งเศสกำลังเผชิญกับเหตุประท้วงครั้งใหญ่ที่หมายมั่นจะ ‘ขวางทุกอย่าง’ (Block Everything) โดยมีการปิดถนนและโรงเรียน รวมถึงการก่อความไม่สงบ และการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้แก๊สน้ำตา ซึ่งกระแสความไม่พอใจในครั้งนี้พุ่งเป้าไปที่เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส รวมถึงรัฐบาลและชนชั้นนำในแวดวงการเมืองโดยรวม ซึ่งถูกมองว่า ‘ไม่สนใจประชาชน’ ทำให้ผู้ชุมนุมต่างรู้สึกว่า การลงคะแนนเสียงของพวกเขา ‘ไร้ความหมาย’ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความกังวลเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจและสังคมที่พวกเขามองว่า เป็นการทำลายระบบสาธารณะและส่งผลกระทบต่อผู้มีรายได้น้อย
เหตุประท้วงขยายตัวเป็นวงกว้าง โดยทางการฝรั่งเศสเผยว่า มีผู้ถูกควบคุมตัวเกือบ 500 คน พร้อมได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจราว 80,000 คนกระจายกำลังไปยังทั่วประเทศ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และควบคุมไม่ให้สถานการณ์ลุกลามบานปลาย
ฝรั่งเศสมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?
ผลจากการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาฝรั่งเศสครั้งล่าสุด มีส่วนทำให้รัฐสภาเสียงแตก และยากต่อการรวบรวมเสียงสนับสนุน จึงทำให้นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสจะต้องเผชิญกับความยากลำบากในการผ่านร่างกฎหมายต่างๆ และแผนงบประมาณประจำปี
ฟรองซัวส์ บายรู นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส แพ้ในการลงคะแนนเสียงไม่ไว้วางใจของสภาผู้แทนราษฎร เป็นเหตุให้ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา ท่ามกลางความวุ่นวายในรัฐสภาฝรั่งเศส ซึ่งบายรูนับเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ในรอบ 2 ปีของมาครง ผู้นำประเทศที่เผชิญกับความท้าทายอย่างมากในสมัยที่ 2 ของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
บายรูสนับสนุนแนวทางการตัดลดงบประมาณรายจ่ายของภาครัฐ หลังจากมองว่า ฝรั่งเศสกำลังเผชิญวิกฤตหนี้สาธารณะครั้งสำคัญ ซึ่งเมื่อช่วงต้นปี 2025 ฝรั่งเศสมีหนี้สาธารณะอยู่ที่ 3.345 ล้านล้านยูโร หรือคิดเป็น 114% ของ GDP จึงทำให้บายรูพยายามลดการขาดดุลนี้
อย่างไรก็ตาม มีเสียงคัดค้านอย่างมากต่อแผนการตัดงบประมาณเพิ่มเติม โดยนักการเมืองฝ่ายซ้ายในฝรั่งเศสเรียกร้องให้มีการจัดเก็บภาษีเพิ่มเติม แทนการตัดงบ ขณะที่ประชาชนชาวฝรั่งเศสจำนวนไม่น้อยก็ไม่พอใจกับแนวทางการตัดงบของรัฐบาล รวมถึงการยกเลิกวันหยุด ซึ่งพวกเขามองว่า มาตรการเหล่านี้กดดันชนชั้นกลางและชนชั้นล่างอย่างมาก เป็นนโยบายที่ ‘ไม่เป็นธรรม’ พร้อมมองว่า รัฐบาลควรเพิ่มการจัดเก็บภาษีคนรวยและบริษัทใหญ่ มากกว่าที่จะมาลดสิทธิประโยชน์ของประชาชนทั่วไป อย่างการตัดงบสวัสดิการและบริการสาธารณะบางส่วนออก
อีกทั้งฝรั่งเศสกำลังเผชิญภาวะ ‘ค่าครองชีพสูง’ หากรัฐบาลประกาศรัดเข็มขัด ประชาชนกังวลว่าจะยิ่งทำให้ชีวิตลำบากยิ่งขึ้น ประกอบกับความรู้สึกที่ว่า นักการเมืองไม่เข้าใจความเดือดร้อนของประชาชน ยิ่งสะสมกระแสความไม่พอใจต่อชนชั้นการเมืองของฝรั่งเศส
ความท้าทายของนายกฯ คนใหม่
การชุมนุมประท้วงเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ เซบาสเตียน เลอกอร์นู รัฐมนตรีกลาโหมคนปัจจุบัน เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของฝรั่งเศสอีกหนึ่งตำแหน่ง หลายฝ่ายมองว่า การแต่งตั้ง เลอกอร์นู ซึ่งเป็นคนสนิทของมาครงให้มารับช่วงต่อบายรู ท่ามกลางสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในขณะนี้ นับเป็น ‘บททดสอบสุดหิน’ สำหรับนายกรัฐมนตรีคนใหม่
ผู้เชี่ยวชาญมองว่า เหตุชุมนุมประท้วงจะยังคงดำเนินต่อไป เพราะชาวฝรั่งเศสต่างรู้สึกว่า ท้องถนนเป็นพื้นที่ที่สามารถแสดงออกทางการเมืองได้ และมีโอกาสที่เสียงของพวกเขาจะถูกรับฟัง โดยคาดการณ์ว่า สหภาพแรงงานฝรั่งเศสเตรียมเข้าร่วมการประท้วงและนัดหยุดงานครั้งใหญ่ในวันที่ 18 กันยายนนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงรอยร้าวลึกระหว่างประชาชนชาวฝรั่งเศส โดยเฉพาะกลุ่มพี่น้องแรงงานกับผู้นำประเทศและชนชั้นการเมือง
ผู้เชี่ยวชาญยังระบุว่า ประชาชนรู้สึกว่า ‘ถูกทอดทิ้ง’ และเสียงของพวกเขา ‘ไม่มีตัวแทน’ ในรัฐสภาฝรั่งเศส อีกทั้งการประท้วงในครั้งนี้ก็มีความคล้ายคลึงกับ การประท้วงเสื้อกั๊กเหลือง (Yellow Vests Protests) ที่เริ่มขึ้นในปี 2018 ซึ่งเริ่มต้นจากความไม่พอใจเรื่องราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และขยายวงกว้างไปสู่ความรู้สึกไม่ยุติธรรมทางเศรษฐกิจในวงกว้าง โดยเหตุประท้วงนั้นไม่ได้ยึดโยงกับพรรคการเมืองใด สหภาพแรงงานใดๆ และไม่ได้มีใครขึ้นมาเป็นผู้นำเดี่ยวในการชุมนุมประท้วง เช่นเดียวกับเหตุประท้วง ‘ขวางทุกอย่าง’ ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในเวลานี้
ประธานาธิบดีมาครงสะสมกระแสความไม่พอใจของประชาชนชาวฝรั่งเศสอย่างต่อเนื่อง แผนปฏิรูปและแนวทางภายใต้การนำของเขา รวมถึงรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสที่เขาแต่งตั้ง มักได้รับเสียงต่อต้านจากสังคม อาทิ แผนปฏิรูปเงินบำนาญและปรับเกณฑ์เกษียณอายุจาก 62 เป็น 64 ปี จนมีกระแสจากบรรดาพรรคฝ่ายขวาเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีก่อนกำหนด
อย่างไรก็ตาม มาครงยืนยันว่า เขาจะไม่ลงจากตำแหน่ง จนกว่าจะสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในปี 2027 ซึ่งนั่นจะทำให้เขาแบกรับแรงกดดันจากประชาชนอย่างมาก หากรัฐบาลฝรั่งเศสยังไม่สามารถแก้ไขวิกฤตต่างๆ ให้สอดรับกับความต้องการของประชาชนในประเทศได้
ภาพ: Reuters
อ้างอิง:
- https://www.reuters.com/world/europe/block-everything-protests-sweep-across-france-scores-arrested-2025-09-10/
- https://www.nytimes.com/2025/09/10/world/europe/france-protests-lecornu-prime-minister.html
- https://edition.cnn.com/2025/09/10/europe/france-protests-new-prime-minister-intl
- https://www.france24.com/en/france/20250903-block-everything-what-we-know-about-the-movement-to-shut-down-france-on-september-10