วานนี้ (3 มกราคม) สหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) และสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ยืนยันว่า เคนโตะ โมโมตะ นักแบดมินตันชายเดี่ยวอันดับ 1 ของโลกจากญี่ปุ่น มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก หลังทดสอบ PCR ที่สนามบินนาริตะ ก่อนเดินทางมาประเทศไทย
โดยโมโมตะได้พบปะเพื่อนร่วมทีมหนึ่งวันก่อนหน้านี้ที่สนามฝึกซ้อมในเมืองคิตาคุ กรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา ส่งผลให้สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศญี่ปุ่นตัดสินใจถอนทีมออกจากการแข่งขันทั้ง 3 รายการในประเทศไทย ซึ่งจะเปิดฉากการแข่งขันในอีก 10 วันข้างหน้า
จากการถอนตัวของผู้เล่นทีมญี่ปุ่นดังกล่าว ส่งผลให้ BWF และสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ จะเชิญผู้เล่นสำรองแต่ละประเภทตามลำดับ โดยทุกคนจะต้องมีใบรับรองจากแพทย์ว่าปลอดโควิด-19 เพื่อออกเดินทางมาและเข้าสู่กระบวนการกักตัวใน Bubble วันจันทร์ที่ 4 มกราคมนี้ เพื่อลงแข่งขันในประเทศไทย
โดยในการแข่งขันครั้งนี้ยังมียอดฝีมือระดับโลกพร้อมลงชิงชัยอีกมากมาย ซึ่งในประเภทหญิงเดี่ยวมี ไถ้ซื่อหยิง มือ 1 ของโลกจากไต้หวัน, คาโลรินา มาริน มือ 6 ของโลกจากสเปน, พี.วี. สินธุ มือ 7 ของโลกจากอินเดีย และ เมย์-รัชนก อินทนนท์ มือ 5 ของโลก เป็นต้น ส่วนประเภทชายเดี่ยวมี โจวเทียนเฉิน มือ 2 ของโลกจากไต้หวัน, อันเดรส แอนทอนเซน มือ 3 ของโลกจากเดนมาร์ก รวมถึงนักตบลูกขนไก่มือดีจากประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซีย
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล รองประธาน BWF และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ เผยว่า ในนามของคณะผู้จัดการแข่งขันขอชื่นชมในการตัดสินใจครั้งนี้ของทีมญี่ปุ่น ซึ่งมีความมุ่งมั่นและตั้งใจอย่างมากที่จะเดินทางมาแข่งขันในประเทศไทย จากการได้สนทนากับสมาคมกีฬาแบดมินตันญี่ปุ่น ได้เห็นความตระหนักถึงความปลอดภัยของนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทั้งหมดในประเทศไทย รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ประเทศไทย ญี่ปุ่นจึงจำเป็น จำใจ และเสียใจอย่างมาก ที่ต้องถอนทีมจากการแข่งขันในนาทีสุดท้ายก่อนขึ้นเครื่องบิน และขอส่งกำลังใจให้ทุกท่านในทีมญี่ปุ่นปลอดภัย แข็งแรง และมีสุขภาพที่ดี พร้อมกลับมาลงสนามแข่งขันได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับการแข่งขันกีฬาแบดมินตัน 3 รายการใหญ่ ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี จะเปิดฉากด้วยรายการโยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2020 เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ระหว่างวันที่ 12-17 มกราคมนี้ ต่อด้วยรายการโตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 2020 เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัล ระหว่างวันที่ 19-24 มกราคม 2564 และ HSBC BWF World Tour Finals 2020 ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดไปยัง 3,000 ล้านครัวเรือนทั่วโลก ส่วนในประเทศไทย True Visions ถ่ายทอดสดให้แฟนกีฬาได้รับชมแบบจุใจ
ขณะนี้บรรดานักกีฬาแบดมินตันต่างชาติอื่นๆ ได้ทยอยเดินทางมาถึงประเทศไทยแล้ว และต้องเข้ารับการกักตัว หรือ Bubble Quarantine หรือ OQ ทันที โดยนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทุกคนก่อนออกเดินทางต้องมีเอกสาร Fit To Fly ออกโดยแพทย์ตรวจหาโควิด-19 ล่วงหน้า 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง เมื่อแพทย์ยืนยันว่าไม่มีเชื้อ ถึงจะเดินทางออกมาและเข้าประเทศไทยได้ไม่เกินวันที่ 4 มกราคม ทุกคนต้องเข้าอยู่ในสถานที่กักกันตัวตั้งแต่ระหว่างวันที่ 4-31 มกราคม 2564 ห้ามออกก่อนครบกำหนด 14 วัน และเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย ต้องรับการตรวจเชื้อทันที และถูกกักตัวในห้องพัก ไม่อนุญาตให้เปลี่ยนห้องพักจากที่จัดเตรียมไว้ให้ เมื่อผลเป็นลบ นักกีฬาจึงจะสามารถออกมาฝึกซ้อมและเตรียมร่างกายได้ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม หลังจากนั้นจะมีการตรวจหาเชื้ออย่างต่อเนื่องและถี่มาก ตั้งแต่ก่อนการกักตัว ระหว่างการกักตัว และหลังการกักตัว ตรวจหาเชื้อไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
ทุกคนต้องทานอาหารกล่องคนเดียวในห้องพักเดี่ยว จะมีการแบ่งแยกประเทศ ทั้งในเชิงกายภาพและตารางเวลาซ้อม ห้ามแต่ละประเทศพบกัน นักกีฬาจากประเทศต่างๆ จะพบกันขณะแข่งขันเท่านั้น ด้านการแข่งขันมีการลดจำนวนสนามแข่งขันเหลือเพียง 3 สนาม เพื่อเว้นระยะห่างระหว่างสนามห่างกว่าเดิมมาก แต่ละสนามซ้อมเว้นระยะห่างกว่าเดิมและมีผนังกั้นแยกแต่ละสนามซ้อม การรับลูกขนไก่เปลี่ยนจากรับจากมือผู้ตัดสินเป็นรับจากเครื่อง
หลังจากกักตัวครบ 14 วันใน Bubble แล้ว ยังคงไม่สามารถออกจาก Bubble จนกว่าจะถึงวันสุดท้ายของรายการแข่งขันที่ 3 สำหรับผู้ที่ตกรอบ หากประสงค์จะออกจาก Bubble ต้องรอจนพ้น 14 วัน และไม่สามารถกลับเข้ามาใน Bubble ได้อีก รวมทั้งห้ามผู้ที่อยู่ภายนอก Bubble เข้าโดยเด็ดขาดเช่นกัน
นักกีฬาและคณะทั้งหมดต้องปฏิบัติตามมาตรการและกฎระเบียบด้านสุขภาพและความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ครอบคลุมทุกขั้นตอนอย่างละเอียด หากใครทำผิดมาตรการแม้เพียงข้อเดียว จะหมดสิทธิ์แข่งขันและต้องถูกตรวจเชื้ออีกครั้งก่อนถูกส่งตัวกลับไปประเทศของตน
ทั้งหมดอยู่ภายใต้การกำกับควบคุมของทีมงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขจากกรมควบคุมโรค, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, สำนักผู้บังคับทหารอากาศดอนเมือง และกรมแพทย์ทหารอากาศ ที่จะเข้าไปกำกับดูแลควบคุมตลอดช่วงการจัดการแข่งขัน โดยการจัดการแข่งขันแบดมินตันดังกล่าวได้อยู่ภายใต้มาตรการควบคุมโรคและ พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 อย่างเคร่งครัด เข้มงวด ตลอดช่วงระยะเวลา 1 เดือนของการแข่งขันทั้ง 3 รายการ
สำหรับแฟนกีฬาแบดมินตันสามารถชมการถ่ายทอดสดการประชันฝีมือของนักแบดมินตันระดับโลกได้ทางหลากหลายช่องทาง ทั้ง True Visions, True4U, TNN และ TrueID โดย True Visions ถ่ายทอดสดทุกวัน วันละ 2 สนาม สนามละ 10 คู่ รวมถ่ายทอดสดวันละ 20 คู่ โดยถ่ายทอดสดผ่านทาง truesports HD3 ช่อง 668, truesports 7 ช่อง 686 และ truesports HD2 ช่อง 667 รวมเป็นการถ่ายทอดสดรายการโยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น 95 คู่, รายการโตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 95 คู่ และรายการ HSBC BWF World Tour Finals 75 คู่
และรับชมผ่านทาง True4U เฉพาะคู่ที่นักกีฬาไทยลงแข่งขันทุกวัน รายการโยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น จะถ่ายทอดสดวันอังคารและวันพุธ ระหว่างเวลา 16.30-19.00 น. วันพฤหัสบดีและศุกร์ ระหว่างเวลา 14.30-18.00 น. และวันเสาร์ระหว่างเวลา 16.30-18.30 น. วันอาทิตย์ระหว่างเวลา 14.30-17.00 น., โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น จะถ่ายทอดสดวันอังคารและพุธ ระหว่างเวลา 16.30-20.00 น. วันพฤหัสบดีและศุกร์ ระหว่างเวลา 14.30-18.00 น. วันเสาร์ ระหว่างเวลา 16.30-20.00 น. และวันอาทิตย์ ระหว่างเวลา 16.30-19.00 น., HSBC BWF World Tour Finals จะถ่ายทอดสดวันพุธ ระหว่างเวลา 16.30-20.00 น., วันพฤหัสบดีและศุกร์ ระหว่างเวลา 14.30-18.00 น. วันเสาร์ ระหว่างเวลา 17.00-20.00 น. และวันอาทิตย์ ระหว่างเวลา 14.30-18.00 น. และสามารถอัปเดตทุกแมตช์ เกาะติดทุกการแข่งขันได้ทาง TNN 16
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล