×

ข้อเสนอ-คำวิจารณ์ ต่องบประมาณกองทัพ 2 แสนล้าน ใช้ถูกที่หรือไม่

โดย THE STANDARD TEAM
30.05.2025
  • LOADING...

ช่วงค่ำวันที่ 29 พฤษภาคม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2569 ทวีความเข้มข้น เมื่อ สส. ของพรรคประชาชน เรียงคิวลุกขึ้นอภิปรายงบของกองทัพและกระทรวงกลาโหมด้วยประเด็นหลากหลาย ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ภาพรวม งบประมาณทหารเกณฑ์ รวมถึงทหารผ่านศึก

 

งบกั๊กเกิดจากความอ่อนแอของ รมว.กลาโหม

 

ชยพล สท้อนดี สส. กทม. พรรคประชาชน ได้อภิปรายถึงงบประมาณของกระทรวงกลาโหมประจำปี 2569 ซึ่งมีวงเงิน 204,000 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 2.36% หรือกว่า 4,700 ล้านบาทจากปี 2568 ชยพลเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส เพื่อให้กองทัพไทยเป็นที่ยอมรับ และลบคำสบประมาทที่เกิดขึ้นตลอดมา

 

“ผมอยากให้กองทัพ เลิกกั๊กแล้วพักก่อนดีมั้ย เพราะนี่เป็นโอกาสสุดท้าย ที่จะช่วยรัฐบาลในการหาเงิน ก่อนที่เศรษฐกิจไทยจะพังจริง ใช้เงินให้ถูกที่ จ่ายเงินให้ได้ประสิทธิภาพ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้”

 

งบประมาณก้อนใหญ่ของกองทัพแบ่งเป็นสามส่วนหลัก ได้แก่ แผนงานด้านบุคลากร 108,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 1,500 ล้านบาท, แผนยุทธศาสตร์พัฒนาศักยภาพการป้องกันประเทศ (งบซื้อซ่อมอาวุธ) 63,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 3,300 ล้านบาท, และแผนงานด้านพื้นฐานความมั่นคง (ค่าเบี้ยเลี้ยง, ค่าเกณฑ์ทหาร, ค่าอาภรณ์ภัณฑ์, ค่าเช่ารถ, ค่าตึก, ค่าน้ำ, ค่าไฟ) 27,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 187 ล้านบาท

 

ชยพลยังได้กล่าวถึงปัญหาประสิทธิภาพในการบริหารจัดการอาวุธของกองทัพ โดยแบ่งเป็น 3 ขั้นตอน ได้แก่ การ ‘วางแผนให้ดี, ซื้อให้พอ, และซ่อมให้ถึง’ เขายกตัวอย่างกรณีเรือฟรีเกตของกองทัพเรือที่ต้องการ 8 ลำ แต่กลับตั้งงบประมาณซื้อเพียงปีละ 1 ลำ การวางแผนที่ไม่ดีเช่นนี้ ทำให้เสียโอกาสในการดึงดูดการลงทุนเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการต่อเรือในประเทศ นอกจากนี้ ยังมีกรณีเรือหลวงภูมิพลที่ถูกใช้งานอย่างหนักจนเลยห้วงการซ่อมบำรุงตามวงรอบปกติ ทำให้เครื่องยนต์เสีย ต้องเสียงบประมาณซ่อมเพิ่ม 240 ล้านบาท ทั้งที่เรือมีอายุยังไม่ถึง 10 ปี

 

ประเด็นเรื่องความโปร่งใสเป็นอีกหนึ่งจุดที่นายชยพลให้ความสำคัญ เขาตั้งข้อสังเกตถึง ‘มาตรฐานยุทโธปกรณ์’ ที่แต่ละเหล่าทัพมีมาตรฐานของตนเอง ทำให้ผู้ประกอบการไทยต้องผ่านการรับรองหลายครั้งและใช้เวลานาน รวมไปถึงการกำหนดคุณสมบัติใน TOR ที่กีดกันผู้ผลิตสัญชาติไทย เช่น ข้อกำหนดว่าสินค้าต้องเคยประจำการในประเทศต้นทางของผู้ผลิตมาก่อน

 

ชยพลได้กล่าวถึง ‘ค่าโง่เรือดำน้ำ’ กว่า 16,000 ล้านบาทที่จ่ายไปแล้วแต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้รับเรือ เขายังวิจารณ์การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอนุมัติหลักการสำหรับเรือฟรีเกตมากกว่า 1 ลำไม่ได้ โดยอ้างว่าเงินไม่เหลือเพราะต้องนำไปจ่ายค่าเรือดำน้ำ

 

ชยพลเสนอให้กระทรวงการคลังยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อเรียกเงิน 16,000 ล้านบาทคืนจากกองทัพเรือ, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในขณะนั้น, และ ครม. ที่อนุมัติโครงการเรือดำน้ำ เขาสรุปด้วยการเสนอให้มีการตัดงบประมาณส่วนที่ไม่โปร่งใสและไม่มีประสิทธิภาพ เช่น เงินราชการลับและเงินค่าใช้จ่ายสนับสนุนในการส่งกำลังบำรุง รวมกว่า 14,000 ล้านบาทในปี 2569

 

ชยพลเน้นย้ำว่า ปัญหาเหล่านี้มีต้นเหตุมาจาก พ.ร.บ. จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม มาตรา 43 ที่ทำให้การจัดสรรงบประมาณต้องเป็นไปตามมติของสภากลาโหมที่เต็มไปด้วยนายพล และความอ่อนแอของรัฐมนตรีกลาโหม ด้วยเหตุผลเหล่านี้ จึงไม่สามารถรับหลักการของร่าง พ.ร.บ. งบประมาณปี 2569 ได้

 

แนะบันได 3 ขั้น เปลี่ยนผ่านทหารเกณฑ์สู่สมัครใจ

 

เชตวัน เตือประโคน สส. ปทุมธานี พรรคประชาชน อภิปรายถึงการจัดงบประมาณของกระทรวงกลาโหมแบบใหม่ เปลี่ยนผ่านทหารสมัครใจ 100% ว่า กระทรวงกลาโหมของบประมาณปี 2569 ไว้ 204,434 ล้านบาท เพิ่มมา 4,713 ล้านบาท แต่เหมือนทุกปีคือไม่มีรายละเอียด เราต้องแยกประเภทเองว่ามีอะไรบ้างที่น่าจะเกี่ยวกับการเกณฑ์ทหารบ้าง จากที่คำนวณแล้วทั้งเงินเดือน เงินเพิ่มการครองชีพ เบี้ยเลี้ยง ค่าอาภรณ์ภัณฑ์ต่างๆ ตกอยู่ที่ราว 14,000 ล้านบาท เป็นเรื่องดีที่กองทัพมีโครงการพลทหารออนไลน์ แต่หากมีผู้สมัครใจเพิ่มด้วยอัตราเร่งแบบปัจจุบันนี้ก็มองไม่เห็นอนาคตเลยว่าจะเปลี่ยนผ่านได้เมื่อไหร่ รัฐบาลต้องแสดงความจริงใจเรื่องนี้ผ่านการจัดงบประมาณด้วย ทำอย่างเป็นเรื่องเป็นราวเข้ามา ไม่ใช่ให้แต่ละหน่วย แต่ละค่าย ไปคิดทำกันเองตามมีตามเกิด ตามยถากรรม

 

เชตวันเสนอบันได 3 ขั้น เปลี่ยนผ่านการเกณฑ์ทหารสู่ระบบสมัครใจ คือ

 

1. รีดไขมัน ลดกำลังพลลงได้อีก จากทหารธุรการ มีความจำเป็นขนาดไหนที่กองทัพจะต้องเอาทหารกองประจำการ ที่มีวุฒิปริญญาตรี, ปวช.-ปวส. ไปนั่งทำงานใน บก.ร้อย หากกองทัพต้องการคนไปทำงานธุรการจริงๆ ล่าสุด พ.ร.บ.เงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนกลาโหม ก็ผ่านสภาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สามารถเปิดรับบุคคลทั่วไปมาทำหน้าที่นั้นได้ทันที

 

2. ไขมันทหารรับใช้บ้านนายพล ที่กองทัพบอกว่าไม่มี ต่อให้อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ ล่าสุดเป็นข่าวเป็นว่านายสั่งให้ไปวิ่งแกร็บหาเงิน ซึ่งตรงนี้ล้ำกว่าการไปรับใช้ในบ้าน ตัดหญ้า ซักกางเกงใน ธรรมดาไปเลย ถือเป็นการเอาทหารรับใช้ไป ลงทุนสร้างมูลค่าเพิ่มได้อีกด้วย

 

3. ทหารถูกปล่อยตัวกลับรอปลด นายรับเงินเดือนแทน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่หลับตาคนละข้าง พลทหารได้กลับบ้านได้อยู่กับลูกเมีย ไปหางานหาการอื่นทำ ส่วนนายได้เงินเดือน หากเกณฑ์คนไปให้นายได้ปล่อย เพื่อกินเงินเดือน หมายความว่าเรามีทหารเกินความจำเป็นสามารถลดได้อีก

 

4. เทคโนโลยีที่ล้าสมัย เราไม่ได้ต้องการจำนวนคนมากมายเพื่อจะไปรบ แต่เราต้องการคนที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงต้องการยุทโธปกรณ์เทคโนโลยีที่ทันสมัยหรือแม้แต่การรับสมัครคนเข้าเป็นทหารก็สามารถใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยได้

 

เชตวันกล่าวต่อว่า บันไดขั้นที่ 2 เงินเดือน สวัสดิการ และสิทธิมนุษยชนที่ไม่ถูกละเมิด หากประชาชนไม่กลัวว่าต้องตายในค่าย สิทธิมนุษยชนไม่ถูกละเมิด รวมถึงมีสวัสดิการที่ดี คนก็พร้อมที่จะสมัครไปเป็นทหารทั้งสิทธิประโยชน์ที่กองทัพบกใช้จูงใจบุคคลให้เข้าเป็นทหารกองประจำการทั้งสวัสดิการรักษาพยาบาลกรณีอุบัติหรือเจ็บป่วย เงินช่วยเหลือกรณีประสบภัย ค่าตอบแทนพิเศษทุกอย่างดีแล้ว สำหรับเรื่องเงินเดือนตนมองว่าควรอยู่ที่ 15,000 บาทต่อเดือน จะทำให้ได้ยอดสมัครใจในการเป็นทหารมากขึ้น

 

ส่วนบันไดขั้นที่ 3 ระบบทหารอาสา เลิกบังคับเกณฑ์ได้ทันที จะทำให้เราได้คนที่มีประสิทธิภาพเข้ามาอยู่ในกองทัพ เพราะคัดสรรผ่านการสอบข้อเขียน ผ่านการทดสอบร่างกาย ผ่านการสอบสัมภาษณ์ เราจะได้คนที่ตั้งใจมาเป็นทหาร ไม่ใช่ได้คนที่ ‘ซวย’ จับได้ใบแดง โดยมี 2 โมเดลคือทหารอาสาทั้งหมดสามารถเปิดรับทันที 50,000 นาย ไม่ต้องมีการเกณฑ์ใดๆ ทั้งสิ้น ปีต่อไปอีก 50,000 ได้ยอดทหารสะสมตามต้องการ เมื่อถึงปี 2571 ก็ค่อยมารับคนตามที่ขาด และโมเดลทหารอาสาและทหารสมัครใจคือรับทหารอาสา 25,000 และเกณฑ์อีก 25,000 ทั้ง 2 โมเดลนี้ เราสามารถเปลี่ยนผ่านสู่ ระบบเกณฑ์สู่ระบบสมัครใจ โดยที่ไม่มีใครต้องโดน ‘ใบแดง’ ได้ทันทีในปีงบประมาณ 2569 นี้เลย

 

กิจการพิเศษเกาะกินงบทหารผ่านศึก

 

ร.อ.ท. ธนเดช เพ็งสุข สส. กทม. พรรคประชาชน อภิปรายถึงงบประมาณขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) ว่า โดยเปิดเผยถึงงบอุดหนุนจากรัฐบาลที่ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายดำเนินงานกว่า 42 ล้านบาท เงินอุดหนุนการให้การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกกว่า 1,316 ล้านบาท เงินอุดหนุนการให้การสงเคราะห์โรงพยาบาลทหารผ่านศึกกว่า 99 ล้านบาท การจัดตั้ง เครือข่ายทหารผ่านศึกและทหารนอกประจำการเพื่อความมั่นคงกว่า 1,880 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในองค์การบริหารองค์การทหารผ่านศึกกว่า 12 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบสำหรับวีรบุรุษของประเทศนี้ ซึ่งไม่ได้บ่งบอกอะไรเลยว่าเงินจะถึงมือพวกเขาอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยหรือไม่ และไม่ได้บอกเลยว่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และเกียรติศักดิ์ที่ทำไว้กับประเทศนี้จะทำให้ชีวิตเขาดีขึ้นอย่างไร

 

“ก่อนหน้านี้ที่มีการอภิปรายงบตั้งแต่ปี 2567-2568 พวกเราไม่เคยอภิปรายงบองค์กรนี้ เพราะพวกเราเชื่อโดยสมัครใจว่าองค์กรนี้จะเป็นองค์กรที่บริสุทธิ์ มีความสุจริตและเที่ยงธรรม และจะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ทหารผ่านศึกมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่สิ่งที่ตนทราบมา กลับไม่ใช่ กลับกลายเป็นองค์กรแสวงหาผลประโยชน์ เป็นแหล่งที่กลุ่มทุนกลุ่มยี่ปั๊วมากอบโกยเงินทอง และเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของทหารประเทศนี้ และมานั่งนับเงินบนคราบเลือดของเขา”

 

ร.อ.ท. ธนเดช กล่าวต่อว่า จากที่กล่าวไปข้างต้นองค์กรนี้ไม่ได้ทำเพื่อทหารผ่านศึกด้วยความเต็มใจ พร้อมเปิด 7 กิจการพิเศษที่เป็นขุมทรัพย์ขององค์การทหารผ่านศึก ซึ่งเป็นขุมทรัพย์ที่เกาะกินทหารผ่านศึกอยู่จนถึงทุกวันนี้ ทั้งเป็นยี่ปั๊วรายใหญ่ในการขายหวยของประเทศนี้ รวมถึงเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีโรงงานในอารักษ์ที่มีพ่อค้าคนกลางที่ไม่มีโรงงานเป็นของตัวเอง ศาลหลักเมืองของคนไทยก็อยู่ในการกำกับดูแล รวมถึงจะมีการทำธุรกิจด้านพลังงาน มีโรงพิมพ์เป็นของตัวเอง และมีเกษตรอุตสาหกรรมและการบริการ

 

นอกจากนี้ ร.อ.ท. ธนเดช กล่าวอีกว่า เรื่องฉาวและเรื่องขุมทรัพย์ไม่จบเพียงเท่านี้ ยังมีเรื่องเบียดบัง ผอ.อผศ. ทำอยู่ คือ ปัจจุบันให้เครือญาติของตัวเองได้สิทธิพิเศษในโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ได้นอนห้อง VIP ห้องคู่ โดยการขอตั๋วเด็กนอนมา 2 ปีแล้ว จึงฝากไปยังรัฐมนตรีกลาโหมดำเนินการ ซึ่งหาก อผศ. จัดงบประมาณเช่นนี้ยังไงก็ไม่รอด และคงไม่มีทางได้เห็นคุณภาพชีวิตของทหารผ่านศึกดีขึ้น ตนเคยเสนอไว้แล้วว่าเราต้องเอาความต้องการของทหารผ่านศึกเป็นที่ตั้ง ฟื้นฟูสมรรถภาพ และฝึกอาชีพดูแลครอบครัวของเขา ก่อนความต้องการของผู้บริหาร

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising